22 กันยายน 2545 22:16 น.
จังงัง พรรคลิงรักลิง
ในวันคืนเดือนหงายจันทร์พรายพร่าง
มีใครบ้างข้างเคียงฟังเสียงจันทร์
คอยอ้อนออดพรอดพร่ำด้วยคำหวาน
วอนลมสานทอฝันคืนจันทร์ผ่อง
หากคืนไหนไร้จันทร์อันงามงด
หายไปหมดแสงดาวเจ้าหมายปอง
วอนลมเจ้าเป่าไปฟ้าหม่นหมอง
ให้จันทร์ทองผองดาวได้พราวพราย
ให้ดาวน้อยลอยร่างบนทางฝัน
ให้ดวงจันทร์ยิ้มแฉ่งแสงอำไพ
ให้เธอนั้นฝันดีทุกราตรีไป
ให้เธอได้คว้าใจ.นะเจ้าลม
21 กันยายน 2545 10:33 น.
จังงัง พรรคลิงรักลิง
หัวใจมั่น เคยแน่ว แนบแน่นจิต
ความนึกคิด ทุ่มใจ ไม่ให้เห
ชีวิตนี้ เทไป ไม่คะเน
ความหันเห ที่รับ ได้กลับคืน
สิ่งตอบแทน นั่นหรือ คือว่างเปล่า
มีเพียงเงา ความสุข ที่ล้นเหลือ
อนิจา ไม่อาจ คว้าด้วยมือ
สิ่งที่เหลือ คือทุกข์ ชอกช้ำตรม
ใจเอ๋ยใจ เจ้าจง เฝ้ายอมรับ
จงประจักษ์ เที่ยงแท้ ในเวหน
มีเกิดดับ มอดไหม้ ได้ทุกคน
ความสับสน วุ่นวาย เคล้าคละไป
21 กันยายน 2545 09:27 น.
จังงัง พรรคลิงรักลิง
(๑)
ขอเรียงร้อยถ้อยคำลำนำอ้าง
ยามอ้างว้างร้างลาพระจันทร์หาย
ยามสิ้นดาวพราวแพรวแนวคืนคลาย
ยามหวั่นไหวในวันอันหม่นเดือน
(๒)
คงหลงฟ้าราตรีทิวาล่วง
แสนหวงห่วงดวงแขแลหมางเหมือน
ใยหลบหลีกซีกฟ้าครายลเยือน
ฤาร้างเลือนเพื่อนชมภิรมณ์ดาว
(๓)
เฝ้าชะแง้แลหลงตรงจันทร์ผ่อง
เฝ้าหวังปองมองฟ้าคราเหน็บหนาว
สายลมพัดกวัดไกวใจสั่นเทา
แสนปวดร้าวคราวคืนสะอื้นมอง
(๔)
พระจันทร์เอยเคยชมภิรมณ์อยู่
คงพลัดคู่ดูดายคล้ายกลัดหนอง
ริมสายน้ำยามคืนฝืนใจมอง
พระจันทร์ผ่องพ้องเรา...นั่งเฝ้ารอ...
(๕)
ริมโคนไทรในคืนอันขื่นขม
แว่วสายลมขรมกู่อู้จริงหนอ
กระทบกายใจสั่นพรั่นพนอ
สายลมล้อกอไผ่ให้ไหวเอน
(๖)
เสียงลู่เรียงเอียงไหวปานใจฉัน
ยังหนาวสั่นหวั่นหวาดปราศยากเข็ญ
นั่งสะท้านปานว่าคราลำเค็ญ
ลมพัดเย็นเร้นดาวสกาวพราย...
(๗)
โอ้ว่าไทรไหวโยกโศกสำเนียง
ระบือเสียงเพียงว่าอย่าหลับไหล
กิ่งก้านโกรกโยกย้ายกลายแกมใบ
ดั่งสไบชายพริ้วลิ่วลมลอย
(๘)
เสียงนกน้อยคอยคู่กู่กึกก้อง
เฝ้าร่ายร้องห้องหาว่าเศร้าสร้อย
ดั่งใครกันพรั่นคำยามหลงคอย
ดาวเดือนคล้อยลอยลับกับเมฆา....
(๙)
ใยยาตรเยื้องเอื้องอรนอนหลับฤา
คงสุดมือยื้อยุดฉุดพาหา
สูงเทียบฟ้าเวหาคว้าดารา
เพียงชายตาหาแสงยังแย้งใจ
(๑o)
ไม่เห็นเพ็ญพรายพราวสกาวพร่าง
ดูอ้างว้างร้างนักปักษ์ร่ำไห้
ดูมืดมัวกลัวเกรงเพลงบทใด
แสนอาลัยในพระจันทร์วันมืดมน
20 กันยายน 2545 22:08 น.
จังงัง พรรคลิงรักลิง
เจ้าคือดาวดวงน้อยของพ่อ
เพราะเธอคือ ทุกสิ่ง ยิ่งชีวิต
ไม่เคยคิด ใคร่ทำ ให้ช้ำหนอ
รักใดยิ่ง ใหญ่หนัก ไม่ยักพอ
เทียบเท่าพ่อ รักเจ้า ให้เข้าใจ
เพราะความรัก สร้างเจ้า มอบเอาไว้
ด้วยดวงใจ สุดรัก ไม่หักหาย
จะปกป้อง คุ้มกัน จนวันตาย
ไม่เคยหน่าย แม้เหนื่อยหนัก สักเท่าใด
เจ้าคือดาว ดวงน้อย ในใจพ่อ
ช่วยเติมต่อ สร้างพลัง อย่างมากหลาย
เป็นความหวัง เป็นกำลัง ทั้งใจกาย
ช่วยเติมไฟ ให้อยู่ และสู้ทน
จะจูงมือ พาเจ้า เดินย่างก้าว
จะพาเจ้า เดินไป ให้สู่หน-
ทางสำเร็จ ดั่งมุ่งหมาย ในใจตน
ให้ข้ามพ้น ผ่านไป สู่สิ่งดี
จากวันวาน ผ่านผัน แม้วันหน้า
มิสร่างซา ห่างหาย และหน่ายหนี
เมื่อวานรัก วันนี้รัก มากทวี
วันพรุ่งนี้ ก็ต้องรัก ไม่จากไป
บทสุดท้าย ไม่มีแล้ว แก้วตาเอ๋ย
ที่จะเปรย ว่ารักมาก มาจากไหน
สิ่งที่รู้ แค่รักมาก จากหัวใจ
เพียงหวังให้ เจ้ารู้ อยู่ผู้เดียว
18 กันยายน 2545 22:27 น.
จังงัง พรรคลิงรักลิง
...วันนี้...
...ยามราตรีไร้แสงจันทร์...
...ดั่งใจฉันนั้น...หวั่นไหว...
...ยามลมหวน...ปั่นปวนไป...
...ยามเดียวดาย...ที่ไร้ดาว
...คืนนี้...
...คงไม่มีใครหยอกเย้า...
...คงปราศจากดาว...สกาวพร่าง...
...คงปวดร้าว...คราวอ้างว้าง...
...ยังคงนั่ง...พร่างรำพัน...ผ่านแผ่วไป...
*****
โอ้เดือนดาวสกาวพราวพร่างพราย
ระยิบย้ายยามยลกมลมาตร
เปล่งสีแสงแดงวับระยับปราถน์
พริ้มพิลาสคลาดเคลื่อนเสมือนใคร
ช่างสดใสใฝ่ฝันสนานนัก
เจิดประจักษ์ปักษ์แน่นมิแคลนหาย
มาชวนชื่นยืนมองเดือนผ่องพราย
ดาวเรียงรายหมายให้ได้คว้าชม
ยืนเคียงข้างครั้งคราวมิหนาวนวล
มาเชิญชวนหวลไห้คล้ายสุขสม
นั่งนับดาวคราวคืนดื่นชื่นชม
อภิรมณ์ห่มฟ้าราตรีกาล
นั่นดาวใดคล้ายไก่มารายเรียง
กุ๊กกุ๊กเสียงเพียงว่าหฤหรรษ์
ดาวแมงป่องต้องใจคล้ายเยอรมัน
ดั่งเพลงหวานบัลลาส...ปราชญ์ชวนฟัง
นั่นปูใหญ่คล้ายใคร...พรายระยับ
ราศรีวับรับเรืองเฟื่องมนต์ขลัง...
ราศรีมีไหมใครเกิดบ้าง
ส่วนฉันยังนั่ง...มอง...แมงป่องดาว
ก็ราศรีพิจิก...ซีกฟ้านั้น
ดั่งตัวฉันนั่นเองเกรงปวดร้าว
เขาว่าพลาดปราศรักพรากปวดราว
แมงป่องเศร้าคราวไร้...พิษหายหาง