24 เมษายน 2552 18:04 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
พิณลานางข้ามโขงด้วยปลงจิต
ใจชู้ชิดช่างเหือดหายหมายค่อนโขง
มัจฉาช้ำถลำว่ายพายเคลงโคลง
ไร้รักโยงยื้อยุดฉุดเยื่อใย
พิณสามสายหมายประโลมโลมเนื้ออุ่น
น้ำขึ้นหนุนเกยชิดฝั่งธารหลั่งไหล
พิณบรรเลงเพลงผ่านสู่ธารใจ
สะทกไหมซุงอ้ายเหงาเฝ้าดีดดึง
จนโขงเงียบยะเยียบกายหายเสน่หา
บัดเดี๋ยวลาหย่องสึกลายสายหย่อนขึง
ไร้บทเพลงบรรเลงใดให้รัดรึง
บัดนั้นจึงจำลาไกลไปฝั่งลาว
หากวันใดได้ยินแผ่วแว่วพิณผ่าน
อย่าประมาณว่าพิณอ้ายมัดใจสาว
ของเถลิงสุขสำลักรักที่ฝั่งลาว
ฝากข่าวคราวถึงอ้ายได้ที่สายลม..อิอิ
23 เมษายน 2552 20:15 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
ยลสีเนตรเขตคมคางอำพรางสวย
ยิ้มยั่วด้วยสำแดงรูปสูบกระสัน
ประหวั่นแดแลหลงปลงรำพัน
สูญเสียขวัญบั่นร้าวเข้าทรวงใน
ยักคิ้วบางวางถ้อยน้อยหน่วงหนัก
ก็เพราะนักหลงสำเนียงแว่วเสียงใส
โปรยยิ้มมาอุราอาบสำทาบวัย
สงวนในหทัยแท้แม่หญิงงาม
ยามเยื้องย้ายกายคล้อยลอยราบเรียบ
สะท้านเหยียบยอดหญ้าให้พาหวาม
สไบสะบัดพัดลู่ลมพรมเนตรตาม
ฟ้าสีงามครามทั่วหล้านภาทอง
จึงย่ำเหยียบตามรอยกลอยสวาท
ที่เยิ้มหยาดสายใจเป็นสายสอง
พรมเนตรงามยื้อขวัญนุชสุดครรลอง
กายทั้งสองครองดื่มด่ำร่ำสนธยา
...แบบว่า
22 เมษายน 2552 18:35 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
หักห้ามใจไม่ให้วุ่นกลับครุ่นคิด
จึงสะกิดหัวใจ....ให้ไปสน
หวังเย้าหยอกยั่วยวนชวนยินยล
แต่ฉงนหัวใจ...ใยวุ่นวาย
หรือในใจมันแฝงด้วยแรงอื่น
ถึงหลับตื่นคราใดให้ใจหาย
ยินสำเนียงเสียงเพลงวังเวงกาย
ต้องมนต์พรายร่ายใส่ใจสั่นเครือ
หรือคำหยอกบอกนัยให้เป็นอื่น
ถึงหวลคืนหลอกใจไม่มีเหลือ
กลับทิ้งเหตุเลศนัยให้คลุมเครือ
หรือหยอกเจือ..ด้วยรัก...จักชอบกล
...แบบว่า
12 กุมภาพันธ์ 2552 00:06 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
ร้อยวันเวียนเปลี่ยนทั่วสรรพสิ่ง
ทั้งเท็จจริงวิ่งออกพันตรอกสาย
บ้างก็จริงบ้างทิ้งปมถมความใน
แน่ไฉนในนามที่ตามเลย
มาบัดนี้ฤดีล้าพาเปลี่ยนผัน
ล่วงลุวันพลันแจ้งแถลงเฉลย
อันจอมปราชญที่เคยวาดมิขาดเลย
จะได้เผยนามใหม่....ในเร็ววัน
...อิอิ....ที่บรรยายซะจนลิงหลับเพราะว่าจะเปิดตัวนามใหม่อะครับ..อิอิ
11 กุมภาพันธ์ 2552 19:21 น.
จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
แสงจันทร์ลอดสอดสว่างลงทางแคบ
ผ่องนวลแทบทาบทาชลาสัย
วาวสะท้อนย้อนป่าวนาลัย
อ่อนละไมไล้ประโลม..โคมม่านตา
เมื่อสายลมโลมทวนชวนกระสาย
แสงมนต์พรายหิงห้อยสร้อยระย้า
เลาะดื่มด่ำย่ำหมู่แมกแหวกวนา
ระรื่นลาล้างลากจากแนวไพร
เหลือเพียงฉันกับเธอที่เผลอหลง
ต้องแสงลงปลงวาบปลาบไฉน
ครุ่นรักสองจนรุ่งสางวางหทัย
ถิ่นไม่ไร้...ในรักนี้มีเพียงเรา