4 กรกฎาคม 2555 16:50 น.
ฅนนนทานนท์
บทกวีมีค่ากว่าหลายอย่าง
ทุกก้าวย่างอยู่ข้างเคียงไม่เลี่ยงหนี
คอยปลอบโยนยามเหงาเศร้าโศกี
คอยนำชี้ทางดีมีพลัง
เป็นเพื่อนยากมากกว่าเพื่อนมิเลือนหาย
อาจไม่ใช่เพื่อนตายแต่ได้หวัง
ดังเงากายบ่ดายเดี่ยวเปลี่ยวลำพัง
อิสระจีรังอย่างยั่งยืน
ฉันชอบกลั่นบรรเลงเพลงกวี
บทเพลงที่ออกจากใจที่จะฝืน
ทั้งเศร้าสุขทุกข์เหงาซ้ำเจ็บกล้ำกลืน
ทั้งสดชื่นรื่นรักประจักษ์ใจ
อักษรศิลป์ในสายสินธุ์ร่ายมนตรา
อักษราร่าเริงบันเทิงใส
ฉันมีสุขทุกครั้งนั่งเขียนไป
เป็นสายใจสายศิลป์สายกวี.
3 กรกฎาคม 2555 12:40 น.
ฅนนนทานนท์
อย่าทนทุกข์ ทรมาน ให้นานนัก
ควรรู้จัก ปล่อยวาง บ้างเถิดหนา
พักผ่อนใจ ให้สบาย คลายอุรา
หายเหนื่อยล้า พากายา ก้าวย่างไป
2 กรกฎาคม 2555 12:16 น.
ฅนนนทานนท์
เมื่อก่อนฉัน ทำพันนี้ ที่มองเห็น
อมควันเล่น เป็นประจำ ค่ำเช้าสาย
แต่นานไป ไม่ไหว ทั้งใจกาย
จึงหยุดไว้ ยังไม่ตาย วายชีวัน
29 มิถุนายน 2555 09:35 น.
ฅนนนทานนท์
ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน
เกิดเป็นคนควนทำจนทำได้
มีความฝันมั่นคงจงก้าวไป
อย่ายอมแพ้แก่สิ่งใดให้อดทน
ซื่อสัตย์สุจริตอย่าคิดคด
อาจทนอดเอาบ้างในบางหน
ความพอเพียงเลี้ยงปากท้องตองตัวตน
เลี่ยงให้พ้นอัตตาหาสุญญัง
28 มิถุนายน 2555 09:23 น.
ฅนนนทานนท์
มือถือสากปากถือศีลาศาสน์
จะเป็นทาสศาสนาศรัทธาหรือ
สวดมนตราสมาธินี่สิคือ
อยากให้คนเชื่อถือถึงใจงาม
ปากก็ว่าตาขยิบขยับหยอก
ใจวาจากลับกลอกพอกล้นหลาม
ไม่ซื่อตรงอย่าจงใจในข้อความ
ใครจะตามความจริงจับผิดเรา
คดในข้องอในกระดูกลึก
ความรู้สึกนึกคิดใกล้ชิดเขา
วาจาหวานอ่านยากลำบากเดา
แล้วใครเล่าเข้าถึงซึ่งของจริง