3 ตุลาคม 2549 01:04 น.
คุณชายใจน้ำแข็ง
นานมาแล้ว ที่ความรู้สึกดีๆมันหายไป ตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกัน นี่ก็ย่างเข้าปีที่ 5 แล้วนะที่ความคิดแบบเด็กๆของเรา ทำให้เราต้องห่างกันไป ต่างคนต่างมี ทธิ ของตัวเอง ไม่ยอมใคร เรายังจำได้เลยนะ เวลาที่นายไปเล่นบอลเราก็ไปดู เวลาที่เราไปซื้อของ-ไปเรียนพิเศษ ด้วยกัน มันทำให้เรามีความรู้สึกว่า ในโลกนี้ ยังมี ผู้ชายคนนี้ที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเรา กินด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน เนายเป็นคนที่ขี้อ้อนมากเลยนะ รู้ตัวมั๊ย ถึงแม้ว่าเธอจะคิดกับเราแบบเพื่อนก็ตาม แต่เรานี่สิ หัวใจมันไปอยู่ที่นายหมดแล้ว เราจำได้ว่าเมื่อตอนที่นายอยู่ ป.3 นายน่ะตลกมากเลยนะ เรายังให้ฉายานายเลย ตุ่นปากเป็ดไง อิอิ นายก็บอกว่าอย่าเรียกแบบนั้น แต่ทำไงได้ล่ะ คนมันชอบนี่นาก็เรียกไปนั้นแหล่ะ ตุ่นตัวนี้เรารักหมดใจเลยนะ อิอิ พออยู่ ม.ต้น เรายังมาอยู่โรงเรียนเดียวกันอีก ทำไมน้าเราต้องมาเจอนายด้วย จะบอกให้ก็ได้เราเริ่มชอบนายตั้งแต่ ม. 3 แล้วล่ะ ทำไงได้ล่ะ นายเล่นอะไรก็ให้เราช่วยทำ วิชาศิลปะ มั่งล่ะ สังคม มั่งล่ะ อะไรนักหนาก็ไม่รู้ จนเพื่อนๆมันแซวว่านายกับเราเป็นแฟนกันเลยนะ เราเคยคุยกันเรื่องนี้แล้ว (แฟน) นายบอกว่าไม่ต้องใส่ใจ เพราะว่าเราบริสุทธิ์ใจ อิอิ จริงอ่ะ 55+ แต่ก็อย่างว่าอ่ะนะ นายมันไม่ค่อยได้เรื่อง ต้องอยู่กับคนอย่างเรานี่แหล่ะ เวลาสอบเราก็ต้องหาชีทเรียนให้ มาติวให้ บางวิชาคะแนนมากกว่าเราอีกแน่ะ
แต่นายก็ดีนะเราชอบที่นายเป็นตัวนาย เพราะเวลาที่นายอยู่กับเรา นายคุยและเล่นกับเราแบบเป็นกันเองมากเลย ถ้าคนอื่นมันมาเห็นเรา ต้องเข้าใจผิดกันแน่ๆเลย ก็นายชอบมากอด แล้วก็ชอบนอนตักเราเวลาที่เรานั่งอ่านหนังสือให้ฟัง ใครเห็นไม่เข้าใจผิดก็บ้าแล้ว... อีกอย่างนะ นายไม่มีสาวๆมาติดด้วยอ่ะ เลยทำให้เราดูเป็นคู่..... ยังไงชอบกล แต่นายบอกแล้วว่าไม่ใส่ใจ เราก็เลยเฉยๆตามนายไปเรื่อย อิอิ บางทีมันก็สนุกดีนะ ถ้าเป็นแฟนนายจริงๆ คงตลกพิลึก เพราะอะไรน่ะเหรอ นายก็รู้ว่าเราชอบสาวคนไหนอยู่ นายยังบอกเลยว่าน่ารักดี ขอบใจนะ แต่นายไม่ช่วยเราเลยนี่ดิ เจ็บใจ อย่างว่าแหล่ะนายคงไม่อยากให้เรามีแฟนมั๊ง 555+ (คิดไปเองนะ)
แล้วทุกอย่างที่สนุกและแสนดีก็ได้จบลงตอน ม.4 เมื่อเราได้แยกกันเดินคนละทาง ในเมื่อความคิดไม่ตรงกัน คำว่าเพื่อนก็คงเอาไว้ไม่อยู่ เราคิดที่จะอภัยให้และพร้อมเป็นฝ่ายขอโทษ แต่ท่าทีของนายมันเย็นชาเกินที่เราจะเข้าไปได้ ขอโทษนะที่ผ่านมาเราคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วล่ะ สำหรับนาย อาจไม่สำคัญ แต่กับเรา นายคือคนที่เราเคยให้ความสำคัญ ความรู้สึกของนายเป็นยังไงในตอนนั้นเรารู้ดี แต่ตอนนี้ เราไม่แน่ใจแล้ว ว่า สำหรับนาย เรายังมีตัวตนอยู่มั๊ย วันสุดท้ายของการลาจากชั้น ม.6 มันมีพิธีอำลา นายอยู่ติดกับเรา ซึ่งเรารู้ดีว่านายคงไม่อยากอยู่ตรงนั้นเท่าไรหรอกนะ แต่นายรู้มั๊ยว่า วันนั้นเราอยากบอกนายมากเลยว่า เราขอโทษหากทำให้นายไม่สบายใจ เรายินดีที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เรารู้สึกได้นะว่านายก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเรา เพียงแค่เราไม่ได้คุยกัน วันนั้นหากเราเอ่ยคำเรียกนายสักคำ อะไรๆก็คงเริ่มต้นด้วยดี เราเชื่อว่า วันสุดท้ายแล้วที่เราจะได้เจอกัน นายคงไม่ใจดำกับเรา
แล้ววันนี้เราก็คงยังเป็นเพื่อนกัน อยากให้นายรู้ไว้ว่า หากวันใดนายไม่สบายใจ หรือเดือดร้อน อะไร ก็ขอให้นายนึกถึงเราได้เสมอ แม้ว่าบางครั้งเราอาจไม่ได้เจอกัน ไม่เคยคุยกันเลย แต่เชื่อเถอะว่า ความรู้สึกของเรา มันทำให้มิตรภาพกลับมาได้แน่นอน หากเราพร้อมที่จะเปิดใจ.......
18 กันยายน 2549 16:01 น.
คุณชายใจน้ำแข็ง
มีเพียงความทรงจำเก่าๆที่จางๆ เมื่อเดินมาถึงตรงที่ ที่คุ้นตา สายลมโชยอ่อนๆพากลิ่นลีลาวดี มาต้องจมูก มองไปรอบๆ มีไม้หินอ่อนตัวเก่าที่เคยนั่ง ที่ยังคงสภาพเก่า อยู่ใต้ต้นลีลาวดี ทำให้นึกถึงเรื่องราวต่างๆขึ้นมาอีกครั้ง
ในตอนนั้นผม....ตั้ม เด็กอายุ 13 ที่ชอบมาวิ่งเล่นในสวนลีลาวดีกับเพื่อน จนมาได้พบกับ เด็กผู้ชายผมบางสีน้ำตาลทอง ที่นั่งอยู่ตรงไม้หินอ่อนเก่าๆตัวนั้น ผมวิ่งตามเพื่อนๆไปไม่ทันเลยอยากจะพักสักครู่ หันมาพบแววตาที่ดูเหงาๆของเด็กชายคนนั้น จึงเข้าไปถามด้วยความรู้สึกที่จริงใจ ว่า ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวล่ะ เด็กคนนั้นมองหน้าผม แล้วเงียบไป ผมจึงไม่อยากจะถามต่อ แต่พอกำลังจะเดินก็มีเสียงดังขึ้นมาว่า สนุกมั๊ยครับ เล่นกับเพื่อนๆสนุกมั๊ย ผมไม่เข้าใจในคำถามว่าแฝงด้วยอะไรรึเปล่า จึงตอบกลับไป สนุกสิ นายไม่มาเล่นบ้างหรอ แล้วเพื่อนนายล่ะ เราไม่มีเพื่อน เราเพิ่งย้ายมาที่นี่ ยังไม่รู้จักใคร งั้นดีเลย เรา ตั้ม นะ ยินดีที่รู้จักนายล่ะชื่ออะไรหรอ
เราชื่อ อ๊อฟ นายไปเล่นกับพวกเรามั๊ย อย่านั่งคนเดียวเลย
แล้วผมกับอ๊อฟเป็นเพื่อนที่สนิทกันจนอายุ 18 เราจำเป็นต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปเรียนในที่ๆตนสอบได้ นานๆครั้งเราจะได้ติดต่อกันที เวลากลับมาบ้าน ผมมักจะไปหาอ๊อฟที่บ้านไปดูว่าเค้ากลับมารึเปล่า แต่ทุกครั้งผมไม่เคยได้เจอเค้าเลย แต้ที่บ้านอ๊อฟก็บอกว่าสบายดี เวลากลับมาบ้าน อ๊อฟมักจะถามบ่อยๆว่าตั้มมาหารึเปล่า เราทั้งคู่ เรียนไม่เหมือนกัน ผมเรียนสายวิทย์ ส่วนอ๊อฟ เรียนสายศิลป์ เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมักจะพูดกันเรื่องฟุตบอล เรื่องเกมส์ และผู้หญิง เป็นธรรมดาของเด็กผู้ชายทั่วไป
เราโทรคุยกันว่าถ้าเรียนจบเมื่อไร เราทั้ง 2 จะมานั่งคุยกันที่ไม้หินอ่อน ตัวเก่าอีกครั้ง เราให้สัญญากันไว้ ว่าไม่ว่าใครจะเป็นยังไง ให้กลับที่เดิม ที่ๆคำว่า เพื่อนมันเกิดมา และตอนนี้ ผมอยู่ ปี3แล้ว อีกเพียงปีเดียว เราทั้งคู่ก็จะประสบความสำเร็จก้าวที่หนึ่งแล้ว แต่ทำไม ผมต้องมาอยู่คนเดียว อ๊อฟ นายให้เรามาที่นี่ทำไม นายทิ้งเรามาก่อนได้ยังไง นายสัญญากับเราไว้แล้วนี่ ว่าเราจะกลับมาพร้อมกัน นายผิดสัญญา นาย..........จากเราไป.......
ผมได้ทราบว่าอ๊อฟเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจากที่บ้านอ๊อฟ ใจของผมหายไปพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลลงมา
ทันทีที่รู้ข่าวของอ๊อฟ ผมกลับมาที่บ้านเพื่อที่จะมาพบกับอ๊อฟอีกสักครั้ง แม้ว่าผมจะรับรู้เพียงฝ่ายเดียวก็ตาม ผมคิดถึงเค้าเสมอ วันนี้ ผมยืนอยู่ตรงนี้ ตรงที่ๆผมกับอ๊อฟได้ ให้ความสำคัญ กับคำว่า เพื่อน....
ขอให้เราเป็นเพื่อนกันตลอดไป.......