2 กันยายน 2545 20:36 น.
คุซาโนะคุง
A group of students were asked to list what they thought were the present
Seven Wonders of the World. Though there was some disagreement, the
following got the most votes:
1. Egypt's Great Pyramids
2. Taj Mahal
3. Grand Canyon
4. Panama Canal
5. Empire State Building
6. St. Peter's Basilica
7. China's Great Wall
While gathering the votes, the teacher noted that one quiet student hadn't
turned in her paper yet. So she asked the girl if she was having trouble
with her list. The girl replied,"Yes, a little. I couldn't quite make up my mind because there were so many." The teacher said, "Well, tell us what you have, and maybe we can help." The girl hesitated, then read, I think the Seven Wonders of the World are:
1. to see
2. to taste
3. to touch
4. to hear
She hesitated a little, and then added,
5. to feel
6. to laugh
7. and to love
The room was so full of silence you could have heard a pin drop.
Those things we overlook as simple and "ordinary" are truly wondrous.
A gentle reminder this year that the most precious things in life cannot be
bought.
2 กันยายน 2545 20:31 น.
คุซาโนะคุง
สำหรับคนที่ใส่นาฬิกาข้อมือเป็นประจำ คงจะรู้สึกได้ .. ถ้าวันหนึ่งนาฬิกาเรือนนั้นได้หายไปจากข้อมือ และคงรู้สึกขัดเขินทุกครั้งยามยกข้อมือที่ว่างเปล่าขึ้น เพื่อมองหาเวลากับสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ได้พบหรือทำเป็นประจำ มันย่อมก่อให้เกิดความผูกพัน หรือ ความเคยชิน ฉันเก้อเขินทุกครั้งยามยกข้อมือขึ้นดูเวลาแล้วพบกับความว่างเปล่า อะไรบางอย่าง .. ทำให้นึกถึงใครบางคนในช่วงเวลาที่เค้าหายไป ฉันรู้สึกขาด .. เมื่อมองไปรอบ ๆ แล้วไม่พบเค้า ฉันเคยรู้สึกพอใจที่มีเค้าอยู่ใกล้ๆ ในวันที่ไม่แข็งแรง แต่บางครั้ง .. กับพอใจกับการเดินคนเดียว
มีใครบางคน .. บอกว่า .. คนเราจะรู้ค่าต่อเมื่อได้สูญเสีย สำหรับตัวเองกับคิดว่า .. ยอมสูญเสียดีกว่า .. เพื่อให้ได้ลึกซึ้งถึงคุณค่านั้น บางทีมันอาจจะเป็นการดี
หากฉันจะอยู่ห่าง ๆ หรือ ตัดขาด จากอะไรบางอย่าง เพื่อให้รู้ซึ้ง ถึง หัวใจตัวเองให้มากขึ้น กับใครบางคนที่ขาดหายไปในชีวิต คงจะเหมือนกับเราไม่มีนาฬิกาบนข้อมือ และคงมองหากับการหายไปในช่วงแรก ๆ แต่อีกไม่นาน มันคงจะเป็นความเคยชิน
2 กันยายน 2545 20:28 น.
คุซาโนะคุง
ไก่ กระต่าย เป็ด และหมู เป็นเพื่อนกัน ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานทั้งสี่เริ่มที่จะสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ
-ไก่...ขยัน อดทน ตื่นแต่เช้า หาอาหารมาให้ทั้งตัวเองและเพื่อนๆ
-กระต่าย...น่ารัก สุภาพ พูดจาอ่อนหวาน เป็นที่รักและเอ็นดูของเพื่อนๆ
-เป็ด...โผงผาง ใจร้อน เสียงดัง พูดจาตรงไปตรงมา
-หมู...ขี้เกียจ พูดจากระโชก โฮกฮาก ไม่สะอาด แต่รักเพื่อนเป็นที่หนึ่ง สามารถทำอะไรเพื่อเพื่อนได้เสมอ
ด้วยการเดินทางที่ต้องผ่านปัญหาและอุปสรรคมากมายทั้งสี่จึงสนิทและรักกันมากทุกตัวล้วนมีความสำคัญให้แต่ละตัวซึ่งกันและกัน วันหนึ่งทั้งสี่ตัวต้องเดินทางผ่านโคลนสกปรก เหม็น และมีแต่เชื้อโรคทั้งสี่ตัว ไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นที่จะต้องเดินผ่านบ่อโคลนนี้ หากจะเดินกันไปทีละตัว แต่ละตัวต้องสกปรก และป่วยด้วยเชื้อโรคนั้นแน่นอน หมูจึงรับอาสาที่จะให้เพื่อนขี่หลังเพื่อเดินข้ามไป กระต่ายจึงพูดขึ้นว่า "ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะหมูตัวโตและแข็งแรง" หมูได้ยินเช่นนั้นจึงดีใจและภูมิใจมาก เป็ดเลยพูดขึ้นว่า "และหมูก็ชอบเล่นโคลนสกปรกอยู่แล้วนี่หว่า...ก๊ากกกก" หมูเองได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะต่อกัน กระต่ายเลย พูดขึ้นว่า "ไปว่าหมูอย่างนั้นได้ยังไง เดี๊ยวหมูก็เสียใจหรอก"
หมูเลยพูดว่า "ไม่เป็นไรหรอก ฉันรับได้เพราะถึงยังไงเราก็เพื่อนสนิทกัน พูดมาแบบนี้ ฉันไม่ถือหรอก" "ใช่แล้ว เราสนิทและรักกันมากและรู้ใจกัน เรื่องแค่นี้พูดกันเล่นๆ แค่นั้นเอง" เป็ดพูดขึ้น "งั้นเราเดินทางกันต่อเถอะ เดี๋ยวจะมืดซะก่อน" ไก่เอ่ย
ทั้งสามจึงขึ้นหลังหมูแล้วเดินไป ในระหว่างที่อยู่ในโคลน เป็ดมองไปเห็นไส้เดือน จึงใช้ปากคุ้ยโคลนเพื่อที่จะกินไส้เดือน ในระหว่างที่คุ้ยโคลน โคลนเกิดกระเด็นไปโดนกระต่าย กระต่ายเลยสกปรกไปด้วย
กระต่ายร้องขึ้นมาว่า"เป็ด ระวังหน่อยสิ โคลนมันกระเด็นมาโดนฉันนะ" "อะไรกัน แค่นี้เอง เดี๋ยวผ่านบ่อโคลนไปค่อยทำความสะอาดก็ได้นี่" เป็ดบอก "แต่มันไม่เหมือนเดิม เพราะขนขาวๆ ของฉันมันก็คงเป็นรอยเปื้อนอยู่ดี" กระต่ายเถียง "เอาน่า หยุดได้แล้ว นิดเดียวเองนะกระต่าย เป็ดเองก็ไม่ได้ตั้งใจ ดูหมูซิ เค้าเปื้อนทั้งตัวแถมต้องแบกเราอีก เค้ายังไม่บ่นซักคำ" ไก่เตือน
กระต่ายด้วยความเคืองนิดๆ จึงพูดออกมาโดยไม่ทันคิดว่า "ก็หมูสกปรกนี่ ไม่เหมือนฉัน ฉันต้องสะอาด สกปรกไม่ได้" หมูเองได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่เหตุใดเพื่อนถึงพูดกับเขาเช่นนั้น หมูก็ร้องไห้ออกมา ไก่จึงพูดขึ้นว่า
"แล้วนี่คือสิ่งที่หมูต้องได้รับเหรอ กับการที่เค้าเป็นหมู มีนิสัยเป็นหมู เค้าต้องได้รับแต่สิ่งสกปรกเท่านั้นเหรอ แล้วการที่เป็ดกินอะไรแล้วต้องคุ้ย แล้วไก่อย่างฉันต้องเขี่ยอย่างนี้ มันเป็นพื้นฐานนิสัยที่ติดตัวเรามาตลอดนะ เราเลือกได้เหรอ.. ความแตกต่างของแต่ละตัว ไม่เหมือนกัน เราเป็นเพื่อนกัน ต้องเข้าใจและ เปิดใจรับสิ่งที่ไม่สวยงาม และสิ่งที่สวยงาม ซึ่งกันและกันสิ ไม่มีใครที่สวยงามได้ตลอดเวลานะ" เป็ดจึงพูดขึ้นว่า "ฉันก็คิดว่าเราสนิทและรักกันมาก เชื่อใจกันรับรู้ในสิ่งที่แต่ละตัวเป็นแล้ว ฉันไม่ทันนึกว่าเธอรับฉันแบบนี้ไม่ได้ฉันขอโทษนะ" กระต่ายได้ยินเช่นนั้นจึงพูดขึ้นว่า "จริงสินะ เราเป็นเพื่อนกัน แถมเป็นเพื่อนรักกันด้วย ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจนะว่าเราทั้งสี่แตกต่างกัน แต่เรายังสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ มาด้วยกันได้ขนาดนี้ แล้วแต่ละตัวเราก็ไม่เหมือนกันเลย ฉันขอโทษนะที่ฉันเป็นอย่างนี้" หมูกล่าวขึ้นว่า "ไม่เป็นไรหรอกกระต่าย ฉันก็เข้าใจว่าเธอน่ารัก สะอาด และจิตใจ อ่อนไหว เธอก็ไม่เหมือนกับฉัน บางครั้งฉันก็พูดอะไรหรือทำอะไรที่กระโชกโฮกฮากไป บางครั้งเธออาจจะรับไม่ได้
แต่ฉันคิดว่าด้วยความที่เราเป็นเพื่อนรักกัน เธอคงจะรับฉันได้ซักวันหนึ่ง" กระต่ายรู้สึกผิดมากจึงกล่าวขึ้นมาว่า "ฉันเองก็ขอโทษด้วยที่ฉันอ่อนไหวเกินไปแบบนี้ ฉันก็หวังว่าสักวันหนึ่งเราแต่ละตัวที่แตกต่างกันคงเข้ากันได้และยอมรับในสิ่งที่แตกต่างกันของแต่ละตัวได้" ไก่จึงพูดขึ้นบ้างว่า "เอาล่ะ แต่ละตัวก็เข้าใจกันแล้วนะ ด้วยความแตกต่างของแต่ละตัว และด้วยความที่เรารักและสนิทกันและก็รู้จักกันมานาน บางครั้งจึงทำอะไรโดยไม่ทันคิด แต่ทำให้อีกคนรู้สึกไม่ดี ฉันคิดว่าคงไม่ได้ตั้งใจและเผลอทำอะไรไปก็เท่านั้น" เป็ด: "เราเข้าใจกันดีแล้วนะ งั้นเราเป็นเพื่อนที่รักและสนิทกันมากขึ้นนะ เพราะเราก็รับในสิ่งที่แตกต่างของแต่ละตัวได้แล้ว" หมู: "ใช่แล้ว! งั้นเราทั้งสี่มาร่วมกันและตั้งใจที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมๆกันและเดินเคียงข้างกันอย่างนี้ตลอดไปนะ" หมู เป็ด ไก่ กระต่าย : "ไชโย!! เราเป็นเพื่อนรักกัน" แล้วทั้งสี่ก็เดินไปด้วยกัน อยู่เคียงข้างกันไป ตลอดเส้นทางเดินแห่งนั้น......
นิทานเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ด้วยความแตกต่างของแต่ละตัว ทำให้เกิดความไม่เข้าใจและไม่พอใจในอีกฝ่าย และบางครั้งด้วยความที่ทั้งสี่สนิทกันมาก การกระทำบางอย่างที่แสดงออกไปจึงไม่ทันคิดว่าอาจจะไปทำร้ายความรู้สึก หรือทำให้ใครอีกคนไม่เข้าใจ แต่ด้วยความที่ทั้งสี่คือเพื่อนรัก เพื่อนสนิท เพื่อนที่รู้จักรู้ใจกันมานาน จึงทำให้ทั้งที่กลับมาเป็นเพื่อนรักและเพื่อนสนิทกันได้ อย่างเดิม
คำว่าเพื่อนรักของคุณ คุณให้ความหมายและความสำคัญของคนที่คุณ ให้เค้าเป็นเพื่อนได้แค่ไหน คำตอบอยู่ที่ตัวคุณเอง บางครั้งคุณอาจจะได้รับในสิ่งที่คุณ
ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเพื่อนสนิทจะทำอย่างนี้กับคุณ แต่หากมองย้อนกลับไป คุณเองก็อาจจะทำอะไรที่ไม่คาดคิดกับเพื่อนของคุณได้เช่นกัน
กลับมามองอีกทีว่า คุณให้ความหมายกับเพื่อนของคุณมากมากแค่ไหน เพื่อนที่มีแต่สิ่งที่ดีให้แก่กันแค่นั้นเหรอ เพื่อนที่จะยิ้มและสนุกไปด้วยกันแค่นั้นเหรอ แล้วหากวันหนึ่ง เกิดฝ่ายใดทำอะไรที่ไม่ดีหรือไม่สวยงามขึ้นมาล่ะ คุณเข้าใจและรับรู้ในสิ่งเหล่านั้นได้มากแค่ไหน คุณสามารถที่จะให้อภัยในสิ่งที่ผิดพลาด ทั้งที่อาจจะเกิดจากความตั้งใจและไม่ตั้งใจได้มากน้อยแค่ไหน... คำตอบย่อมอยู่ในใจคุณดี.... กลับมามองและเข้าใจเพื่อนของคุณดีแล้วหรือยัง เข้าใจเพื่อนของคุณมากน้อยแค่ไหน เมื่อคุณอ่านข้อความข้างต้นจบ....คุณคิดถึงใครล่ะ? คุณเท่านั้นที่รู้คำตอบ
13 สิงหาคม 2545 20:10 น.
คุซาโนะคุง
รัก...เหมือนกับ บางทีก็ Online บางทีก็ busy บางทีก็ easy
รัก...เหมือนเขียน Java Script ที่ละเอียดอ่อน ผิดแม้นิดเดียวก็ Error
รัก...เหมือนดั่ง P-II หากไม่ปรับตัวใช้ m/b แบบ Slot-One คงเข้ากับเธอไม่ได้ รัก...เหมือนดัง Ink-jet printer เปลืองน้ำหมึก และเสียบ่อยดั่งรักที่รวนเร
รัก...เหมือน "Not enough memory" แม้ทำทุกอย่างเพื่อเธอ ก็ไม่เพียงพอ
รัก...เหมือน handy scanner ..คงไม่สามารถสแกนหัวใจ A4 ของเธอได้
รัก...เหมือน 4.5 MOD 3 หารกันไม่ได้ เพราะเราไม่เข้าใจกัน
รัก...เหมือน Compile..Error!! เธอไม่เคยเข้าใจ ไม่ตอบสนอง
รัก...เหมือน Sub-Directories มีมากมายแด่ใครๆ จนฉันหา file หัวใจเธอไม่พบ
รัก...เหมือน Power Supply ที่จ่ายไปเลี้ยงหัวใจเธออย่างเพียงพอ
รัก...เหมือนเสียง Modem ตอน connect ติด ช่างสุขใจเหมือนได้ยินเสียงเธอ
รัก...เหมือน Microsoft Windows พร้อมจะพังทลาย (เจ๊ง) โดยไม่มีวี่แววมาก่อน
รัก...เหมือน อาการ Access Violation ไม่ยอมบอกเหตุผล แต่ก็ไม่ยอมให้แก้ตัว
รัก...เหมือน ภาษา Assembly ทำให้เธออย่างยากลำบาก ทั้งที่ผลที่ได้รับ เพียงน้อยนิด
รัก...เหมือน Microsoft Mouse คงทน มั่นคง
รัก...เหมือน Light Pen มักจะไม่ลงรอยกันง่ายๆ (ชี้ที่นึง Cursor ไปโผล่อีกที่นึง)
รัก...เหมือน สาย Lan Coaxial ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าให้หลุดลอยไป (โยงออกนอกตึกทีไรฟ้าผ่าทุกที)
รัก...เหมือน printer Epson FX800 เพียงครู่เดียวก็ร้อนแรง (หัวพิมพ์ไหม้)
รัก...เหมือน VR-headgear เมื่อมีเธอ เราก็อยู่ในโลกของเรา ด้วยกันเพียงสองคน...
รัก...เหมือน "File corrupted" อยู่ดี ๆ เธอก็เปลี่ยนไป
รัก...เหมือน "A)bort R)etry I)gnore" มีแค่ 3 ทางเลือก จะเลิก จะฝืนหรือจะอยู่แบบซังกะตาย
รัก...เหมือน "Your program has perfromed an illegal opertaion and will be shut down" ว้าทำไม่ถูกใจเธอซักที
รัก...เหมือน "Error 404 Objected not found" ไขว่คว้าหาตัวตนไม่ได้
รัก...เหมือน "Error 403 Access Forbidden" ถ้าไม่รู้ password ของใจเธอก็อย่าหวังซะดีกว่า
รัก...เหมือน IBM labtop (for Hi-so girls) หมดตัวก่อนจะได้มา
รัก...เหมือน 486dx4-100 ฉันคงให้เธอได้เพียงเท่านี้ สักวันเธอคงทิ้งฉันไปหาคนที่ดีกว่า
รัก...เหมือน If....Then....Else เธอชอบสร้างเงื่อนไขในความรัก จนฉันไม่รู้จะทำเช่นไร
รัก...เหมือนกำหนด Boolean=False ดังเธอปิดใจ ไม่เปิดให้ใครคนใหม่
รัก...เหมือนดั่งหนังสือ Computer แรกๆ ก็ชื่นชมอยากชิดใกล้ สุดท้ายก็เบื่อ และถูกทอดทิ้ง
รัก...เหมือนสร้าง HomePage.. เมื่อมองภายนอกดูสวยงาม แต่แฝงไปด้วยภาษา Java ที่ซับซ้อน ดั่งหัวใจเธอ.. ที่ฉันไม่สามารถมองเห็น หรือเข้าใจ.. ส่วนลึกของหัวใจเธอได้
รัก...เหมือน Under Costruction!! ปีแล้วปีเล่าเธอก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลง...
รัก...เหมือนกับ Harddisk ถ้าติด Virus(HIV) คงต้อง format ใหม่ลูกเดียว
รัก...เหมือนกับจอมอนิเตอร์ ทำให้คนตาบอด (สายตาสั้น..ตาเอียง...)
รัก...เหมือนกับ RAM ขาดไฟเลี้ยง ความจำก็ถูกลบ
รัก...เหมือนกับ software ถ้าจะเอาแบบถูกลิขสิทธิ์ ราคาก็แพงหน่อย (หรือไม่หน่อย)
รัก...เหมือนการกลิ้งเม้าส์ ต่อให้กลิ้งมากขนาดไหน ก็ไม่เคยออกนอกจอเลย (นิยามคนเจ้าชู้ อิ.อิ..)
29 กรกฎาคม 2545 20:30 น.
คุซาโนะคุง
หน้าผาก - อวัยวะที่ใช้ประกอบกับเท้าเวลามีทุกข์ (นอนเอาเท้าก่ายหน้าผาก)
ผม - เรียกอีกอย่างว่า "ขนหัว" ใช้แสดงอาการตกใจมากๆ (ขนหัวลุก)
ตา - อวัยวะที่ใช้ในการมอง จะมีอุณภูมิสูงมากเมื่อเห็นใครได้ดี (อิจฉาตาร้อน)
หู - อวัยวะที่ใช้ในการฟัง ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา จึงก่อให้เกิดเรื่องขึ้นบ่อยๆ
ปาก - อวัยวะที่ใช้พูดส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ
คอ - อวัยวะที่เชื่อมระหว่างตัวและหัว เป็นอวัยวะที่คอยหันหาคนอื่น
ก้านคอ - อวัยวะที่คอยรับแข้งคนอื่น
ไหล่ - อวัยวะที่คู่กับบ่า (เคียงบ่าเคียงไหล่) มีไว้ให้คนเหงาใจหรือเศร้าใจซบโดยเฉพาะ
บ่า - อวัยวะที่คู่กับไหล่ (เคียงบ่าเคียงไหล่) อาชีพกังมีไว้แบกข้าวสาร
หัวใจ - อวัยวะสูบฉีดเลือดและฟอกเลือดให้กับร่างกายมีไว้ให้แสดงความรักและเก็บรักไว้
ปอด - อวัยวะที่รับอากาศมาส่งหัวใจ บางครั้งใช้แสดงระดับความกล้าหาญ
หน้าอก - อวัยวะที่รองรับเรื่องหนัก อาทิเรื่องหนักอก ซึ่งผู้หญิงจะหนักกว่าผู้ชาย
นม - อวัยวะที่บ่งบอกภาระการรับน้ำหนักของอกผู้หญิงมีไว้บริการนมให้บุตร ผู้ชายถึงมีก็ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ก็ไขว่คว้าอยากได้มาเชยชม..
ศอก - ข้อต่อระหว่างแขนและข้อมือ มีไว้เป็นอาวุธประจำกาย และรองน้ำสำหรับบรรดาภรรยาน้อย ไม่เป็นที่แนะนำสำหรับสาวๆ มันอันตราย
มือ - เป็นอวัยวะปลายสุดของแขน มีนิ้วเป็นส่วนประกอบ นิยมใช้เงินยกเห็นกันมากในสภา
กำปั้น - เป็นอวัยวะชิ้นเดียวกับมือแต่เปลี่ยนรูปเป็นอาวุธ นิยมใช้ตัดสินปัญหาในกรณีที่ไม่ได้ใช้สมองแก้ปัญหา
ตัว - เป็นชิ้นส่วนใหญ่ของร่างกายให้อวัยวะอื่นได้พักพิง จะลืมกันมากเวลาได้ดี
สะดือ - เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ยามอยู่ในครรภ์ เมื่อโตขึ้นใช้วัดระดับความสุภาพ ถ้าต่ำกว่านี้ทะลึ่ง!!
ขาอ่อน - เป็นอวัยวะเชื่อมต่อจากสะโพกลงมา นิยมใช้ในการประกวด เพราะเห็นได้เด่นชัดกว่าสมอง
หัวเข่า - ข้อต่อระหว่างขาและหน้าแข้งเป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนผู้ชายและบางคนใช้ซับน้ำตาเวลาเศร้า นิยมมากสำหรับคนหลงรักชาวบ้าน
แข้ง - อวัยวะที่ถัดมาจากเข่านิยมใช้พาดก้านคอ
น่อง - อวัยวะที่อยู่ด้านหลังของแข้งใช้วัดระดับความแข็งแรงของขา และวัดความกร้านชีวิต
ขนหน้าแข้ง - อวัยวะที่วัดระดับของฐานะ ยิ่งรวยมากขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย
เท้า - เป็นอวัยวะที่ใช้ยืนบางครั้งใช่ก่ายหน้าผาก หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลักซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า "ยัน"