9 พฤษภาคม 2552 12:37 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
-- ต้องใช้กี่จิตรกร
มาระบายสีใบไม้ทีละใบให้เปลี่ยนสี
เป็นสีของฤดูใบไม้ร่วง
-- ต้องใช้คนสวนกี่คน
มาปลิดใบไม้ทีละใบให้ร่วง
มาเต็มลาน
-- เพื่อที่ทุกอย่างจะเคลื่อน
เราต้องการแค่โลกใบเดียว
-- ต้องใช้กี่ผู้ดู
มามองใบไม้ผ่านแสงเรืองสว่างเห็นสวย
-- ต้องใช้กี่คน
มารับรู้โลกอย่างที่มันเป็น
-- ธรรมชาติ คือธรรมดา
7 พฤษภาคม 2552 14:35 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เธอมีสองชายเข้ากรายใกล้
มีสองใจพร้อมเสนอให้เธอสน
เขาคนนั้นฉันคนนี้ ดีทุกคน
เธอกังวลหม่นหมอง ต้องเลือกทิ้ง..
รักเขาหวงห่วงหัวใจไม่ให้เหงา
รักฉันเล่าเย้าหัวใจให้สุขยิ่ง
หากตัดเขาก็อาจเหงาจับใจจริง
ตัดฉันทิ้งก็แล้งไร้ใครยั่วยิ้ม
เธอสับสนปนเศร้าในเงารัก
คิดกังวลทนทุกข์หนักน้ำตาปริ่ม
ยิ้มก็ฝืดฝืนไปไม่พรายประพิมพ์
เหมือนเข็มทิ่มปักคาใจไปทุกวัน
ไม่อยากให้เธอลำบากใจอะไรอีก
จะขอหลีกทางรักสลักมั่น
ถ้ามิได้ครองคู่อยู่ด้วยกัน
ก็ขออยู่แค่ในฝัน ฉันขอลา..
ขอพักพิงเป็นเพียงผู้อยู่ในใจ
ซ่อนอาศัยในนิยามความห่วงหา
ให้เธอเห็นฉันทุกทีที่หลับตา
คงดีกว่า.. เธอเห็นเขาแม้เราเคียง
7 พฤษภาคม 2552 14:31 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เราต้องไป-ผ่าน ที่ต่างๆที่ไม่ใช่เป้าหมาย
เราต้องทำอะไรที่ไร้สาระบ่อยครั้ง
เหมือนมันไร้ค่า แต่ว่า ..ไม่
-- เพื่อวันนี้มาถึง วันที่อ้างว้าง..
สิ่งที่ไม่มีค่า ไร้สาระ สิ่งที่ไม่ได้จำ
มันเหมือนเป็นดินก้อนน้อยๆ
ที่ค่อยๆสะสมเป็นทำนบ
กั้นน้ำตาเราไม่ให้ไหล
..ในวันนี้ที่อ้างว้าง เหลือเกิน
7 พฤษภาคม 2552 14:28 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ยืนใต้ต้นไม้ ใบหลายสีที่สวย
คุณมิอาจไม่เป็นศิลปินไป
..อย่างใดอย่างหนึ่ง
-- เป็นจิตรกรวาดภาพระบายต้นไม้สีสุกลุกโพลง
เป็นกวีเขียนบรรยายงามทะลุล้นหน้ากระดาษ
หรือเป็นคนกินข้าวห่อ เอร็ดอร่อย ใต้ต้นไม้นั้น
5 พฤษภาคม 2552 13:28 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ใช้ชีวิตช้า ช้า
ยืนนิ่งนิ่ง หายใจยาว ยาว
ฟังเพลงเย็นๆ
-- เราเป็นปฏิมากร ปั้นแต่งโลกในสมองของเรา
ปาดทิ้ง แปะเสริม เหมือนงานปฏิมากรรม
ด้วยการผ่านโลก จำบางเรื่อง ลืมทิ้งบางเรื่อง
-- จะเป็นงานศิลปะ หรือขยะอีกชิ้น
ก็แล้วแต่เรา และทุกนาทีที่ผ่านไป