28 มีนาคม 2552 23:51 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ร้องไห้เถิดยอดมิตร ถ้าคิดจะร้อง
เธอไม่ต้องกลั้นไว้ เพื่อใครทั้งสิ้น
น้ำตานั้นมีค่าเมื่อไหลบ่าระริน
ช่วยล้างใจให้สิ้น ที่ทุกข์ตรมตรอม
การร้องให้ บอกว่าใจเรายังมีค่า
จึงต้องใช้น้ำตา หลั่งมาถนอม
เจ็บเหมือนยาใส่แผล แน่แท้จำยอม
บอกโดยอ้อม ว่าใจนี้ ยังมีราคา
เพื่อวันพรุ่งรุ่งเช้า เรานั้นจะตื่น
ด้วยดวงใจ สดชื่น เปี่ยมด้วยคุณค่า
พร้อมพบรักที่ดี กว่าที่ผ่านมา
เพราะว่าเรารู้ค่า ราคาใจเรา
อันนี้ ลองเขียนตอบกลอน น้ำตาฝน นะครับ
28 มีนาคม 2552 13:25 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เหมือนฝน แต่ไม่ใช่ฝน
เม็ดน้ำมันช้า มันละเอียดโรยละออง
มันไม่ชัดแต่ใช่
ทำให้ที่มืด สว่างเรืองด้วยแสงสะท้อนน้ำฟ้า
-- เหมือนฝนแต่ไม่ใช่ฝน
มันป็นฝัน
มันเป็นฝนปนฝัน และมันปันฝน
28 มีนาคม 2552 13:21 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
หายใจกลิ่นดอกไม้แปลกหน้า
นานา สารพัดดอกสารพัดสี
-- เมื่อคุณแปลกหน้าต่อกลิ่นดอกไม้
มากๆเข้า
คุณก็จะแปลกหน้าต่อคน ใครๆ
จนถึงระดับหนึ่ง
คุณจะแปลกหน้าต่อตัวเอง
27 มีนาคม 2552 13:55 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
เริ่มงานเลี้ยง
คนผูกลูกโป่งสามสีสามใบเข้ากับกิ่งไม้
ให้สามสีเต้นรำกับลมเป็นการฉลอง
ลูกโป่งเต้นรำ
เงาของลูกโป่งบนพื้นก็เต้นรำ
ลูกโป่งเต้นรำ จนงานเลี้ยงเลิกรา ยังไม่เลิกเต้น
เงาของลูกโป่งก็ยังไม่เลิกเต้น
-- อาทิตย์หนึ่งผ่านไป
ลูกโป่งสามใบฟีบแฟบ
เงาลูกโป่งก็ยังเต้นรำ
อยู่เคียงข้างกับเงาของฉันที่เต้นรำ
27 มีนาคม 2552 13:43 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ฤดูใบไม้ผลิ
มิได้มีเพียงใบไม้ใหม่ผลิ
ดอกหญ้าเล็กๆ ผุดพราวผืนหญ้า
แต่เล็กคนเห็นเพียงจุด
มิได้ชมดูอย่างดอกไม้ใหญ่
กระทั่งเดินไปบนดอกไม้นั่น
-- ขอโทษ ที่ฉันก็เดินไปด้วย
แต่เดินบนความรู้สึกว่า
เดินไปบนผืนฟ้ามีดาวพราย
..ขอบใจดอกหญ้าดาว