8 พฤษภาคม 2554 14:23 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
รู้ว่าเธอไม่มีไมตรีให้
รู้ว่าใจเธอไปลับไม่กลับหวน
รู้ทุกคืนต่อนี้ไป ใจต้องครวญ
รู้หมดถ้วนแต่ทำใจไม่ได้เลย
..ทำไมนะ ทำใจไม่เคยได้
ทำไมเฟื่องเรื่องร้ายๆร่ายเฉลย
ทำไมไม่ปล่อยว่างวางอย่างเคย
ทำไมเอ๋ยทำไม เจ็บไม่จำ
รู้คำตอบ ..ว่าเพราะเรารักเขามาก
รู้ว่ายากจะรั้งใจไม่ถลำ
รู้ว่าทำใจยากลำบากทำ
รู้คำตอบแต่เฝ้าย้ำ ถาม ..ทำไม
7 พฤษภาคม 2554 14:27 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
อ่าน ขำขัน มา เอามาเขียนเป็นกลอน
อาจจะไม่สุภาพสักนิดนะครับ
เศรษฐีใหญ่ใจดีมีลูกชาย
มุ่งใจหมายให้ได้เมีย ประเสริฐศรี
จึงประกาศโฆษณาทั้งธานี
ให้นารีทั่วนครามาคัดตัว
คัดอายุ ไม่เกินสาวสิบเก้าปี
และต้องมีสมองใสเก่งใช้หัว
ทำข้อสอบ ตอบสัมภาษณ์ มาดต้องชัวร์
ไม่มืดมัว เมื่อมุ่งมั่นประชันชัย
.. ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้สามคน
สามหน้ามล ล้วนเข้าตาว่าใช้ได้
ลูกชายก็เห็นงามตามพ่อไป
โจทย์ข้อใหญ่ ข้อสุดท้ายใช้ประลอง
ให้จัดวางของใส่ไว้สามชาม
ชามหนึ่งงามรองเรืองเครื่องทองหยอง
อีกชามใส่ธนบัตรมัดเป็นกอง
ชามสุดท้องวางไว้แต่แค่หัวมัน
กำหนดโจทย์ให้เลือกว่าถ้าสอบตก
เธอจะยกชามไหนเป็นเช่นของขวัญ
เพื่อให้เป็นของตอบแทนแม้นรางวัล
เชิญตอบพลัน เลือกเอาไปตามใจนาง
คนแรกตอบขอเอาทอง ของมีค่า
คนสองว่าต้องเอาเงิน ไม่เมินหมาง
คนที่สามคิดไปในใจพลาง
แล้วตอบอย่างมั่นอุราว่า "หัวมัน"
สิ้นคำตอบเศรษฐีดีใจนัก
ส่วนลูกรักก็ท่าทีขมีขมัน
บอกเจอแล้ว ผู้มีชัยในประชัน
พ่อจ๋าฉัน เลือกเบอร์สามผู้งามดี
พ่อดีใจว่าเลือกได้ถูกใจพ่อ
..รู้จักพอไม่หวังทรัพย์สินเศรษฐี
ลูกส่ายหน้าว่าไม่ใช่ในวาที
ฉันแค่เลือกสาวคนนี้ที่เอามัน
แบบว่า.. ลูกชายชอบกินมัน
ก็เลย ชอบคนที่กินมันเหมือนกันมั้งครับ.. อิ อิ
15 เมษายน 2554 14:34 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ช่วยอ่านกลอนก่อนจะไปได้หรือเปล่า
อีกสักคราวสักครั้งยังจะขอ
ช้ำใจช้ำยังย้ำใจไม่หนำพอ
เจ็บใจหนอยังเจ็บช้ำไม่หนำใจ
จะไม่กล่าวลาก่อนตอนลาจาก
น้ำตาพรากไหลพรั่งให้หลั่งไหล
จะไม่วอนวาจาว่าอย่าไป
เจ็บเพียงใดให้เจ็บเลยเพื่อเคยชิน
..คำลาในวันนี้ไม่มีให้
ก็เพราะใจไม่แข็งแรงเป็นแท่งหิน
ยิ่งน้ำตาล้านล้านหยดมารดริน
มันล้างสิ้นกำลังใจที่ใช้ยืน
ทรุดลงกองกับสองเข่าเศร้าที่สุด
ฝืนจะยุดยั้งไว้ ไม่อาจฝืน
..กลืนกล้ำระกำไหม้ใจกล้ำกลืน
ทอดสะท้อนถอนสะอื้นกลืนน้ำตา
นานเพียงไหนจึงนับได้ว่าแสนนาน
แค่เพียงผ่านนาทีเร้นไม่เห็นหน้า
นั่นก็นานเกินไปแล้วแก้วกานดา
แล้วการลา จะเทียบเช่นเป็นกี่นาน
ไกลเพียงใดจึงนับได้ว่าไกลกัน
ไม่จับมือเท่านั้นก็พลุ่งพล่าน
ห่างเกินกอดก็คือไกลจนใจราน
แล้วจากบ้าน จากพี่ จะกี่ไกล
ช่วยอ่านกลอนก่อนจะไปได้หรือเปล่า
คนใจร้าวเขาเพียงขอพออาศัย
ก่อนจำพรากเพียงฝากคำ ให้จำไป
เธอจะจำเขาได้ไหม ไม่จำเป็น
15 เมษายน 2554 13:11 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
ดู VDO clip เรื่อง the power of words ใน youtube แล้วเกิดแรงบันดาลใจ
จะลองไปดู clip ก่อนอ่านกลอน ก็ได้นะครับ น่าจะได้อรรถรสดีกว่า
ตาม link นี้ไปเลยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Hzgzim5m7oU
ลุงตาบอดนั่งขอทานมานานช้า
เขียนป้ายว่า "ตาบอดใสมองไม่เห็น
ช่วยสงสารให้ทานให้คลายลำเค็ญ
แล้วจะเป็นบุญส่งท่าน สวรรค์รอ"
สาวนักเขียนเดินผ่านขอทานเฒ่า
เห็นจับเจ่านั่งเงียบกระจ๋อหงอ
เงินจะซื้อข้าวประทังยังไม่พอ
เห็นแล้วก็สงสารขอทานครัน
หยิบป้ายย้ายปากกามาเขียนป้าย
แล้วก็ย้ายมาตั้งหน้าขอทานนั่น
ลุงสงสัยว่าเสียงอะไรกัน
สาวบอกฉันเขียนป้ายใหม่ให้กับลุง
ไม่นานเกินคนเดินมาผ่านป้าย
นิ่งไม่ได้หยอดตังค์ดังกรุ๋งกรุ๋ง
หยอดไม่หยุดเสียงดังนัวนังนุง
ลุงสะดุ้งแปลกใจในเหตุการณ์
ตอนเย็นสาวเลิกงานเดินผ่านหน้า
แวะถามว่าเป็นไงบ้างอย่างเสียงหวาน
ลุงขอบอกขอบใจ ให้นงคราญ
แล้วก็วานให้บอกความตามป้ายมา
สาวบอกคำที่เขียนให้ไม่ช้าเฉย
ว่า " โลกนี้สวยจังเลย ทรงคุณค่า
เสียดายแต่แค่ฉันนี้ไม่มีตา
จะมองหามองเห็นว่าโลกงาม"
เรื่องคำ ความ สอนใจให้ฉุกคิด
คำเพียงนิด อำนาจกล้าน่าเกรงขาม
จะสื่อสารอันใดไปก็ตาม
อย่ามองข้ามพลังคำจำใส่ใจ
14 เมษายน 2554 23:32 น.
คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน
คนไกลบ้าน จากบ้านมานานมาก
ได้แต่ฝากดวงใจส่งไปบ้าน
นานเกินไปจนใจล้าเวลานาน
ทุกข์ระรานผลาญใจไม่เว้นวัน
ฟังเพลงคิดถึงบ้านมานานมาก
และยังอยากฟังใหม่แม้ในฝัน
กี่บรรเทาก็ไม่เท่าไม่เทียมทัน
เท่ากับบรรยากาศบ้านสำราญใจ
คนไกลบ้านสงกรานต์แห้งแล้งในจิต
ได้แค่คิดพร่ำเพ้อเพียงเผลอไผล
ไกลแค่ไหน ใจโทรมทรุดด้วยสุดไกล
อยากกลับไปสู่บ้านสงกรานต์นี้
จะกราบเท้าแม่พ่อขอพรท่าน
จะโรมรันเล่นประลองกับน้องพี่
จะสนุกสุขสนานหลานมากมี
อยู่ในที่ ที่เรียกขานว่าบ้านเรา
จะไม่เอาน้ำประปาแตะหน้าผาก
แล้วเอ่ยปากบอกตัวว่าอย่าเพิ่งเหงา
ปีหน้าอาจได้กลับบ้านสำราญเนา
แล้วก็เศร้าเหงาส่งวันสงกรานต์
เนา = อยู่