13 พฤษภาคม 2552 16:00 น.
คีตากะ
ความสงสัยใคร่รู้ของผมเป็นเหตุ ทำให้ต้องเดินทางไปในที่ต่างๆมากมายเพื่อหาคำตอบบางอย่างในจิตใจ...ผมคงจะนอนไม่หลับเป็นแน่ ถ้าไม่ได้คำตอบที่ค้างคาใจมานาน ซึ่งนับวันมันยิ่งเพิ่มทวีความรุนแรง กระตุ้นจิตใจให้ต้องค้นหาคำตอบ ในขณะที่ปัญหาหรือประเด็นของคำถามคืออะไรกันแน่ กลับยิ่งยากกว่าการจะค้นหาคำตอบเหล่านี้เสียอีก บางครั้งเรื่องราวทั้งหมดนี้มันอาจเป็นความวิตกจริตของผมไปเองก็เป็นได้.....
ที่วัดพระนอน เมืองแพร่มีการค้นพบคัมภีร์โบราณชุดหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าได้เขียนไว้ในสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2310) เมื่อนำมาแปลโดยพระครูนิภัทร กิจอาทร ปรากฏว่าเป็นเรื่องของการทำนายชะตาของโลก ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุส มีใจความบางตอนดังนี้
น้ำจะท่วมฟ้า
ปลาจะกินดาว
มนุษย์จะรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ จะเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น มนุษย์จะสามารถขี่ลม ไปได้ในพื้นที่และอากาศมีรอยเหมือนงู ในที่ต่ำจะถูกถมให้สูง ในที่สูงจะถูกขุดแผ่นดินให้ราบเรียบ
ชนชาติผิวขาวจะย่นย่อระยะทางให้สั้นเข้า โลกจะเล็กลง คนพูดทางไกล แสนไกลจะได้เห็นหน้ากันและกัน โลกจะมีตาทิพย์หูทิพย์ เสียงทิพย์ บนท้องฟ้าจะมีลูกไฟ พุ่งเข้าหากัน ผู้คนจะพกพาอสรพิษติดกายไว้ต่อสู้ เพราะอวิชชา
โจรผู้ร้ายตาสองชั้น จะนำพิษมาทำลายโลกมนุษย์ ผู้หญิงจะกลายเป็นผู้ชาย ผู้ชายจะกลายเป็นผู้หญิง
ในขณะที่โลกกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติจากภาวะโลกร้อน ความถดถอยทางด้านเศรษฐกิจ ความเสื่อมทรามทางด้านสังคม และความวุ่นวายทางการเมือง มันเหมือนเป็นสัญญาณเตือนภัยอะไรบางอย่างหรือเปล่า สำหรับมนุษยชาติ....
ผมตั้งคำถามเหล่านี้ ต่อผู้รู้ในสาขาต่างๆและก็คาดหวังว่า คำตอบที่ได้รับจะสามารถทำให้ผมนอนหลับได้อย่างผ่อนคลายเสียที...แต่คำตอบเหล่านั้นกับยิ่งทำให้ผมเพิ่มความวิตกกังวลหนักยิ่งขึ้นต่อโลกใบนี้เข้าไปอีก คำตอบต่างๆมีดังต่อไปนี้...
นักวิทยาศาสตร์ : ผลการวิจัยล่าสุดของเราได้ระบุอย่างชัดแจ้งซึ่งมันได้นำไปสู่ข้อสรุปจากสมมติฐานต่างๆแล้วว่า โลกกำลังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วจนยากพยากรณ์เวลาได้ถึงจุดจบสุดท้ายของโลก เนื่องจากเราได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา และสิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีอยู่ในแบบจำลองที่เราใช้ในการพยากรณ์จุดวิกฤติของโลกมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งในทฤษฎีต่างๆก็ไม่มีการกล่าวถึงมาก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้ค้นพบใหม่จนสามารถไขปริศนาที่มีมายาวนานในวงการวิทยาศาสตร์ว่า การปะทุขึ้นมาอย่างฉับพลันของก๊าซมีเทนจากมหาสมุทร เป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ 90% ของสิ่งมีชีวิตทางทะเล และ 75% ของสิ่งมีชีวิตบนบก เมื่อ 250 ล้านปีก่อน เพราะเราสงสัยมาตลอดระยะเวลายาวนานว่าทำไมไดโนเสาจึงสูญพันธุ์อย่างรวดเร็วและพบว่าในชั้นบรรยากาศขณะนั้นมีคาร์บอนหลงเหลือเป็นปริมาณมากมายในชั้นบรรยากาศ แท้ที่จริงมันขึ้นมาจากใต้มหาสมุทรนี้เอง เรารู้สึกยินดีกับการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง...
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม : ภาวะโลกร้อนก่อให้เกิดปัญหาที่ยิ่งใหญ่และรุนแรง เท่าที่เรารับรู้กันอยู่แล้วก็คือ การเกิดปรากฏการณ์เอล นิโญ(El Nino) และลา นิโญ(La Nino) ที่ก่อให้เกิดความผกผันของการไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรและกระแสอากาศโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตร เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก , ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล , ธารน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเริ่มละลาย รวมทั้งเกิดพายุรุนแรง ภาวะแห้งแล้ง คลื่นความร้อน และไฟป่าอยู่บ่อยๆ ทำให้หลายชาติตระหนักถึงมหันตภัยดังกล่าว นอกจากนั้นจากการค้นพบใหม่ล่าสุดของเรายัง พบว่าสาเหตุการตายและสูญพันธ์ของสัตว์ทะเลจำนวนมาก ไม่ได้เกิดมาจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่เย็นเกินไปหรือสาเหตุอื่นๆ แต่มีสาเหตุมาจากก๊าซพิษจากท้องทะเลที่ผุดขึ้นมาแทนที่ออกซิเจนซึ่งก๊าซพิษดังกล่าวคือก๊าซมีเทนและไฮโดรเจนซัลไฟท์ที่เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน จุดตายในทะเลซึ่งเป็นแหล่งสะสมของก๊าซพิษส่งผลให้การประมงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง...นอกจากภาวะน้ำทะเลที่หนุนขึ้นสูงแล้ว ภาวะโลกร้อนยังส่งผลให้เกิดการสูญเสียแหล่งน้ำจืดที่สำคัญบนโลกเพราะการเหือดแห้งอย่างรวดเร็วอีกด้วย....
นักธรณีวิทยา: การเพิ่มอย่างรวดเร็วของแก็สเรือนกระจกเพิ่มความร้อนขึ้นในยุคจูแรสซิกต้อนต้นประมาณ 180 ล้านปีมาแล้ว โดยมีอุณภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น 5 องศาเซลเซียส การร้อนขึ้นเกิดทำให้อัตราการกร่อนของหินเพิ่มมากถึง 400% การกร่อนของหินในลักษณะนี้ทำให้เกิดการกักคาร์บอนไว้ในแคลไซต์และโดโลไมต์ ไว้ได้มาก การปลดปล่อยมีเทนโดยกะทันหันจากสารประกอบคลาเทรท ได้กลายเป็นสมมุติฐานว่าเป็นทั้งต้นเหตุและผลของการเพิ่มอุณหภูมิโลกในระยะเวลาที่นานมากมาแล้ว รวมทั้งเหตุการณ์สูญพันธุ์เพอร์เมียน-ไทแอสซิก ประมาณ 251 ล้านปีที่ผ่านมาและทั้งการร้อนมากสุดพาลีโอซีน-อีโอซีน ประมาณ 55 ล้านปีมาแล้วด้วย...ก๊าซมีเทนในชั้นของถ่านหิน เป็นแหล่งก๊าซที่พบมานานตั้งแต่ในอดีต และทำความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยฉะเพาะในอุโมงของเหมืองถ่านหินใต้ดินของประเทศต่างๆทั่วโลก ก๊าซมีเทนที่ระเหยออกมาจากชั้นถ่านหินสะสมอยู่ในอุโมงและติดไฟระเบิดทำให้เหมืองถล่มและฆ่าคนงานของเหมืองเป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังมีเหมืองถ่านหินระเบิดในประเทศจีนทำให้คนงานตายนับร้อยคน ในปี ค.ศ. 1968 เกิดการระเบิดของเหมืองถ่านหินครั้งใหญ่ที่เมือง Farmington ,มลรัฐ West Virginia ทำให้เกิดความเสียหายมาก กรมเหมืองแร่ของสหรัฐอเมริกา (U.S. Bureau of Mines) ได้เริ่มทำการวิจัยหาทางกำจัดก๊าซมีเทนออกจากชั้นถ่านหินก่อนที่จะเปิดทำเหมืองอุโมงใต้ดิน จนกระทั่งปี ค.ศ. 1971 กรมเหมืองแร่ได้ทำหลุมผลิตก๊าซจากชั้นถ่านหินเป็นผลสำเร็จโดยใช้วิธีการจากการผลิตน้ำมันและก๊าซของแหล่งน้ำมัน ทำให้เหมืองถ่านหินใต้ดินไม่ระเบิดอีกต่อไป เมื่อเริ่มทำการผลิตไล่ก๊าซออกจากเหมืองใต้ดินและมีผลผลิตก๊าซมีเทนปริมาณมากขึ้นจึงเริ่มทำการผลิตเพื่อการค้า ปรากฏว่าปริมาณก๊าซมีเทนในถ่านหินมีมากเกินความคาดหมาย ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกาแหล่งถ่านหินกลายเป็นแหล่งผลิตก๊าซมีเทนในปี ค.ศ. 1995 มีหลุมผลิตรวม 6,300 หลุมและผลิตก๊าซได้ 973 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อปี (BCF/yr ) ขณะนี้ได้มีการสำรวจและผลิตก๊าซมีเทนจากถ่านหินในประเทศออสเตรเลีย อินโดนีเซีย อินเดีย จีนและกลุ่มประเทศที่มีแหล่งถ่านหินในยุโรปในประเทศไทย ถ่านหินเกิดในแอ่งเทอร์เชียรีทั้งบนบกและในทะเล แหล่งบนบกมีทั้งหมดประมาณ 22 แอ่ง ในภาคเหนือ 15 แอ่ง ภาคกลาง 3 แอ่งและภาคใต้ 4 แอ่ง นอกจากนั้นในหลุมผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบจากทะเลในอ่าวไทย ส่วนใหญ่จะมีชั้นถ่านหินซึ่งแยกจากชั้นน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ชั้นถ่านหินในอ่าวไทยมีความหนาและแผ่กระจายกว้างกว่าบนบก ในหลุมที่ผลิตก๊าซและน้ำมันดิบหมดไปแล้วและยังคงมีแท่นผลิตเหลืออยู่ สามารถที่จะพัฒนาเป็นหลุมผลิตก๊าซมีเทนจากชั้นถ่านหินเหล่านี้ได้ เท่าที่ทราบมีอยู่ 5 แหล่งที่ยังมีแท่นผลิตและอุปกรณ์ซึ่งสามารถที่จะผลิตก๊าซมีเทนได้ เมื่อรวมแหล่งถ่านหินที่สามารถผลิตก๊าซมีเทนได้ทั้งประเทศจะมีหลายพันล้านล้านลูกบาศก์ฟุต (TCF) และเมื่อเปรียบเทียบของเสียจากการเผาไหม้ที่ได้จากก๊าซ น้ำมันและถ่านหินจะมีผลแตกต่างกันมาก ก๊าซจะเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดที่สุด ถ้าใช้ก๊าซมีเทนแทนน้ำมันและถ่านหินจะเป็นการลดมลภาวะที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมอย่างมากและเป็นการลดเงินตราต่างประเทศที่จะต้องใช้ในการซื้อน้ำมัน อีกประการหนึ่งราคาก๊าซมีเทนที่ผลิตจากแหล่งถ่านหินบนบกจากแหล่งต่างๆในประเทศไทยจะมีราคาประมาณ 2.5 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ล้าน btu ในขณะที่ราคาน้ำมันจากต่างประเทศมีราคาประมาณ 5 เหรียญต่อ 1 ล้าน btu ซึ่งเป็นราคาที่ต่างกันหนึ่งเท่าตัว ถ้าน้ำมันมีราคาสูงขึ้นอีกก็จะยิ่งมีความแตกต่างกันมาก แต่ราคาก๊าซมีเทนที่ผลิตได้เองภายในประเทศจะมีราคาเท่าเดิมและไม่ต้องเสียดุลย์เงินตราต่างประเทศ จากผลการวิเคราะห์พบว่าถ่านหินที่ได้จากการเปิดเหมืองบนบกในประเทศไทยเป็นถ่านหินตั้งแต่ Lignite A ถึง Sub-bituminous A,B,C และ Bituminous ซึ่งเป็นถ่านหินที่ให้กำเนิดก๊าซมีเทน และยังมีถ่านหินที่อยู่ระดับลึกลงไป ซึ่งทราบมาจากการเจาะสำรวจพบถ่านหินในระดับลึกจำนวนมาก ถ่านหินที่อยู่ในระดับลึกนี้มีคุณภาพดีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับถ่านหินที่กล่าวมาข้างต้น และคล้ายคลึงกับถ่านหินในสหรัฐอเมริกาที่ผลิตก๊าซมีเทนอยู่ในปัจจุบัน การที่จะยื่นขอสัมปทานเพื่อสำรวจผลิตก๊าซมีเทนจะต้องปฏิบัติตามกฏหมายปิโตรเลียมจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้รัฐบาลสูงและมีข้อบังคับให้ทำการสำรวจในวงเงินที่สูง ซึ่งไม่มีความจำเป็นต่อการสำรวจผลิตก๊าซมีเทน การขุดเจาะสำรวจก๊าซมีเทนจากแหล่งถ่านหินเป็นการลงทุนน้อยจะมากกว่าการเจาะน้ำบาดาลไม่มาก รัฐบาลควรจะแก้ไขกฎหมายปิโตรเลียมหรือออกกฎหมายสำรวจและผลิตถ่านหินกับก๊าซมีเทนใหม่ให้ข้อบังคับมีการลงทุนน้อยลง นักธุระกิจคนไทยสามารถที่จะเข้ามาลงทุนสำรวจและผลิตก๊าซมีเทนได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง แหล่งถ่านหินบนบกของประเทศไทยส่วนใหญ่จะถูกขอเป็นประทานบัตรหรืออาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ ตามกฎหมายแร่ ซึ่งมีความแตกต่างจากกฎหมายปิโตรเลียม พื้นทีแหล่งถ่านหินบนบกจึงถูกครอบครองโดยบริษัทเอกชนและหน่วยงานของรัฐ ควรจะได้มีการแก้ไขหรือส่งเสริมให้มีการสำรวจและผลิตก๊าซมีเทนในพื้นที่เหล่านั้น ก๊าซมีเทนหรือ NGV ที่ใช้เติมรถยนต์และใช้ในโรงงานผลิตไฟฟ้าในปัจจุบัน เป็นผลพลอยได้จากการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งน้ำมันในอ่าวไทย ซึ่งในขณะนี้เรากำลังส่งเสริมให้รถแท็กซี่และรถยนต์บ้านนำมาใช้ซึ่งมีราคาถูกกว่าน้ำมันมาก ก๊าซ NGV 1 กก. ราคา ประมาณ 8.60 บาท ให้พลังงานขับเคลื่อนรถยนต์เท่ากับน้ำมันเบ็นซีน 1 ลิตร ซึ่งขณะนี้ราคาประมาณ 25 บาท ขณะนี้รัฐกำลังส่งเสริมให้มีการผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้ก๊าซ NGV ได้โดยตรง รัฐบาลควรจะได้มีการส่งเสริมสนับสนุนการสำรวจก๊าซนี้อย่างจริงจัง เพราะเรามีทรัพยากรธรรมชาตินี้อยู่แล้วซึ่งกระจายอยู่เกือบทั่วประเทศยกเว้นภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการคาดคะเนน่าจะมีปริมาณสำรองถึง สิบล้านล้านลูกบาศก์ฟุต สามารถจ่ายให้โรงไฟฟ้าขนาด 4,000 Megawatts/วัน เป็นเวลา 30 ปี ลองเปรียบเทียบกับการนำมาใช้ในรถยนต์อาจจะทำให้โรงงานผลิตรถยนต์เกิดความมั่นใจว่าเมื่อผลิตรถยนต์ชนิดนี้ออกมาแล้วจะมีก๊าซ NGV ใช้ไปอีกนาน ขณะนี้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกำลังดำเนินการสำรวจและทดลองผลิตก๊าซมีเทนจากแหล่งถ่านหินในแอ่งแม่ละเมา จังหวัดตาก แต่มีงบประมาณน้อยมาก ไม่สามารถทำการสำรวจและทดลองผลิตให้ครบตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น นอกจากนั้นเรายังค้นพบล่าสุดว่า คาร์บอนส่วนใหญ่ ประมาณ 93% อยู่ในมหาสมุทร ไม่ใช่อยู่ในต้นไม้หรือในชั้นบรรยากาศ ดังนั้น ขณะนี้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือ พวกเรากำลังเพิ่มปริมาณคาร์บอนมากมายในชั้นบรรยากาศ มันกำลังมาอย่างรวดเร็วมากกว่าที่มันจะสามารถไปยังส่วนของพื้นผิวชั้นบรรยากาศโลกหรือไปยังมหาสมุทร ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จึงขึ้นมาอย่างรวดเร็วมาก ก๊าซมีเทนหรือก๊าซเรือนกระจก เวลานี้ได้ถูกปล่อยออกมาจากชั้นพื้นดินที่แข็งตัว(Permafrost)ของอาร์คติก และเกิดเป็นฟองผุดขึ้นผ่านทะเลสาบต่างๆเป็นการเร่งภาวะโลกร้อนในวิถีทางที่ไม่ได้รับการอธิบายไว้ในเวลานี้ ชั้นพื้นดินที่แข็งตัว(Permafrost)เป็นเช่นระเบิดเวลา รอคอยที่จะระเบิดออก ขณะที่มันยังคงละลายก๊าซมีเทนหลายหมื่นเทอราแกรม ซึ่งสามารถถูกปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศทำให้เกิดภาวะอากาศร้อนขึ้น แหล่งของก๊าซมีเทนที่รับรู้ใหม่นี้ยังไม่ได้รวบรวมไว้ในโมเดลของภูมิอากาศ
ผู้นำทางจิตวิญญาณโลก : จากการได้ใช้โทรจิตพบว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับดาวอังคารเมื่อประมาณ 40 ล้านปีที่ผ่านมา การพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบันยังห่างไกลมากนักเมื่อเทียบกับดาวอังคาร ครั้งหนึ่งอุณหภูมิของดาวอังคารได้เพิ่มสูงขึ้นตลอดระยะเวลานับหลายล้านปีจากกิจกรรมการดำเนินชีวิตของมนุษย์บนดาวอังคาร จนกระทั่งก๊าซมีเทน ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟต์ และก๊าซไนตรัส ได้ถูกปลดปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศอย่างฉับพลัน มนุษย์ สัตว์และพืช ขาดออกซิเจนในการหายใจต่างล้มตายเป็นจำนวนมากถึง 90% ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทันที โดยเฉพาะมนุษย์ 10% ที่เหลือรอดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนั้นเป็นพวกที่อาศัยอยู่ในชั้นใต้ดิน ในถ้ำ อุโมงค์ หรือสามารถลงสู่ชั้นใต้ดินได้ทัน ส่วนที่อาศัยอยู่บนบกและในทะเลล้วนตายหมดสิ้นโดยจะใช้เวลาประมาณ 4 วันที่ต้องทรมานจากภาวะการขาดออกซิเจนและการสูดก๊าซพิษเข้าไป โดยกระบวนการทำลายร้างจากภัยพิบัติครั้งนั้นใช้เวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น โดยไม่มีสัญญานบอกเหตุใดๆล่วงหน้า จึงทำให้มนุษย์ที่นั่นเพิกเฉยและไม่มีการเตรียมพร้อมอะไร ดาวอังคารจึงสูญสิ้นสิ่งมีชีวิตบนพื้นผิวของดวงดาว สภาวะอากาศของดาวอังคารไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เพราะปกคลุมไปด้วยก๊าซพิษและขาดออกซิเจน โดยเฉพาะก๊าซมีเทน จากนั้นระยะเวลาผ่านไป สิ่งมีชีวิตที่เหลือรอด 10% ก็ลดน้อยลงเหลือเพียง 5% 3.8% และปัจจุบันมีมนุษย์ใต้ดินบนดาวอังคารเหลือรอดเพียง 0.2 %จากทั้งหมดซึ่งคิดเป็นจำนวนประมาณ 2 ล้านคนในปัจจุบัน มนุษย์ใต้ดินต้องพยายามขุดดินลงลึกเข้าไปอีกเพื่อหนีก๊าซพิษด้านบน โดยส่วนใหญ่จะตั้งถิ่นฐานอยู่รวมกันและอาศัยอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำใต้ดิน ส่วนสัตว์ก็มีบางชนิดที่รอด ซึ่งเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้ดินและบางชนิดเป็นพวกที่มนุษย์นำติดไปด้วยขณะอพยพ เช่น วัว จะมีประมาณ 20กว่าตัวในปัจจุบัน เนื่องจากมนุษย์ดาวอังคารมีความล้ำหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์มากกว่าโลก พวกเขามีเครื่องมือทันสมัยสามารถแยกก๊าซออกซิเจนจากแหล่งน้ำใต้ดินเพื่อนำมาใช้หายใจและฟอกอากาศด้วยการรีไซเคิลทั้งน้ำ อากาศ ส่วนอากาศเสียก็จะปลดปล่อยขึ้นสู่ด้านบนผิวดวงดาว นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์บนโลกเคยตรวจพบก๊าซมีเทนบนพื้นผิวดาวอังคาร และก็ถกเถียงกันไปต่างๆนาๆ ชาวดาวอังคารส่วนใหญ่มีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นมังสวิรัติ ชาวดาวอังคารบางคนสามารถใช้โทรจิตในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันและกัน รวมทั้งมีระบบอินเตอร์เนตความเร็วสูงและประสิทธิภาพสูงกว่าบนโลกมาก มีทีวี มีรถที่สามารถบินได้ ลักษณะคล้าย UFO สาเหตุที่ชาวดาวอังคารเลือกวัตถุที่มีรูปร่างทรงกลมเป็นยานพาหนะก็เพราะว่ามันมีแรงเสียดทานน้อยกว่าและสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็วเวลาขับเคลื่อน การปกครองที่นั่นจะแตกต่างจากโลก ผู้นำจะถูกเลือกขึ้นมาจากผู้ที่มีความสูงส่งทางด้านจิตวิญญาณ สุขภาพของพวกเขาแข็งแรงมาก ประเทศของเขาจึงไม่มีโรงพยาบาล ไม่ต้องมีหมอหรือพยาบาล ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมีอายุยืนยาวถึง 200ปี โดยเฉลี่ย การที่มีเทคโนโลยีที่สูงมากทำให้พวกเขาสามารถที่จะซ่อนเร้นและสามารถหลบหลีกจากการตรวจจับของมนุษย์โลกได้ เหตุผลหนึ่งที่ชาวดาวอังคารเกรงกลัวที่จะติดต่อกับชาวโลกก็เพราะกลัวเชื้อโลกบนโลกและเชื้อโรคทางจิตวิญญาณแพร่เข้าสู่ประเทศของพวกเขา แต่พวกเขาก็พอใจในความเป็นอยู่และอยู่แบบพอเพียง ประหยัด และมุ่งเน้นด้านศีลธรรมมากกว่าเศรษฐกิจ เพราะประวัติศาสตร์ของพวกเขาจากการทำลายธรรมชาตินั้นมีผลบั้นปลายอย่างไร ชาวดาวอังคารจึงไม่เคยคิดยึดครองโลก เนื่องจากระดับจิตใจที่สูงส่งมีคุณธรรม พวกเขาอยู่ด้วยการพึ่งพาและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แบ่งปันซึ่งกันและกัน เนื่องจากการใช้เชื้อเพลิงเป็นจำนวนมากและการเบียดเบียนธรรมชาติ ตลอดจนการทำลายชีวิตพืชและสัตว์เป็นจำนวนมากตลอดเวลานับหลายล้านปี ผลกรรมอันนี้จะทำให้โลกถึงจุดจบเช่นเดียวกับดาวอังคารเมื่อ 40 ล้านปีที่แล้ว ถ้ามนุษย์ทุกคนหันกลับมากินพืชผักหรือเป็นมังสวิรัติ เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากฟาร์มปศุสัตว์ทั่วโลกโลกนี้ก็จะสามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติจากธรรมชาติในครั้งนี้ และนี่เป็นวิธีเดียวเท่านั้น ซึ่งชะตาโลกนี้ขึ้นอยู่กับทางเลือกของมวลมนุษยชาติ หรือจะปล่อยให้เป็นเหมือนกับดาวอังคาร.....
12 พฤษภาคม 2552 02:17 น.
คีตากะ
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ฉันพยายามที่จะค้นหามาตลอดเวลาว่าสิ่งใดกันเล่าหรือกรรมอันใดที่นำพาฉันและเธอมาประสบพบกัน ตลอดระยะหนึ่งปีที่เรารู้จักกันมันมีความผูกพันบางอย่างที่ยากจะอธิบาย ฉันเป็นคนโง่ๆคนหนึ่งที่มักจะหาเหตุและผลถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ แม้พระพุทธองค์จะเคยกล่าวว่าอย่าไปขุดคุ้ยเกี่ยวกับเรื่องของวิบากกรรม แต่ความสงสัยใคร่รู้ของฉันมันกับทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเมื่อมาพบเธอ....
การบำเพ็ญปฏิบัติธรรมของฉันที่จัดเป็นพวกนักปฎิบัติธรรมที่ขี้เกียจสันหลังยาวและขาดวินัยในการบำเพ็ญ ฉันควรจะเป็นพวกหนุ่มเจ้าสำราญขี้เหล้าเมายามากกว่าจะมาเดินทางสายนี้เหมือนพวกคนแก่ๆที่ใกล้จะถูกหามเข้าวัด เพราะสิ่งที่ฉันได้รับการประนามจากคนรอบข้างมาตลอดระยะเวลา 13 ปีแห่งการบำเพ็ญปฏิบัติธรรมคือคำว่าเพี้ยนหรือไม่ก็บ้า การเปลี่ยนจากการกินเนื้อสัตว์มากินแต่ผักไมใช่เรื่องสนุกนักสำหรับหนุ่มวัยรุ่นอย่างฉัน ฉันควรจะไปวุ่นอยู่กับพวกสาวๆสวยๆหรือเฮฮาอยู่กับเพื่อนฝูงมากกว่าจะมานั่งปลีกวิเวกและทำในสิ่งที่น่าเบื่อเยี่ยงนี้......
แต่วันนี้อย่างน้อยการบำเพ็ญปฏิบัติของฉันก็สามารถไขปริศนาบางอย่างที่เกี่ยวกับเธอ แม้มันอาจเป็นเพียงข้อสมมุติฐานเท่านั้นแต่ฉันก็เชื่อความรู้อันนี้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉันเคยคิดว่าเธอคือเนื้อคู่ของฉัน เพราะเรารักกันมากจนอาจบางที จะรักกันมากจนเกินไป ความรักทำให้ฉันตาบอดมาตลอดชีวิต และผลสุดท้ายก็มักจะจบลงด้วยความเศร้าทุกครั้งไป ฉันจึงสงสัยเป็นที่สุดว่าเหตุผลอันใดที่เธอสามารถผ่านด่านบททดสอบต่างๆมาจนถึงวันนี้ วันที่เราแต่งงานกัน....เธอคือเนื้อคู่ของฉันอย่างนั้นหรือ...คือเนื้อคู่ที่ติดตามกันข้ามภพข้ามชาติจนมาได้เจอะเจอกันอีกครั้งหนึ่งเหมือนกับในนิยายหรือละครแบบนั้นหรือ? แต่ในที่สุดความลับก็ถูกเปิดเผยจนได้ เมื่อฉันได้มาพบเจอเธอและอยู่ใกล้กับเธอมากขึ้น ฉันจึงรู้ได้ว่าที่แท้เธอคือใคร?
การได้มีโอกาสพบเจอเธอถึงสองครั้งฉันก็รู้ได้ว่า รูปกายภายนอกที่ดูงดงามแบบสตรีเพศทั่วไป น้ำเสียงที่ไพเราะนุ่มนวลอ่อนหวานของสตรี เรือนร่างอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจของเธอนั้น ไม่อาจปิดบังหรือหลอกลวงสายตาของฉันได้ แท้ที่จริงเธอไม่ใช่เนื้อคู่ของฉัน ! แต่เธอคือคนๆนั้น คนๆนั้นในอดีตที่ความทรงจำของฉันยังไม่เคยลืมเลือน และภาพนั้นยังคงติดตาติดใจตามหลอกหลอนฉันมาตลอดชีวิต ที่รักเธอคือคนๆนั้น คนที่ฉันเคยมีและเคยพลัดพรากจากกันไปตลอดชีวิต คนที่ฉันคิดมาเสมอว่าจะไม่มีวันได้พบอีกแล้วในชีวิตนี้ แต่แล้วก็ได้พบ ไม่มีใครจดจำเธอได้นอกจากฉัน.....
ครั้งหนึ่ง...เธอเคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้พร้อมกับฉันและญาติพี่น้อง เมื่อราวๆ 33 ปีที่แล้ว เธอเป็นหนุ่มเจ้าสำอาง เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วดกคมเข้ม และมีวาทะศิลป์เป็นเลิศ มันไม่แปลกเลยที่เธอจะมีสาวๆมารุมล้อมมากมาย เธอไม่ได้ร่ำเรียนอะไรมากนักมันก็น่าแปลกที่ผู้ชายอย่างเธอจะเข้าเมืองหลวงเพื่อไปเรียนเป็นช่างเย็บผ้า ซึ่งนี่ควรเป็นงานที่สตรีชมชอบมากกว่าสุภาพบุรุษอย่างเธอ เธอในวันนี้กับเธอในวันนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก เธอในวันนี้ก็ยังคงชมชอบเย็บปักถักร้อยและยังเคยได้รับรางวัลในเรื่องนี้สมัยที่เธอยังเรียนหนังสืออยู่ ก็เธอเคยเรียนมันมาทั้งชีวิตในอดีต เธอจึงเชี่ยวชาญเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ....
เธอในวันนี้...วัยเพียง 18 ปี สูง 166 เซนติเมตร หน้าตาน่ารัก ผิวขาวสะอาด รูปร่างของเธอมีส่วนคล้ายผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ด้วยเหตุนี้เธอจึงมักโดนเพื่อนๆล้อว่าเป็นพวกกระเทย แต่เปล่าเธอเป็นทอมมากกว่า และนี่เองเป็นสาเหตุที่เธอเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง และมีแต่ผู้หญิงที่มารุมล้อมชมชอบเธอ จนครั้งหนึ่งเธอก็ทำตัวเป็นทอมเสียเลยและเป็นสาเหตุที่พ่อกับแม่ของเธอในปัจจุบันกลัดกลุ้มยิ่งนัก แต่เมื่อเธอเริ่มโตขึ้น เธอจึงรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย และก็กลับมาเป็นผู้หญิงเต็มตัวตอนวัย 17 ปี เธอยังคงเกิดในราศีเดิมของเธอเหมือนในอดีตและช่วงเวลานี้เองที่ฉันได้พบเธอ โดยที่ฉันไม่เคยสงสัยเธอมาก่อนเลย..
เธอในวันนั้น... ยังคงพูดภาษาและสำเนียงคล้ายคลึงกับเวลานี้ แม้จะเกิดคนละภาคกันก็ตาม ใช่สิในอดีตเธอเคยไปเที่ยวที่นั่น และรู้สึกประทับใจในดินแดนแห่งนั้น อาจเป็นเพราะความงดงามของธรรมชาติ สภาพอากาศ และน้ำมิตรไมตรีของคนดินแดนนั้น เธอถึงกับเคยบอกภรรยาของเธอว่าอยากจะไปเกิดที่นั่นตอนที่เธอเคยมีชีวิตอยู่ แล้วมันก็เป็นจริงในวันนี้ สนุกไหมล่ะกับความตั้งใจในอดีตของเธอ แล้ววันนี้เธอจึงต้องมานั่งร้องไห้เพื่อที่จะหวนกลับมาที่อยู่เดิมของเธอ แต่ไม่นานหรอกฉันจะพาเธอกลับมาเองที่รัก ก่อนที่เธอจะจากไปเธอเคยมอบดอกลั่นทมหรือลีลาวดีโดยใส่ซองจดหมายส่งให้คนรักของเธอ และวันนี้ดอกไม้ที่เธอชมชอบมันมากที่สุดยังคงเป็นดอกลีลาวดี แต่ภรรยาของเธอสิกลับบอกว่ามันเป็นดอกไม้อัปมงคลที่สุด เพราะคนรักของเธอมอบให้เธอแล้วก็จากไปโดยไม่มีวันหวนกลับมา ภรรยาของเธอได้แต่ปลูกดอกลีลาวดีไว้หน้าบ้านราวกับว่าจะรำลึกถึงใครบางคน แล้วฉันจะพาเธอไปดูมันกับตาในสิ่งที่เธอเคยสร้างบาดแผลและทิ้งเอาไว้ในจิตใจของคนที่รักเธอมากที่สุด...
เธอในวันนี้ ...น่ารักแสนซน เหมือนลิงทโมน เธอชอบขึ้นต้นไม้สูงๆมากกว่าจะทำตัวเรียบๆร้อยๆเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆเขา เรื่องการบ้านการเรือนของเธอจึงแย่มากจนแม่ของเธอส่ายหัวและบอกกับฉันว่า ใครได้ไปเป็นภรรยานับว่าโชคร้ายเป็นที่สุดเพราะเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่างแม้แต่หุงข้าว ฉันเดาว่าเธอไม่เคยสนใจที่จะทำมันมากกว่าเหมือนกับที่เธอไม่เคยสนใจที่จะเป็นเพศหญิงอย่างที่เธอควรจะเป็น เธอกำลังสับสนทางเพศ แต่ฉันรู้เพราะในอดีตเธอเป็นผู้ชาย มันก็เลยเป็นแบบนี้ การได้ร่างกายผู้หญิงหาใช่เรื่องง่ายดาย เธอต้องมีความอดทนและละเอียดอ่อนมากกว่านี้ เธอคงต้องทำใจ ดังนั้นคนโชคร้ายคงเป็นฉันสิน่ะ.....
เธอในวันนั้น...เป็นคนเจ้าชู้ระดับ 5 ดาว เธอมีภรรยาน้อยเก็บซ่อนและปล่อยให้ภรรยาหลวงต้องนอนระทมทุกข์นานนับหลายปี เธอทิ้งให้ผู้หญิงที่เธอขอแต่งงานด้วย ซึ่งวัยเพียง 18ปี ต้องนอนรอคอยเธอวันแล้ววันเล่า บัดนี้ผลกรรมอันนั้นจึงย้อนกลับมาหาเธอ ที่เธอต้องแต่งงานกับฉันด้วยวัยเพียง 18ปีเช่นกัน แต่เชื่อฉันๆจะหักกงล้อแห่งกรรมในครั้งนี้ด้วยมือของฉันเอง และจะนำพาเธอสู่อิสรภาพจากกงกรรมกงเกวียนบ้าๆในชีวิตนี้ เพราะฉันมาเพื่อการนั้นโดยเฉพาะ เธอรักการพนันเป็นที่สุดและร่ำรวยจากมัน หมอดูเคยทำนายเธอไว้ว่าราศีของเธอตกพญานาค 7 เศียร นั่นหมายถึงถ้าเธอมีชีวิตอยู่ต่อไปเธอจะร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐี แต่น่าเสียดายที่เธอมีชีวิตอยู่ได้เพียง 38 ปีเท่านั้นก็ต้องลาโลกนี้ไปแล้ว เพราะรายได้ของเธอมาจากความไม่บริสุทธิ์นั่นคือการพนัน....
เธอในวันนี้...อ่อนหวานและช่างเจรจา แต่สำหรับฉันๆของเรียกมันว่าพวกขี้คุยหรือขี้โม้มากกว่า นี่คือคำที่ภรรยาของเธอในอดีตกล่าวขวัญถึงเธอเสมอๆ คำพูดดีๆมันก็ฟังเข้าท่าดีหรอกน่ะ แต่ฉันไม่ค่อยจะเชื่อมันเท่าไหร่ เพียงแค่เธอเพิ่มความสัตย์จริง และความจริงใจเข้าไปมันก็ใช้ได้แล้ว ไม่ใช่โกหกพกลมไปเรื่อยเปื่อย เธอไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมฉันจึงเป็นคนเดียวที่สามารถจับโกหกของเธอได้ เพราะฉันรู้จักเธอดีหน่ะสิ เธอเคยถามฉันว่าข้อความที่เขาเขียนไว้ในร้านถ่ายรูปที่เราไปถ่ายรูปด้วยกันว่า ปัญญาอ่อนที่สุดคือการโกหก หมายความว่าอะไร และครั้งนั้นฉันก็ตอบเธอไปว่า จะไม่ปัญญาอ่อนได้อย่างไรเพราะการโกหกนั้นตายแล้วตกนรก ไม่เคยได้ยินเพลงเขาร้องหรอกเหรอ โกหกนั้นตายตกนรก โกหกนั้นตายตกนรก และนี่แหละเป็นสาเหตุที่วันก่อนเธอไปพบโยคีซึ่งนั่งทำนายโชคชะตาอยู่บนเก้าอี้ตะปู แล้วเธอก็ยื่นมือไปให้ทำนาย และเธอก็ได้รับคำทำนายทันทีว่า เธอมาจากดินแดนที่มืดมิด ที่ๆมีต้นเงี้ยวและทัณฑ์ทรมานมากมาย และจะมีคนมาพาเธอกลับไปสู่ที่ๆเธอเคยอยู่ในอดีต ฉันหัวเราะก๊ากเมื่อเธอเล่าจบ นั่นไปได้บอกเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับเธอหรอกหรือ ส่วนคนๆนั้นจะเป็นใครถ้าไม่ใช่ฉัน....
เธอในวันนั้น...ยังคงทำอาชีพคล้ายคลึงกับวันนี้นั่นคือเกษตรกร เพียงแต่เธอเปลี่ยนจากการเลี้ยงวัวไปทำนาแทนเท่านั้น ซึ่งแต่เดิมภรรยาของเธอก็ยังคงทำนาทั้งหลังและก่อนที่เธอจะลาโลกนี้ไป เธอเป็นพวกอารมณ์ศิลปินเปลี่ยนแปลงไปได้อยู่เสมอเหมือนกระแสลม และมันก็คล้ายคลึงกับฉันแต่ต่างกันที่เธอไม่ค่อยมีเหตุผลอะไรเลย และชอบเอาแต่ใจ และนี่แหละเป็นสาเหตุของความวิตกจริต และอาการเครียดง่ายๆ อารมณ์ปรวนแปรง่าย อ่อนไหว และบ่อน้ำตาตื้น ร้องไห้ได้ทั้งวัน บางครั้งฉันก็รู้สึกรำคาญ แต่ฉันเข้าใจเธอ อีกสิ่งหนึ่งที่เธอรักเป็นที่สุดนั่นคือมวย เธอชอบดูมวยและชอบพนันมวยเป็นที่สุด เธอมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น แต่ก็กีฬานะเป็นเรื่องธรรมดา นี่เองวันนี้เธอจึงต้องไปเกิดเป็นลูกนักมวย เธอจึงได้ฝึกมวยตั้งแต่เด็กเสมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของเธอ และน้อยครั้งที่เธอจะแพ้เชิงมวยให้กับใคร เธอพอมีฝีมือดังนั้นเพศหญิงจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ เธอจึงมักไปมีเรื่องทะเลาะต่อยตีกับทอมบ้างกับผู้ชายบ้าง และส่วนใหญ่ก็จะถูกเธอน็อกตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะเธอรู้จักจุดอ่อนในร่างกายของมนุษย์ดี เธอจึงสามารถสยบคู่ต่อสู้ได้ภายในพริบตา แต่สิ่งที่เธอรู้สึกได้นั่นคือความว่างเปล่าและความเจ็บปวดในจิตใจ เพราะการเอาชนะผู้อื่นด้วยพละกำลังหาใช่ทางออกที่ถูกไม่ แต่คืออหิงสา การไม่เบียดเบียนผู้อื่น นั่นคือความรักและอภัยต่างหาก นับวันเธอจึงเพิ่มศรัตรูขึ้นทุกวันตั้งแต่เด็ก จนปัจจุบันก็ยังมีคนที่ยังคอยตามคิดบัญชีเพื่อแก้แค้นเอาคืนกับเธอ เธอจึงคงว้าเหว่าและเป็นเด็กหญิงที่โดดเดี่ยวที่สุดในหมู่บ้านเพราะไม่สามารถคบหากับใครได้อย่างจริงใจ และต่างคอยระแวงกันอยู่ ก็ใครจะไปรู้ว่าจะโดนหมัดน็อกเมื่อไหร่ แม้แต่ฉันเองก็ยังเกรงๆเธออยู่ ถ้าเกิดไปทำอะไรให้เธอโกรธขึ้นมา ฉันก็คงมีสภาพไม่แตกต่างอะไรกับคนเหล่านั้น ดีที่ฉันเป็นนักวิ่ง ความเร็วอาจจะช่วยฉันไว้ได้บ้าง แต่ฉันก็ยังรู้ว่าเธอมีอาวุธลับตามมาอีก เพราะฉะนั้นนอกจากความเร็วเพียงอย่างเดียวคงยังไม่พอ คงต้องอาศัยจังหวะและทิศทางที่ดีด้วย...
เธอในวันนี้...ไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับเธอในวันนั้น ด้วยผลกรรมที่เธอชอบพูดโกหก ฟันของเธอจึงบิดเบี้ยวไม่ได้รูปและแปลกว่าคนทั่วไป เวลายิ้มจึงดูประหลาด ถ้าไม่ยิ้มจะไม่มีทางรู้ และการที่เธอเคยทอดทิ้งภรรยาและลูกๆอีก 3 คนให้ตกทุกข์ได้ยากอยู่กับความยากจน เธอจึงถูกทอดทิ้งและรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่ค่อยอยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ และกลัวการถูกทอดทิ้งเป็นที่สุด เธอจึงอกหักตั้งแต่เด็กซ้ำแล้วซ้ำเล่า หาคนรักจริงไม่ได้ ทุกคนต้องการคบเธอเพียงเพื่อผลประโยชน์ และฉันก็เช่นเดียวกันฉันคบเธอก็เพื่อผลประโยชน์นั่นคือการพาเธอเข้าสู่สัจธรรมเพื่อการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป การที่เธอชอบมวยหรือการต่อสู้ พ่อของเธอในปัจจุบันซึ่งเป็นนักมวยจึงมักใช้เธอเป็นกระสอบทรายเสมอๆเวลาที่เมาเหล้า เธอเองก็ถูกหมัดน็อกมาหลายต่อหลายครั้งแล้วจนต้องพยายามหลบหนีออกจากบ้านหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง คงมีเพียงฉันกระมังที่สามารถพาเธอออกมาได้ด้วยการแต่งงานกับเธอ...สนุกไหมล่ะนักมวย...
เธอในวันนั้น...ชอบการพนัน เธอในวันนี้จึงชอบการแข่งขันและเป็นนักล่ารางวัล ไม่ชอบทำงานปกติที่คนเขาชอบทำกัน เธอจึงเรียนหนังสือตกๆหล่นๆ แต่กลับได้รับรางวัลมากมายจากการแข่งขันกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น การชอบการพนันและเจ้าชู้เป็นสาเหตุของการตายของเธอ เธอตายเพราะถูกลอบฆ่า ฆาตกรดักซุ่มอยู่หลังต้นไม้และยิงเธอด้วยปืน ขณะที่เธอกำลังขับรถมอเตอร์ไซด์คู่ชีพกลับบ้านเพื่อมาพบภรรยาและลูก นัดแรกคมกระสุนถูกยิงเจาะเข้าที่กึ่งกลางหลังของเธอ แต่เธอยังพยายามอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดจากฤทธิ์บาดแผลฝืนขับรถมอเตอร์ไปได้อีกประมาณไม่ถึง 100 เมตร ตรงนั้นเป็นทางโค้งหักศอกการที่เธอเสียเลือดไปมากทำให้เธอหมดแรงเสียหลักพลาดท่าล้มลง ฆาตกรจึงติดตามมาได้ทันและใช้ปืนยิงซ้ำเข้าที่ศรีษะอีก 2 นัด กระสุนทะลุออกท้ายทอยเธอจึงเสียชีวิตคาที่ทันที ด้วยวัยเพียง 38 ปีด้วยเหตุนี้ปัจจุบันเธอจึงกลายเป็นคนที่กลัวเสียงดัง เช่น เสียงฟ้าร้อง เสียงปืน เสียงปะทัด เป็นต้น เมื่อภรรยาของเธอมาพบศพเข้าเธอถึงกับร่ำไห้แทบจะขาดใจเป็นลมล้มพับไปหลายรอบ และฉันก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น แต่ฉันยังเด็กมากด้วยวัยเพียง 3 ขวบจึงยังไม่รู้ประสีประสาอะไร แต่ก็ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้านับตั้งแต่กาลบัดนั้นมา ชื่อของฉันที่เธอเป็นคนตั้งให้ซึ่งจำเอามาจากชื่อรายการชิงแชมป์มวยในทีวีสมัยนั้น ฉันยังคงรู้ความหมายและที่มาของมันได้ดี บัดนี้เธอและฉันได้พบกันอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในฐานะบิดากับบุตรแต่เป็นสามีกับภรรยา หากแต่ความรักยังคงเป็นเช่นเดิมดุจกาลก่อนมิเคยเปลี่ยนแปลงไปชั่วกัลปาวสาน...........