30 มกราคม 2565 12:25 น.

เสียงดนตรีแห่งจิตวิญญาณ

คีตากะ

ณ เบื้องปฐมบรมกาลเนิ่นนานนัก
สุดที่จักนับคณาอสงไขย
ก่อนทุกสิ่งอุบัติวิวัฒน์ใด
เสียงหนึ่งได้ดำรงคงยืนยาว
เสียงหนึ่งนี้มีมาแต่คราแรก
สิงซึมแทรกทั่วสกลเวหนหาว
ดุจดนตรีไพเราะเพราะพริ้งพราว
ยากสืบสาวที่มาหาที่ไป
กระแสเสียงเคียงอยู่ผู้เป็นเจ้า
สร้างสรรค์เหล่าสรรพสิ่งอิงอาศัย
ทั้งรูปนามหลากหลายมีกายใจ
ตลอดทุกยุคทุกสมัยได้ธำรง
พระสุรเสียงนั่นฤาคือพระเจ้า
ที่ชนเฝ้าหมายพบสบประสงค์
ทุกชนชาติศาสนาศรัทธาองค์
พระดำรงคงอยู่อุ้มชูเรา
ธ ทรงให้กำเนิดในเลิศหล้า
สร้างโลกาดวงดาวพราวเสลา
เทียมธรรมชาตินิรมิตชีวิตเรา
ประหนึ่งเงาฉายาแห่งพระองค์....
ป.ล. ถอดความบางตอนจากคัมภีร์ไบเบิ้ลแปลโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
In the beginning was the Word (Sound), and the Word was with God, and the Word was God.
Everything was made by this and nothing was not made by this.
จักรวาลพอเริ่มต้นก็มีเสียงนี้ Word นั้นหมายถึงเสียง เสียงนี้อยู่กับพระผู้เป็นเจ้า เสียงนี้ก็คือพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง
สรรพสิ่งทั้งปวงในจักรวาลล้วนเกิดจากเสียงนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้เกิดจากเสียงนี้
20 มกราคม 2565 15:42 น.

เล่นกะอสุรกาย

คีตากะ

กฎแห่งเกมนั้นง่ายไม่มายมาก
โลกคือกากอสุรีบุรีขัณฑ์
มีเขตแดนเคียงคู่อยู่ใกล้กัน
เคยโรมรันต่อสู้อยู่นานมา
หากหมายเล่นกับอสูรอาดูรแน่
พบเพียงแพ้แน่นักจักผวา
ชอบบนบานสานกล่าวเรียกเขามา
มินานช้าจะฉิบหายทำลายตน
ดั่งเล่นกับอสรพิษเผลอผิดพลาด
ย่อมพินาศตกตายกลายเกิดผล
ดีหรือร้ายไม่แจ้งแห่งตัวตน
เฉกเช่นคนมีดีชั่วไม่กลัวกรรม
มาตรอหังกากำเริบยิ่งเสิบสาน
เป็นอันธพาลทุศีลหมิ่นถลำ
เคยบำเพ็ญความดีกลับริยำ
ราวทศเศียรก่อกรรมจนลำเค็ญ
ถึงภูตผีปีศาจอาจเรืองฤทธิ์
เทพทศทิศยากแท้ตาแลเห็น
จะช่วยเหลือหรือไม่ในลำเค็ญ
ย่อมยังเป็นปริศนาเวลานาน
แต่สิ่งหนึ่งมีโชคหรือโชคร้าย
จะแพ้พ่ายหรือชำนะหาแก่นสาร
จะร่ำรวยยากจนบนรอยกาล
ย่อมวายปราณแน่นักจักทำนาย
เมื่อมีเกิดย่อมมีดับกลับจริงแน่
หากไม่เกิดนั่นแลแน่เหลือหลาย
เพราะความดับก็ไม่มีที่ทำลาย
ควรมุ่งหมายดับการเกิดประเสริฐชน...
20 มกราคม 2565 13:45 น.

นักเดินทาง

คีตากะ

ทุกย่างก้าวหนาวร้อนสัญจรทั่ว
โลกมืดมัวซอกแซกแบกกระเป๋า
ทั้งไกลใกล้ใต้หล้าทาทาบเงา
บนถนนเปลือยเปล่าอันเทาทึม
แบกพาใจใส่เป้เพียรเร่ร่อน
ค่ำก็นอนในราตรีที่เคร่งขรึม
สำรวจโลกครึ่งตื่นสะลือสะลึม
เสียงพำพึมท่องปรัชญาตำราเรียน
แต่ละก้าวดั่งบันไดไต่ดั้นด้น
หมายสืบค้นความหมายร่ายขีดเขียน
รินหยาดเหงื่อน้ำตาแทนค่าเรียน
หมายส่องเทียนในโลกมืดจนชืดชา
โลกที่เห็นเป็นตามแต่ความคิด
ผลผลิตแห่งใจให้กังขา
แจ้งแห่งจิตโลกก็ไร้ในมายา
แสวงหานอกกายจนสายเกิน
ธรรมชาติแท้ไซร้ไม่เคยเปลี่ยน
โลกโล่งเตียนดับดินสินธุ์ตื้นเขิน
ชนตกตายว่ายเวียนใช่บังเอิญ
ทุกก้าวเดินมีเหตุเจตจำนง
เพียงกฎเกณฑ์เข้าใจหรือไม่เล่า
โลกเพียงเงาใช่แท้แค่ฝุ่นผง
ท่านสร้างกฎตราไว้ให้ดำรง
ใช่ลุ่มหลงลักษณาตามืดมน
ศาสนามาที่หลังการสร้างโลก
ล้วนอุปโลกน์กันไปให้สับสน
เพียงปลอบโยนยามร้าวให้ชาวชน
ยึดผู้คนด้วยวิถีพิธีการ
เมื่อจิตรู้มิห่างไกลวิสัยนัก
ไยมิพักสำรวจตรวจสังขาร
เดินทางสู่มรรคามหายาน
สิ้นสุดการปุจฉาค้นหาธรรม...
18 มกราคม 2565 15:19 น.

ปัจฉิมกาล

คีตากะ

บุราณกาลนานมาจารึกไว้
แฝงเร้นนัยอักษรซ่อนอรรถา
ผู้ส่งสาส์นเผยพจน์รจนา
คำศาสดาพยากรณ์ก่อนสิ้นกาล
ลางบอกเหตุเลศนัยนับได้หก
จึ่งสาธกยกพลางอ้างหลักฐาน
หนึ่งศีลสัตย์ทั้งหลายมลายลาญ
ปรากฏมารปีศาจดาษดาดิน
เสพสุราฆ่าสัตว์บำบัดท้อง
ผัวเมียต้องแยกทางต่างผายผิน
ปราศสัตย์ซื่อถือไว้ให้ชาชิน
ผู้ใหญ่สิ้นคุณธรรมนำผิดทาง
สองควันไฟลามโลกวิโยคทั่ว
ฟ้ามืดมัวบังตาพาหม่นหมาง
ว่าไฟป่าโลกร้อนซ่อนอำพราง
ภูเขาต่างพ่นไฟให้ตะลึง
สามสัตว์ร้ายจากนรกพาอกสั่น
พรากชีวันมานุษสุดคาดถึง
ซ่อนในเชื้อโรคร้ายหมายฉุดดึง
ระบาดครึ่งค่อนโลกพาโศกตรม
สี่ครั้นความวุ่นวายมากมายเห็น
ชนทุกข์เข็ญขาดแคลนแสนขื่นขม
ภัยพิบัติกระหน่ำซ้ำนิคม
ค่อยเพาะบ่มความขัดแย้งรุนแรงตาม
ห้าหากถึงซึ่งเหตุการตายหมู่
ลางให้รู้โลกาน่าเกรงขาม
เร่งกลับใจให้ทันมั่นพยายาม
ก่อนรุกลามถึงตนทนโศกา
หกสุรีย์ขึ้นทิศประจิมริมขอบโลก
ย่อมวิโยคดับดินสิ้นสังขาร์
มาตรแม่เหล็กกลับขั้วทั่วพสุธา
โลกผิดท่าหมุนกลับทาง...ร้างชีวัน...
นำมาจาก www.suprememastertv.com (คำทำนายโบราณ)
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ