1 สิงหาคม 2558 01:14 น.
คีตากะ
แม้มิใช่ใครคนนั้นที่เธอรอ
แต่เพียงขอเคียงข้างเส้นทางฝัน
เพื่อปลอบโยนดูแลให้แก่กัน
ถึงเหน็บหนาวตัวฉันมั่นอดทน
อาจยาวนานยาวไกลจะไม่เศร้า
บางครั้งเหงาแต่ใจไม่สับสน
รู้หน้าที่มีต่อเธอเสมอจน
ตราบเธอพ้นภัยพาลสำราญใจ
จะขับกล่อมบทเพลงบรรเลงผ่าน
อาจฟังหวานปนเศร้าเหงาแค่ไหน
ก็เพียงคีย์ดนตรีมีเพี้ยนไป
เพราะจิตใจอ่อนล้าคราบางที
อย่าสงสารเห็นใจในตัวฉัน
เพียงแค่คนช่างฝันสร้างสรรค์สี
ไม่มีค่าอะไรใจคนดี
คอยพร่ำเพ้อทุกนาทีเหมือนที่เป็น
หากได้พบสบเจอคนเธอฝัน
คนอย่างฉันก็คงไกลไม่แลเห็น
แค่เพียงคนดนตรีที่จำเป็น
จำต้องเร้นหลบหายหนีไกลตา.....
1 สิงหาคม 2558 01:09 น.
คีตากะ
คราวดอกฟ้ากิ่งโน้มประโลมหล้า
หมื่นดาราโศกเศร้าเฝ้ากำสรวล
เดือนเสียดายหมายปองร้องคร่ำครวญ
สวรรค์ปรวนสั่นไหวในบัดดล
ครั้นดินจูบดอกฟ้าอ้าแขนรับ
ประจงจับพักตร์ดวงล่วงเวหน
หล่อหลอมรวมร่วมรักหักกมล
ยังจิตชนตื้นตันมั่นรักจริง
มาตรแม้นต้องครองคู่อยู่ลำบาก
แต่ใจฝากรักแท้แม้ยากยิ่ง
ยังยอมทนหม่นกายหมายแอบอิง
ดังมิตรมิ่งสิเน่หาชั่วฟ้าดิน
ยอมตกตายร่วมกันสุขหรรษา
มิระอาคำแคลนแม้นติฉิน
เปิดเผยใจใสซื่อถือชีวิน
ปราศมลทินมัวหมองครองชีวา
ทวยเทพไท้ให้พรขจรกลิ่น
สองชีวินสรวลเสเสน่หา
มีอภัยในรักตระหนักพา
อยู่คู่ฟ้าเคียงดินตราบสิ้นลม.....
1 สิงหาคม 2558 01:15 น.
คีตากะ
ทุกเพลาคราแสงแห่งสูรย์ดับ
ล่วงลงลับขอบโลกตกสิ้นแสง
ดาวเกลื่อนฟ้างามตามาสำแดง
ประชันแข่งแสงสีรัตติกาล
ใจคิดถึงหนึ่งใครที่ปลายฟ้า
แอบไปหาทุกราตรีที่สืบสาน
ท่องโบยบินถิ่นไกลในห้วงกาล
ข้ามละหานดงดอยล่องลอยลม
ค้นเคหะหวานใจอยู่ไหนหนา
เพียงใจข้าคิดถึงยากพึงข่ม
หักหาญรักหนักแท้แพ้อารมณ์
เพียงหมายชมพิศเจ้าคราวนิทรา
หลับฝันดีเถิดหนาอย่าเปลี่ยวเหงา
ข้าจะเฝ้าป้องภัยให้หรรษา
อยู่เคียงข้างทั้งคืนชื่นชีวา
อย่าเหว่หว้าอ้างว้างหมางดวงมาน
ถ่ายทอดคำย้ำรักสลักจิต
มั่นสถิตเทียมใจให้กล่าวขาน
ข้าคนไกลไม่ช้าหานงพาล
เชื่อมสะพานสานรักในสักวัน...
1 สิงหาคม 2558 01:18 น.
คีตากะ
ฝากหัวใจสถิตไว้ ณ ปลายฟ้า
ปลอบดาราอย่าเหงาเศร้าหม่นหมอง
เพ้อกับเดือนเคลื่อนฟ้าทุกครามอง
กู่เพลงร้องกล่อมลมพรมพฤกษ์ไพร
สายตาเหงาเฝ้ามองแต่ท้องฟ้า
เปลี่ยวอุราคราดึกนึกหวั่นไหว
ยินเพียงเสียงนกเห่หริ่งเรไร
ดังเพื่อนใจยามล้าคราอ่อนแรง
จิตใจยังซักไซร้เฝ้าไต่ถาม
รำพึงพล่ามเพ้อครวญชวนแสลง
นอนฟังเพียงเสียงใจไขแสดง
ความลับแห่งหัวใจแอบได้ยิน
มันพูดย้ำคำรักมากนักหนา
เจรจาเสียงหวานพาลถวิล
ซึ้งถ้อยคำบางคนครายลยิน
อยากโบยบินไปหาสบตาดู
บอกกับใจเงียบไว้ไยสับสน
เล่นซุกซนวาดฝันวันสวยหรู
เจ็บกี่ครั้งยังใฝ่ไม่แลดู
รอยแผลอยู่เต็มใจไม่หลาบจำ....
1 สิงหาคม 2558 01:13 น.
คีตากะ
แอ่วเมืองเหนือเมื่อคราหน้าวสันต์
ผกาพรรณแพรวพรายท่ามสายฝน
รินหลั่งไหลร่วงลงหล้าแลน่ายล
เหมือนม่านมุกร่วงหล่นดลบันดาล
ภูเขาเขียวเคี้ยวคดเลี้ยวลดหลาย
ซ้อนเรียงรายเลือนรางวางตระหง่าน
ท้องฟ้าใสไพจิตรพิศตระการ
ฝนเหนือซ่านแทรกทรวงห้วงกมล
หวนรำลึกนึกถึงคำนึงนิจ
คนเคยชิดเชยชมร่วมลมฝน
กลางทางเปลี่ยวเหลียวแลไร้แม้คน
สองคนด้นดั้นสู่ดอยหมายสอยดาว
เดินตามรอยครูบาฯสู่ฟ้าสูง
หอมจรูงฟุ้งกลิ่นประทิ่นสาว
เคล้าบุบผาพร่างพรายหลายพันธุ์พราว
ทุกย่างก้าวเกี่ยวก้อยคนคอยเคียง
สนธยาเยี่ยมเยือนแล้วเคลื่อนผ่าน
รัตติกาลกล้ำกรายไร้สุ้มเสียง
หริ่งเรไรไขเพลงเปล่งสำเนียง
ไม่พอเพียงกลบเสียงใจในรักลง
สบตาซึ้งตรึงจิตพิศวาท
คงมิอาจหักห้ามความใหลหลง
สื่อความหมายมากมายสายตาคง
แม้เหน็บหนาวน้ำค้างลงคงอุ่นใจ
กราบพระธาตุอธิษฐานผสานจิต
ในคืนมิดมืดมองต้องหวั่นไหว
มีเพียงแสงแห่งรักประจักษ์ใจ
ส่องสุกใสเพียงข่มดาวพราวนภา
แต่คืนนี้มีใครหัวใจเหงา
เซื่องซึมเซาเดียวดายคล้ายห่วงหา
ถึงบางใครไกลร้างหมางอุรา
เห็นพิรุณหลั่งมาน้ำตาซึม.........