โคมจันทร์แขวนขอบฟ้าพรายพร่าแสงเสียงพิณแห่งสวรรค์บรรเลงไหวจันทร์ทักทายสายธารสานสายใยสวรรค์แลโลกเชื่อมไว้ด้วยใจเดียวล่องเรือตามบทเพลงบรรเลงขานประภาคารโพ้นฟ้าตาแลเหลียวท่องชเลล้ำลึกนึกดายเดียวจิตเปล่าเปลี่ยว ณ ราตรีที่ยาวนานฟังเรื่องราวสายน้ำรำพันเอ่ยลมรำเพยพัดพลิ้วผิวละหานคุ้งแควโค้งหินโคกมากโตรกธารยากจักผ่านง่ายดายคล้ายหลุมพรางแต่คำมั่นสัญญาใจมอบให้เจ้าคอยเร่งเร้าภายในให้ถากถางแม้ทะเลไร้ฝั่งดั่งเลือนรางชีพวายวางก็จะไปให้ถึงเธอ....
มณีรัตน์ประภัสสรสะท้อนแสงล้วนเสียดแทงนัยน์เนตรวิเศษสีค่าครองเมืองหายากลำบากมีอัญมณีล้ำค่าอ่าอำไพเพชรดา มรกต งดงามเด่นนิล โกเมน มุกดา พาหลงใหลบุษราคัม ทับทิม พริ้มประไพเพทายไซร้ ไพฑูรย์ จำรูญตางามเพริศแพร้วแก้วเก้าเนาวรัตน์แจ่มจำรัสเลิศเลอชนเพ้อหาเสี่ยงชีวีพลีกายหมายได้มาด้วยรู้ค่ารัตนะไม่ละเพียรแต่ไก่กาวานรเทียวจรเล่นพานพบเห็นจินดาพาส่ายเศียรกลับทิ้งขว้างวางไว้ให้ดาษเดียรแสนอิดเอียนเมินหน้าอิดหนาใจเปรียบคำปราชญ์แจ้งธรรมน้อมนำสัจย่อมขจัดทุกข์จางสว่างไสวแต่ชนพาลกลายเมินเดินห่างไกลด้วยดวงใจมืดมิดจิตหมองมัว...
เบื้องขวา "ภุมรี" โสภีพักตร์พิไลลักษณ์เปรียบอย่างนางอัปสรเชื้อชาติครุฑพาหนะพระสี่กรถ้อยสุนทรว่านารายณ์ทรงสุบรรณเบื้องซ้าย "มัศยา" นารีลักษณ์พิลาสพักตร์เทียมอย่างนางสวรรค์ชาตินาคีคุ้มครองป้องภควันต์ปางหนึ่งนั้นนามนาคปรกยกพังพานเบื้องหน้า "หิมวา" ลักขณานักล้ำเลอลักษณ์พักตร์ใสใจห้าวหาญดุจหิมะสงบเย็นเด่นสะคราญเหนือวิมานทวยเทวาหิมาลัยสามอนงค์สามลักษณ์ยากจักผ่านประหนึ่งปานตรีภพสลบไสลเพลินรักโลภโกรธหลงคงเกิดภัยจำต้องใช้ไตรสิกขาตัดอาวรณ์...
เพียงอยู่ใกล้ก็ซึ้งถึงไออุ่น ยิ้มละมุมสะเทือนใจไหวสะท้าน แววตาซื่อเดียงสาพาสราญ อาจเปรียบปานทารกน้อยเจ้ากลอยใจ โชคชะตาหรือฟ้าพาลิขิต เพียงพบมิตรมิ่งขวัญวันอ่อนไหว ช่วยฉุดรั้งคนล้มตรอมตรมใจ ลุกยืนได้อีกหนบนทางเปลี่ยว แม้ไร้สิทธิ์จะรักตระหนักแน่ ขอเป็นแค่คนไกลได้แลเหลียว อยู่มุมนี้มองเธอเพ้อผู้เดียว คอยยาเยียวหัวใจให้กานดา เผื่อวันใดเธอเศร้าสุดเปล่าเปลี่ยว เพียงแต่เหลียวแลมองลองค้นหา อาจพานพบหนึ่งใครในเวลา เคยคุ้นหน้ากาลก่อนย้อนเดือนปี พร้อมจะฉุดมือเธอเมื่อเจอทุกข์ ดับไฟลุกเผาใจให้โฉมศรี ตอบแทนคุณน้ำใจในความดี ที่เคยมีนานมา....อย่าลืมเลือน
รอยยิ้มนั้นบาดใจหวั่นไหวจิต อาจพิชิตกองทัพนับหมื่นแสน ดวงพักตร์ดั่งเทพธิดาฟ้าเมืองแมน ชายทั่วแดนลุ่มหลงอนงค์นาง เธอปรากฏเบื้องหน้าพาคลุ้มคลั่ง ยากยิ่งหยั่งดวงจิตคิดสะสาง ฟากฟ้าใดส่งมาพาเลือนราง สบเนตรนางความหมองล่องมลาย รอยยิ้มฝากรอยใจให้คิดถึง สุดตราตรึงภาพเธอละเมอฉาย ยังปรากฏกลางทรวงมิล่วงคลาย พาวุ่นวายยิ่งนักสุดจักปาน มาตรแม้นมิสบหน้าเพียงคราหนึ่ง พาคิดถึงร่ำไปให้ร้าวฉาน เพ้อรำพึงถึงเธอเหม่อวิญญาณ จนการงานมิอาจทำเฝ้าคำนึง เธอมีจริงสิ่งลวงฤาสรวงสร้าง ยากปล่อยวางอำนาจความคิดถึง จะอยู่ไกลเพียงใดใจรำพึง ยังตราตรึงยิ้มนั้น...ฝันละเมอ....