12 เมษายน 2556 20:49 น.

เจ้ากรรมนายเวร...

คีตากะ

cls2995vj6.gif













เนื้อชิ้นโตหัวหมูขึ้นบูชา
เทพดาส่ายหน้าพาเมินหนี
เสพมังสาฆ่าเข่นเซ่นชีวี
จนอ้วนพีอาบเลือดเหือดแห้งกรัง

ประชุมนี้มีเพื่อสันติภาพ
โลหิตอาบเต็มโต๊ะใหญ่ใจมุ่งหวัง
ความสงบกลับมาอีกคราครั้ง
แท้เพียงนั่งวาดวิมานสราญรมย์

ชีวิตแลกชีวิตสิทธิเทียมเท่า
มัวนั่งเขลาแก้ปัญหาว่าเหมาะสม
ยิ่งเติมเชื้อเพิ่มไฟให้แรงลม
สุดท้ายก้มพ่ายแพ้แก่แรงกรรม

กี่ล้านปีที่ยังนั่งวาดฝัน
เข่นฆ่ากันเพราะเคยฆ่าพาอิ่มหนำ
เลือดล้างเลือดเชือดเฉือนเหมือนเคยทำ
สัตว์โลกเป็นตามกรรมคำศาสดา

กายมนุษย์สุดประเสริฐเลิศนักแล
หากเพียงแต่จิตใจเป็นใครหนา
สิงสู่ร่างสางบัญชีหนี้ชีวา
เกรี้ยวโกธาขาดสติพินิจเทอญ.....


				
12 เมษายน 2556 20:50 น.

แดนแห่งความหลัง...

คีตากะ

45-4-1092500618.jpg












เมืองโบราณแห่งนี้มีมนต์ขลัง
เมื่อแรกครั้งย่างเหยียบเย็นเยียบไหว
ธรณีวิปโยคลมโบกไกว
ยังจิตใจสู่ภวังค์ครั้งบุราณ

แนวทิวผาทอดยาวจรดราวฟ้า
คราบน้ำตาแลโลหิตติดฉาบฉาน
เสียงร่ำไห้ได้ฟังดั่งวิญญาณ
ก้องกังวานจากหลุมศพกลบปฐพี

ทอดกายล้มจมดินสิ้นชีวา
ใช้กายาต่างกำแพงแห่งกรุงศรี
ต้านข้าศึกศัตรูสู้ไพรี
จนชีวีจากร่างวางวายปราณ

บัดนี้มาน้ำตาข้าฯสะอื้น
เมื่อมายืนหน้าสุสานทหารหาญ
เจ้าจากไปแต่ข้าฯมาอีกครากาล
ทิ้งสังขารสุดคณนาเทียมหิมาลัย
				
12 เมษายน 2556 20:55 น.

เสียงของความคิด...

คีตากะ

altk8ti.jpg












โปรดอย่าคิด...เสียงดัง...กังวานแว่ว...
จะแน่แน่วสัจจาพาหวั่นไหว
เพราะอากาศอาจนำถ้อยร้อยเรียงไป
บอกคนไกลให้รับรู้ก้องกู่ดัง...

โปรดอย่าคิด...เสียงดัง...ฟังชัดถ้อย...
จะร่วมร้อยดวงใจให้ความหวัง
เพราะแสงแดดยามเช้าเฝ้าแอบฟัง
คอยแจ้งยังใครหนึ่งซึ่งเดียวดาย...

โปรดอย่าคิด...เสียงดัง...ดั่งร่ำร้อง...
จะคู่ครองเคียงกันจิตมั่นหมาย
เพราะเดือนดาวพราวฟ้าจะแพร่งพราย
แพร่กระจายข่าวให้ใครได้ยิน...

โปรดอย่าคิด...เสียงดัง...คราพลั้งเผลอ...
จะละเมอเพ้อครวญชวนถวิล
เพราะสายลมพรมพลิ้วลิ่วยลยิน
จะโบยบินบอกเขาจนเข้าใจ...

โปรดอย่าคิด...เสียงดัง...ครั้งดึกดื่น...
จะรวยรื่นชื่นรักสักเพียงไหน
เพราะผืนดินยินแว่วแล้วจะไป
กระซิบให้ใครนั้นนอนฝันดี...






kod3011501_400.jpg				
12 เมษายน 2556 20:58 น.

คืนแห่งเหมันต์....

คีตากะ

heaven.jpg














เสียงเรไรแว่วมาชายป่าเขา
คืนไร้เงาหนาวสั่นจันทร์ลับหาย
ลมเย็นเยียบพลิ้วผ่านลาญผิวกาย
ราวคมมีดกรีดกรายหมายทิ่มแทง

สร้างบาดแผลร่องรอยค่อยกระหน่ำ
คอยตอกย้ำซ้ำเดิมเริ่มแสลง
จนใจล้าพร่าผลาญพานสิ้นแรง
ท่ามคืนแห่งเหมันต์อันเลือดเย็น

กรงเล็บแห่งมัจจุราชผงาดเงื้อ
กางอยู่เหนือขุนเขาทอดเงาเห็น
จ้องคร่ากุมฉีกเชือดเลือดกระเซ็น
ด้วยความเย็นตัดขั้วตรงหัวใจ

พรากวิญญาณจากร่างกลางคืนเหน็บ
มิทันเจ็บส่งเสียงเพียงหลับใหล
ปราศถ้อยคำอำลาจะอาลัย
ลมหายใจขาดหายมลายเลือน

ชีวิตใยสั้นนัก...ราวผักปลา
ถูกเข่นฆ่าง่ายดายคล้ายมีดเฉือน
ชีวิตแล้วชีวิตเล่าเฝ้าลบเลือน
ทอดกายเกลื่อนแผ่นดินสิ้นรูปนาม

โน่นนกแห่งราตรีสีดำมืด
สายตาชืดเย็นชาน่าเกรงขาม
มันจับจ้องมองอยู่ทุกโมงยาม
เหนือเขตคามทั่วถิ่นบินเวียนวน.....


				
12 เมษายน 2556 21:00 น.

ใจคงเดิม...

คีตากะ

lonely.jpg








หากท้องฟ้าเธอไร้ดาวพราวพรายแสง
กายสิ้นแรงใจล้าพาท้อถอย
นภากว้างรางเลือนเหมือนเลื่อนลอย
เธอเฝ้าคอยดาวเดือนเคลื่อนคล้อยมา

แม้นฟ้ากว้างว่างเปล่าและเหงาเงียบ
ลมเย็นเยียบหนาวสั่นหวั่นผวา
ความมืดมนหม่นหมองครองชีวา
เธอเหว่ว้าสิ้นดีไม่มีใคร

ขอแต่เพียงจดจำค่ำคืนนั้น
รอถึงวันเดือนดาวสกาวใส
คงซาบซึ้งถึงความต่างหว่างฤทัย
แท้เพียงใจไหวหวั่นเท่านั้นนา

ฟ้าข้างขึ้นข้างแรมแต้มแต่งสี
ดั่งชีวีหวานขมบ่มศึกษา
หวังเธอแจ้งแทงทะลุสู่สัจจา
มาตรแม้นฟ้าเปลี่ยนไป  ใจคงเดิม
				
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ