10 เมษายน 2556 22:19 น.

อัมพวัน...

คีตากะ

legen.jpg













ฝูงหิ่งห้อยกะพริบระยิบแสง
ประชันแข่งจันทร์เพ็ญเด่นเฉิดฉาย
แฝงลำพูชูกิ่งเพริศพริ้งพราย
ส่องประกายดั่งคบเพลิงเถกิงไพร

ห้วงท้องธารกระเพื่อมเลื่อมพรายสี
กลางนทีปรากฏจันทร์อันสุกใส
นั่งเรือแหวกม่านน้ำลำนำไกล
ราวหลงในภาพวาดพิลาสงาม

เสียงไม้พายกระทบคลื่นในคืนเปลี่ยว
คุ้งแควเคี้ยวคดไกลใจไหวหวาม
ทัศนาม่านหมอกเย้าหยอกตาม
ทั่วเขตคามปกคลุมคล้ายกลุ่มควัน

วัดโบราณเรียงรายเคียงสายน้ำ
กลองย่ำค่ำดังรัวทั่วเขตขัณฑ์
กระท่อมหลบดงมะพร้าวพราวอรัญ
อัมพวันยามค่ำล้ำตระการ

ดารกะประดับโพยมระยับ
เรไรขับเพลงไพรใกล้ละหาน
เหมือนเสียงใจแว่วดังฟังกังวาน
ให้ก้าวผ่านสู่ฝั่งดั่งตั้งใจ....









				
10 เมษายน 2556 22:23 น.

ฐีติจิต....

คีตากะ

The-World-of-Water-by-Snap1%255B1%255D.j













ฐีติจิต...จิตเดิมแต่เริ่มต้น
พิสุทธิ์พ้นมลทินสิ้นสงสาร
ดำรงอยู่อิสระสุดประมาณ
เหนือห้วงกาลนานมาสถาวร

ดั่งบิดามารดาพากำเนิด
กายใจเกิดเป็นมาอุทาหรณ์
ชื่อมนุษย์สุดประเสริฐเลิศอาภรณ์
เที่ยวเร่ร่อนในวัฏฏะประดาชน

ฐีติจิต...กอปรไปในความหลง
จึงเสริมส่งอวิชชาพาก่อผล
ปรุงแต่งเป็นสังขาร....อุปาทานดล
ภพชาติวนเรียกว่าปัจยาการ

จิตเดิมแท้กอปรหลงบ่งชี้เหตุ
อุปกิเลสหมักหมมจมสงสาร
อบรมจิตภาวนาพาเกิดญาณ
จึงประหารโมหันธ์หักบรรลัย

สังสารวัฏตัดขาดสิ้นชาติภพ
สว่างสงบด้วยจิตพิศผ่องใส
จากสมมุติเป็นวิมุตหลุดพ้นไป
ประหนึ่งน้ำกลิ้งในใบบัวเอย...



บางส่วนจากมุตโตทัย
อาจารย์มั่น ภูริทัตโต
วัดป่าสุทธาวาส




     ในปัญหาที่ว่า มนุษย์เกิดมาจากไหน 
เกิด เพราะอะไร พระพุทธเจ้าตรัสว่า 
ได้มีสิ่งที่เป็นปัจจัยต่อเนื่องกันมาเป็นเหมือนลูกโซ่ 
เรียกว่า ปัจยาการ, บางทีก็เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท ดังนี้ 

๑. อวิชชา (ความไม่รู้) เป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร
๒. สังขาร (การปรุง) เป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ 
๓. วิญญาณ (ปฏิสนธิจิต) เป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป 
๔. นามรูป (ขันธ์ ๕) เป็นปัจจัยให้เกิดสฬายตนะ 
๕. สฬายตนะ (อายตนะ ๖) เป็นปัจจัยให้เกิดผัสสะ 
๖. ผัสสะ (ความสัมผัสกับสิ่งนอกตัว) เป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา 
๗. เวทนา (ความรู้สึกสุขทุกข์) เป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา 
๘. ตัณหา (ความอยาก) เป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทาน 
๙. อุปาทาน (ความยึดถือ) เป็นปัจจัยให้เกิดภพ 
๑๐. ภพ (การถือกำเนิด) เป็นปัจจัยให้เกิดชาติ 
๑๑. ชาติ (ความเกิด) เป็นปัจจัยให้เกิดความทุกข์ต่างๆ,

คำบาลีว่า "อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ นามรูปปจฺจฺยา สฬายตนํ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส ผสฺสปจฺจยา เวทนา เวทนาปจฺจยา ตณฺหา ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ อุปาทานปจฺจยา ภโว ภวปจฺจยา ชาติ ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา.






02_online.JPG				
10 เมษายน 2556 22:24 น.

ปัญหาของการหาคู่ในอุดมคติ

คีตากะ

jk2.jpg












ชายหนุ่มหนึ่งหดหู่ดูทุกข์หนัก
จึงไปหาเพื่อนรักจักปรึกษา
พบเพื่อนเกลอพลันเอ่ยเผยวาจา
เขาบอกว่า " ฉันนี้อยากมีเมีย! "

เขาอ้างเอ่ยเหตุผลระคนเศร้า
" ฉันนั้นเล่าแก่ไปใจละเหี่ย
หาไม่ได้สักคนจนอ่อนเพลีย
อยากมีเมียเต็มแก่...แกช่วยที! "

" ฉันพาหญิงมากหน้ามาเที่ยวบ้าน
แม่ก็พานไม่ชอบใครใจโศกศรี
ปฏิเสธเสียทุกคนก่นชีวี
ทำอย่างไรกันดี...อยากมีเมีย? "

เพื่อนจึงบอกว่า " โถ! โอ้! ง่ายมาก
ใช่เรื่องยากอะไรอย่าใจเสีย
แค่หาคนหน้าคล้ายแม่แกทำเมีย
รับรองเคลียร์งานนี้มีคู่ครอง

ชายหนุ่มจึงบอกเพื่อนเขาเอื้อนเอ่ย
" ฉันนั้นเคยลองแล้วไม่แคล้วหมอง
กลับเป็นพ่อฉันขึ้งถลึงมอง
ท่านไม่ชอบเลยต้องล่องลาไกล! "				
10 เมษายน 2556 22:28 น.

ทิฆัมพร...

คีตากะ

503468r2i0ope08s.gif
















ห้วงนภากว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
น่าสังเกตเลศนัยให้แอบแฝง
บางคราสีสดใสได้สำแดง
บางคราวแต่งแต้มสีที่มืดมน

ยามอาทิตย์อุทัยขับไขแสง
ฟ้าพลันแจ้งแจ่มจรัสลัดเวหน
แต่ราตรีไร้ดาวคราวแลยล
กลับมัวหม่นสลัวเลือนเยือนอัมพร

นภาลัยว่างเปล่าราวกระดาษ
ธรรมชาติสร้างมาประภัสสร
เดิมเปลือยเปล่าเช่นนั้นนิรันดร
สรรค์สิ่งจรเยี่ยมเยือนเหมือนชั่วคราว

เหล่าธุลีละอองไอเคลื่อนไหลล่อง
ลอยฟูฟ่องเลยล่วงสู่ห้วงหาว
ก่อหมู่เมฆหมุนวนยลสกาว
คลื่นสีขาวปรากฏหยาดหยดมา

เกิดพระพายพระพิรุณหนุนเนื่องหลั่ง
โปรยปรายยังปฐพีปรี่โถมถา
สายวิชชุกัมปนาทซัดฟาดมา
ปานแผ่นฟ้าพังทลายสลายไป

ทั้งสายฟ้าสายฝนระคนทั่ว
เกรี้ยวกราดรัวหยาดมุกเม็ดสุกใส
หลอมรวมเป็นคงคาชลาลัย
โคจรไปตามวัฏฏะจิรกาล

คิมหันต์เยือนแหล่งหล้าอากาศร้อน
ทิฆัมพรสีเข้มเกษมศานต์
เหมันต์หวนเหน็บหนาวร้าววิญญาณ
ฟ้าคงสราญศานติทุกทิวา

ฟ้าเปรียบเป็นเช่นใจใสสะอาด
อารมณ์กลาดกล้ำกลายหลายชันษา
ปานดังหนึ่งฤดูกาลผันผ่านมา
ในไม่ช้าลับหายมลายเลือน...





1557692re447it2kn.gif


1514273wo63k1mcoc.gif



1517330f3o457xtbz.gif				
10 เมษายน 2556 22:29 น.

แม่สาย...

คีตากะ

588790y5091ojirn.jpg













บนเส้นทางสายไหมไปแม่สาย
หมอกพร่างพรายสองฝั่งดังม่านขึง
ทุ่งนากว้างวางแต้มแซมหนองบึง
สายบัวหนึ่งชูช่อลออตา

เหมันต์เยือนเยี่ยมเย้าเนาถิ่นฐาน
ดุจสายธารกาลเปลี่ยนแวะเวียนหา
อรุณรุ่งลมหนาวพราวนภา
หนาวอุราหน้าหนาวร้าวฤดี

ถึงยามสายสายหยุดหยุดบานเบ่ง
ทุ่งวังเวงปราศชนบนวิถี
กลิ่นฟางไหม้ตลบทุ่งฟุ้งยวนยี
ขุนคีรีทอดเงาเร้าสายตา

สัญจรผ่านบ้านทุ่งมุ่งหมายมั่น
สายสัมพันธ์แน่นหนักเกินจักหา
กราบแทบเท้าบิดรและมารดา
หวังพบหน้าก่อนสายหมายแทนคุณ

จากท้องทุ่งสู่กรุงหวังรุ่งโรจน์
เขาจันโจษหมิ่นหยามตามเนื่องหนุน
แม่สายลืมสายใยไร้การุณย์
ลืมบุญคุณผู้เฒ่าก่อนเก่ามา

อยู่เมืองใหญ่ทำงานเปรียบปานทาส
จนสายตัวแทบขาดด้อยวาสนา
ค่าแรงเพียงขั้นต่ำจำทนมา
เป็นดอกหญ้าในป่าปูนจำรูญรวง

หมุนเศรษฐกิจก้าวไกลไปทั่วโลก
เหงื่อชุ่มโชกค่ำเช้าเนาเมืองหลวง
ด้วยความจนทนอยู่สู้กับดวง
หมายพ้นล่วงพรหมลิขิตชีวิตมา

ข่าวผู้เฒ่าล้มป่วยอำนวยให้
นำสายใจคืนถิ่นถวิลหา
สายน้ำผึ้งผลิดอกออกงามตา
สายสวาทคืนนาด้วยอาทร

สายลมพลิ้วชายทุ่งจรุงจิต
ให้หวนคิดคำนึงถึงสายสมร
จะโบยบินกลับรังยังคืนคอน
ขอไหว้วอน...แม่สาย...ไม่สายเกิน...





3120864xy69dgvsgb.gif


1847706zz6hagz6y5.gif				
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ