12 เมษายน 2556 21:21 น.
คีตากะ
งามเจิดจ้าพร่าพรายประกายส่อง
แสงสีทองเจิดแจ้งทุกแห่งหน
เสียงระฆังดังเพราะเสนาะล้น
ค่อยใกล้ตน...ใกล้เข้ามา...ใกล้เข้ามา
จากสวรรค์อันงามด้วยความรัก
ความสุขตักตวงให้ผู้ใฝ่หา
เพียงเผยความจริงใจในอุรา
ทุกข์นานาปล่อยวางช่างผ่อนคลาย
ความโศกนี้มีวันจะผันผ่าน
อีกไม่นานแสงสว่างจะพร่างฉาย
งามกระจ่างต่างสีสันพรรณราย
ทอดประกายกอดแอบเราแนบใจ
เรามาจากสวรรค์งามแห่งความรัก
ความสุขจักยืนยงอสงไขย
เราใฝ่หาอนาคตงดงามไกล
ยุคทองใกล้หนักหนา...ใกล้มาแล้ว !
12 เมษายน 2556 21:24 น.
คีตากะ
ยิ น ดี ที่ มี เ ธ อ ไว้ เ พ้ อ พ ร่ำ
เ อ่ ย ถ้ อ ย คำ ว่ า รั ก ส มั ค ร ส ม า น
เ ติ ม เ ต็ ม ฝั น วั น เ ห ง า เ ค ย ร้ า ว ร า น
เ พิ่ ม ค ว า ม ห ว า น ใ ห้ ชี วิ ต ส นิ ท ใ น
ยิ น ดี ที่ วั น นี้ ยั ง มี รั ก
ไ ม่ จ ม ป ลั ก ค ว า ม เ ศ ร้ า เ ห ง า ห วั่ น ไ ห ว
เ ป็ น พ ลั ง แ ร ง จิ ต แ น บ ชิ ด ใ จ
เ ป ลี่ ย น โ ล ก ใ ห ม่ แ ป ล ก ต า ทุ ก น า ที
ยิ น ดี ที่ มี ใ จ เ พื่ อ ใ ฝ่ ฝั น
ไ ม่ เ งี ย บ งั น เ ป ล่ า ว่ า ง ก ล า ง วิ ถี
มี ค ว า ม รั ก ชั ก นำ ทำ สิ่ ง ดี
ส ร้ า ง ชี วี ง ด ง า ม ต า ม แ ต่ จิ น ต์
ยิ น ดี ที่ มี ก า ย ห า ย ใ จ อ ยู่
ไ ด้ รั บ รู้ เ รื่ อ ง ร า ว พ ร่ า ง พ ร า ว สิ้ น
ทั้ ง ร อ ย ยิ้ ม แ ล ะ น้ำ ต า พ า ห ลั่ ง ริ น
ส า น ชี วิ น ห ล า ก ร ส ทุ ก บ ท ต อ น.....
12 เมษายน 2556 21:25 น.
คีตากะ
ขอร้องอย่าโทรมาหาบ่อยบ่อย
หัวใจพลอยเต้นรัวกลัวหลงใหล
หวาดหวั่นจิตคิดมากลำบากใจ
อาจเผลอไปหลงเธอละเมอครวญ
ขอร้องอย่าเอ่ยวาจาว่าคิดถึง
เดี๋ยวใครหนึ่งหวั่นไหวใจปั่นป่วน
เกิดพร่ำเพ้อเธอเพลินจนเกินควร
พานก่อกวนใจเธอเพ้อทุกวัน
ขอร้องเธออย่าหวานปานน้ำผึ้ง
เกรงลึกซึ้งเกินจิตคิดใฝ่ฝัน
หากเกินงามห้ามใจไว้มิทัน
รักเกินกั้นทำไฉนใครจะต้าน
ขอร้องเธออย่าย้ำคำว่ารัก
เดี๋ยวไข้หนักเป็นมากยากหักหาญ
เพราะดวงแดแพ้คำรักเกินจักทาน
ฟังมากพานอ่อนแอแพ้ใจเธอ....
12 เมษายน 2556 21:26 น.
คีตากะ
กี่พันปีที่กายสลายลับ
ชีวาดับด่าวดิ้นสิ้นสังขาร
ปราศผาสุกทุกข์ทนทรมาน
จิตร้าวรานเท่าใดไล่คว้าเงา
รินน้ำตามากกว่ามหาสมุทร
กองกระดูกสูงสุดดุจขุนเขา
พบเพื่อพรากจากลามานานเนา
เพียงว่างเปล่าบนโลกอันโศกตรม
แต่แล้วฟ้าปรานีชีวีข้า
พบมหาอาจารย์ปานเทพสม
เฉกอุบลพ้นมลทินสิ้นระทม
ซบหน้าก้มกราบกรานสราญใจ
ถ้อยคำท่านปานเพชรวิเศษล้ำ
ส่งสาสนธรรมสำแดงแถลงไข
ยังมายาคร่ากุมห่อหุ้มใจ
จางสิ้นไปเปรียบแสงแห่งตะวัน
ดั่งมารดาตามหาพากลับบ้าน
หลงห้วงกาลนับกัปกลับสุขสันต์
สู่อ้อมกอดอันปลอดภัยห่วงใยกัน
สิ้นโศกศัลย์ในสงสารเบิกบานทรวง
12 เมษายน 2556 21:27 น.
คีตากะ
นำศัตราแห่งเจ้า...เข้ามาเถิด !
อีกเวทย์มนต์ล้ำเลิศประเสริฐแสน
ถ้อยวาจาคารมพรมทั่วแดน
แม้เมืองแมนยังอาจพ่าย...ข้าหมายลอง !
เผยความงามเหนือสามโลกคลอนโยกจิต
มหิทธิฤทธิ์สรรพเวทย์เรืองเดชผอง
กุศโลบายแยบคายหลายทำนอง
ขอประลองสัประยุทธ์...สุดชื่นชม
เจ้ามีชัยครองใจชนคนทั้งหลาย
สะกดร่ายมนตรามาครอบห่ม
ลวงล่อใจให้ยึดติดจิตตรอมตรม
โปรยหว่านคมคำลวงบ่วงมายา
ชนต่างทุกข์รุกเร้าล้วนเศร้าสร้อย
ด้วยบทร้อยเพลงซึ้งซึ่งมุสา
เพลินเวียนว่ายหลายหนก่นวิญญาณ์
หลงวาจาแห่งเจ้าเฝ้าร้าวราน
ตราบกาลลับดับไปไร้สาระ.....
เจ้าหาละเว้นปล่อยคอยล้างผลาญ
จองจำกายไม่พอล่อวิญญาณ
ใช้เยี่ยงทาสทรมานจนซานซม
บริวารแห่งมารห้าวหาญนัก !
ทั้งจงรักภักดีมีมากถม
สุดคณานับคำนวนล้วนกรานก้ม
ต่างนิยมในเจ้าเอากายพลี....
กลเกมเจ้าดุจเงาเขาวงกต....
แสนเลี้ยวลดคดเคี้ยวยากเทียวหนี
ก้าวหลงไปทำใจล้าคร่าชีวี
จำนอนพลีชีพก่ายกองนองแผ่นดิน
แม้นข้าหนึ่ง...ถึงเจ้ามากยากชำนะ
ข้าหาจะหวาดหวั่นพรั่นพรึงผิน
ขอรับรู้อุบายมารผลาญชีวินต์
ให้หมดสิ้นก่อนชีวาข้าวายปราณ
มาตรแม้นว่าหิมาลัยไซร้ถล่ม
กายข้าจมแผ่นดินสิ้นสังขาร
ขอตั้งรับระงับจิตพิชิตมาร
ด้วยปัญญาญาณแทงทะลุวิมุตติธรรม.....
อันพลังแห่งสมาธิก่อให้เกิดปัญญาญาณที่กล้าคมยิ่งกว่าศัตราอาวุธใดใดในสามโลก......เมื่อแสงแห่งปัญญาอุบัติขึ้นย่อมสรรค์สร้างอาวุธถึงจำนวน 84,000 ชนิด เท่ากับจำนวนกองกิเลสแห่งมารที่จะต้องผจญ ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องมือในการสัประยุทธ์และสามารถกำชัยชำนะเหนือมายาทั้งปวงได้ในที่สุด....ธรรมะย่อมชนะอธรรม !