27 ตุลาคม 2550 14:27 น.

รักสี่เส้า...

คีตากะ

ฉันรักเธอเธอไยไปรักเขา
ฉันทนเศร้าปวดใจกว่าใครไหน
ฉันรักเขาเพื่อนกันอัดอั้นใจ
ฉันเธอไซร้รักกันเขาคั่นกลาง

เธอรักฉันแต่ปันใจไปรักเขา
เธอจึงเศร้าเขามีใครไม่เคยห่าง
เธอเป็นเพื่อนคนของเขาเฝ้าอำพราง
เธอเขาต่างมีใครไยรักกัน

เขารักฉันฉันรักเธอเธอรักเขา
เขาต้องเศร้าเพื่อนเกลอเธอรักฉัน
เขารักเธอแต่เจอใครใจผูกพันธ์
เขาปวดร้าวเพราะฉันมั่นรักเธอ.....
				
27 ตุลาคม 2550 14:08 น.

ขอให้รักคงมั่นนิรันดร....

คีตากะ

ขอให้รักคงอยู่คู่ดินฟ้า
ขอให้รักโสภาอย่าหม่นหมอง
ขอให้รักจริงแท้อย่าแค่ลอง
ขอให้รักคู่สองครองนิรันดร์

ขอให้รักยืนยงมั่นคงแน่
ขอให้รักเที่ยงแท้อย่าแปรผัน
ขอให้รักรักแน่ดูแลกัน
ขอให้รักสุขสันต์ทุกวันวาร

ขอให้รักรักแท้อย่าแค่ฝัน
ขอให้รักผูกพันธ์มั่นแสนหวาน
ขอให้รักรักจริงยิ่งยืนนาน
ขอให้รักรักผ่านพ้นพานภัย

ขอให้รักหนักแน่นรักแสนรัก
ขอให้รักรักมั่นอย่าหวั่นไหว
ขอให้รักรักยิ่งเหนือสิ่งใด
ขอให้รักตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง

ขอให้รักแสนซึ้งตราตรึงจิต
ขอให้รักแนบชิดไม่คิดแหนง
ขอให้รักเข้าใจไม่คลางแคลง
ขอให้รักประจักษ์แจ้งไม่แสร้งลวง

ขอให้รักสลักจิตสถิตมั่น
ขอให้รักต่อกันหมั่นห่วงหวง
ขอให้รักจริงใจไม่หลอกลวง
ขอให้รักล้นทรวงทุกห้วงใจ.....
				
25 ตุลาคม 2550 14:50 น.

งานเทศกาลเดือนเก้า

คีตากะ

งานถือศีลกินผักกลางเดือนเก้า
เทพเจ้าอวยพรก่อนหน้าหนาว
เตรียมกายใจไม่ทานเนื้อเจือของคาว
นุ่งห่มขาวถือศีลสิ้นเบียดเบียน

ประเพณีทุกปีมีมหรสพ
จิตสงบเบิกบานกรานก้มเศียร
ไหว้พุทธโพธิสัตว์จัดธูปเทียน
ชนดาษเดียรทำทานสืบสานมา

ปีนี้เหงาเศร้าใจกราบไหว้พระ
คารวะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จิตโหยหา
ศาลเจ้าเก่าเราเคยชื่นรื่นอุรา
มีกานดาเคียงข้างสร้างบุญทาน

เทศกาลงานปีนี้ไม่มีแล้ว
เคยแน่แน่วสร้างบุญหนุนสืบสาน
ปล่อยให้เปลี่ยวเดียวดายคล้ายประจาน
งานล่วงผ่านเหลียวแลไร้แม้เงา......
				
25 ตุลาคม 2550 14:14 น.

ความสุขของฉัน

คีตากะ

เมื่อเธอเลือกเป็นดาวที่พราวฟ้า
เด่นนภาสูงลิบระยิบแสง
ฉันขอเป็นเช่นดินตราบสิ้นแรง
ให้ชนแหนงฉันต่ำคำประนาม

เมื่อเธอเลือกเป็นหงส์ที่ทรงศักดิ์
ชนปองรักมอบใจให้ล้นหลาม
ฉันขอเป็นเช่นกาใบหน้าทราม
ให้ชนหยามฉันด้อยต่ำต้อยดิน

เมื่อเธอเลือกไต่รุ้งจรุงสี
มุ่งสรวงศรีพิไลใจโผผิน
ฉันขอเป็นคนต่ำเดินย่ำดิน
ให้ชนหมิ่นฉันทรามตามแต่ใจ

เมื่อเธอเลือกดอกฟ้าลดาสรวง
งามเด่นดวงระย้าน่าหลงใหล
ฉันขอเป็นดอกหญ้ากลางป่าไพร
ให้ชนไซร้เหยียบย่ำฉันจำนน

เมื่อเธอเลือกเดินกลางทางช้างเผือก
เย็นยะเยือกไกลตาเวหาหน
ฉันขอเดินทางกันดารผลาญผจญ
ให้ผองชนดูแคลน...แสนสุขใจ.....
				
22 ตุลาคม 2550 16:25 น.

อนุตตราจารย์

คีตากะ

ณ สภาลดาวัลย์ไพรสัณฑ์สณฑ์
เวไนยชนหลากเหล่าเฝ้าน้อมเศียร
ล้วนปิติปรีดามามณเฑียร
ตั้งจิตเพียรฟังธรรมคำศาสดา

พิศพักตร์เนตรเมตไตรยไอศวรรย์
ไป่เหียนหันไหวติงอหิงสา
ทั้งตรีโลกยกกรว่อนวันทา
สรรเพชุดาชี้แจงสำแดงธรรม์

เปล่งรัศมีวิภากาญจนาแสง
สกลแหล่งชัชวาลกระสานติ์สันต์
จะแจ้งจิตวิชชาอภิธรรม์
สรวงสวรรค์สั่นไหวในบัดดล !

มนสิการภารดีมุณีสอน
เอิบอาบพรโอภาสเดียรดาษหน
สารัตถะสถิตจิตกานนท์
อิ่มกมลน้อมรับสดับธรรม

ปัญจขันธ์นั่นแล้แท้สุญว่าง
ดุจเรือนร้างวางเว้นเป็นสุขหนำ
มุ่งแดนทิพย์นิพพานพิศาลธรรม
จักน้อมนำกุศลพ้นมายา

บัณฑิตพึงฝึกฝนข่มตนหัด
ยังมนัสภัสสรในไตรสิกขา
ปปัญจธรรมปฏิเวธเจตนา
เปี่ยมศรัทธามิ่งมิตรสิทธาจารย์

ตัตวธรรมล้ำลึกสุดนึกคิด
เที่ยงเป็นนิตย์อิสระกระเษมสานต์
สัพพัญญูรู้แจ้งแทงดวงมาน
ยังสงสารย่อยยับอับปางดล

บำเพ็ญเพียรภาวนาสมาธิ
ละทิฐิอัตตาพามรรคผล
สู่วิวัฏจรัสแสงแห่งกมล
ดังนิโลบลแผ่ปกโบกขรณี

ดูกร ! ตถาคตหมดจดแล้ว
สิ่งพานแผ้วทั้งผองสิ้นหมองศรี
จิตสะอาดปราศทุกข์รุกอินทรีย์
ผลาญไพรีหมู่มารแหลกลาญลง

หยั่งรู้ชัดสัตถาเทวามนุช
แจ้งวิมุตศิวโมกข์ไตรโลกสงค์
โลกธาดาสวรรค์สรรค์เยียรยง
มั่นดำรงอมตะอัประไมย

เหล่าชนเขลาเฝ้าแลแต่พาเหียร
วนว่ายเวียนเสาะหาพาหลงใหล
หาหยั่งรู้ผู้เป็นจ้าวภูวไนย
สถิตในตนมันมิผันแปร

มาตรเกิดตายหลายกัลป์อนันตชาติ
โลกนาถเนานิ่งยิ่งเที่ยงแท้
ไร้รูปลักษณ์ห่อนพิศวิจิตแล
ชำแรกแผ่จักรวาลอภิบาลธรรม์

อุปริสัจตรัสล้วนถ้วนกถา
ภควาพริ้มเนตรก้มเกศหัน
ทรงเข้าณานศานติปริเวกพลัน
เวไนยนั้นอาสวะล้วนละแล........
				
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ