ณ เบื้องปฐมบรมกาลเนิ่นนานนักสุดที่จักนับคณาอสงไขยก่อนทุกสิ่งอุบัติวิวัฒน์ใดเสียงหนึ่งได้ดำรงคงยืนยาวเสียงหนึ่งนี้มีมาแต่คราแรกสิงซึมแทรกทั่วสกลเวหนหาวดุจดนตรีไพเราะเพราะพริ้งพราวยากสืบสาวที่มาหาที่ไปกระแสเสียงเคียงอยู่ผู้เป็นเจ้าสร้างสรรค์เหล่าสรรพสิ่งอิงอาศัยทั้งรูปนามหลากหลายมีกายใจตลอดทุกยุคทุกสมัยได้ธำรงพระสุรเสียงนั่นฤาคือพระเจ้าที่ชนเฝ้าหมายพบสบประสงค์ทุกชนชาติศาสนาศรัทธาองค์พระดำรงคงอยู่อุ้มชูเราธ ทรงให้กำเนิดในเลิศหล้าสร้างโลกาดวงดาวพราวเสลาเทียมธรรมชาตินิรมิตชีวิตเราประหนึ่งเงาฉายาแห่งพระองค์....ป.ล. ถอดความบางตอนจากคัมภีร์ไบเบิ้ลแปลโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่In the beginning was the Word (Sound), and the Word was with God, and the Word was God.Everything was made by this and nothing was not made by this.จักรวาลพอเริ่มต้นก็มีเสียงนี้ Word นั้นหมายถึงเสียง เสียงนี้อยู่กับพระผู้เป็นเจ้า เสียงนี้ก็คือพระผู้เป็นเจ้านั่นเองสรรพสิ่งทั้งปวงในจักรวาลล้วนเกิดจากเสียงนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้เกิดจากเสียงนี้
กฎแห่งเกมนั้นง่ายไม่มายมากโลกคือกากอสุรีบุรีขัณฑ์มีเขตแดนเคียงคู่อยู่ใกล้กันเคยโรมรันต่อสู้อยู่นานมาหากหมายเล่นกับอสูรอาดูรแน่พบเพียงแพ้แน่นักจักผวาชอบบนบานสานกล่าวเรียกเขามามินานช้าจะฉิบหายทำลายตนดั่งเล่นกับอสรพิษเผลอผิดพลาดย่อมพินาศตกตายกลายเกิดผลดีหรือร้ายไม่แจ้งแห่งตัวตนเฉกเช่นคนมีดีชั่วไม่กลัวกรรมมาตรอหังกากำเริบยิ่งเสิบสานเป็นอันธพาลทุศีลหมิ่นถลำเคยบำเพ็ญความดีกลับริยำราวทศเศียรก่อกรรมจนลำเค็ญถึงภูตผีปีศาจอาจเรืองฤทธิ์เทพทศทิศยากแท้ตาแลเห็นจะช่วยเหลือหรือไม่ในลำเค็ญย่อมยังเป็นปริศนาเวลานานแต่สิ่งหนึ่งมีโชคหรือโชคร้ายจะแพ้พ่ายหรือชำนะหาแก่นสารจะร่ำรวยยากจนบนรอยกาลย่อมวายปราณแน่นักจักทำนายเมื่อมีเกิดย่อมมีดับกลับจริงแน่หากไม่เกิดนั่นแลแน่เหลือหลายเพราะความดับก็ไม่มีที่ทำลายควรมุ่งหมายดับการเกิดประเสริฐชน...
ทุกย่างก้าวหนาวร้อนสัญจรทั่วโลกมืดมัวซอกแซกแบกกระเป๋าทั้งไกลใกล้ใต้หล้าทาทาบเงาบนถนนเปลือยเปล่าอันเทาทึมแบกพาใจใส่เป้เพียรเร่ร่อนค่ำก็นอนในราตรีที่เคร่งขรึมสำรวจโลกครึ่งตื่นสะลือสะลึมเสียงพำพึมท่องปรัชญาตำราเรียนแต่ละก้าวดั่งบันไดไต่ดั้นด้นหมายสืบค้นความหมายร่ายขีดเขียนรินหยาดเหงื่อน้ำตาแทนค่าเรียนหมายส่องเทียนในโลกมืดจนชืดชาโลกที่เห็นเป็นตามแต่ความคิดผลผลิตแห่งใจให้กังขาแจ้งแห่งจิตโลกก็ไร้ในมายาแสวงหานอกกายจนสายเกินธรรมชาติแท้ไซร้ไม่เคยเปลี่ยนโลกโล่งเตียนดับดินสินธุ์ตื้นเขินชนตกตายว่ายเวียนใช่บังเอิญทุกก้าวเดินมีเหตุเจตจำนงเพียงกฎเกณฑ์เข้าใจหรือไม่เล่าโลกเพียงเงาใช่แท้แค่ฝุ่นผงท่านสร้างกฎตราไว้ให้ดำรงใช่ลุ่มหลงลักษณาตามืดมนศาสนามาที่หลังการสร้างโลกล้วนอุปโลกน์กันไปให้สับสนเพียงปลอบโยนยามร้าวให้ชาวชนยึดผู้คนด้วยวิถีพิธีการเมื่อจิตรู้มิห่างไกลวิสัยนักไยมิพักสำรวจตรวจสังขารเดินทางสู่มรรคามหายานสิ้นสุดการปุจฉาค้นหาธรรม...
บุราณกาลนานมาจารึกไว้แฝงเร้นนัยอักษรซ่อนอรรถาผู้ส่งสาส์นเผยพจน์รจนาคำศาสดาพยากรณ์ก่อนสิ้นกาลลางบอกเหตุเลศนัยนับได้หกจึ่งสาธกยกพลางอ้างหลักฐานหนึ่งศีลสัตย์ทั้งหลายมลายลาญปรากฏมารปีศาจดาษดาดินเสพสุราฆ่าสัตว์บำบัดท้องผัวเมียต้องแยกทางต่างผายผินปราศสัตย์ซื่อถือไว้ให้ชาชินผู้ใหญ่สิ้นคุณธรรมนำผิดทางสองควันไฟลามโลกวิโยคทั่วฟ้ามืดมัวบังตาพาหม่นหมางว่าไฟป่าโลกร้อนซ่อนอำพรางภูเขาต่างพ่นไฟให้ตะลึงสามสัตว์ร้ายจากนรกพาอกสั่นพรากชีวันมานุษสุดคาดถึงซ่อนในเชื้อโรคร้ายหมายฉุดดึงระบาดครึ่งค่อนโลกพาโศกตรมสี่ครั้นความวุ่นวายมากมายเห็นชนทุกข์เข็ญขาดแคลนแสนขื่นขมภัยพิบัติกระหน่ำซ้ำนิคมค่อยเพาะบ่มความขัดแย้งรุนแรงตามห้าหากถึงซึ่งเหตุการตายหมู่ลางให้รู้โลกาน่าเกรงขามเร่งกลับใจให้ทันมั่นพยายามก่อนรุกลามถึงตนทนโศกาหกสุรีย์ขึ้นทิศประจิมริมขอบโลกย่อมวิโยคดับดินสิ้นสังขาร์มาตรแม่เหล็กกลับขั้วทั่วพสุธาโลกผิดท่าหมุนกลับทาง...ร้างชีวัน...นำมาจาก www.suprememastertv.com (คำทำนายโบราณ)
แมวจอมซนสีดำราวน้ำหมึกค่ำคืนดึกแฝงกายชายตาหาบนกำแพงหมอบนิ่งอิงชายคาจับจ้องตามองทางอันว่างเปล่าบนถนนเปลี่ยวร้างท่ามกลางดึกดูล้ำลึกเลื่อนลอยและหงอยเหงาสุนัขจรมุสิกชาติปราศแม้เงาสิ่งใดเล่าเจ้าคอยในรอยกาลมาตรรอคู่สู่สมกลางลมหนาวคงรวดร้าวเอกาน่าสงสารลมเย็นเยียบยิ่งนักจักแผ้วพานยากใครผ่านพ้นแน่แม้นาทีไฟถนนเลือนรางกลางคืนเปลี่ยวคงโดดเดี่ยวเช่นเจ้าเปล่าวิถีจะเหลียวแลหาใครก็ไม่มียิ่งราตรียิ่งดึกนึกเวทนาแมวราตรีจอมซุ่มแห่งมุมตึกสุดคาดนึกเป็นไปในปริศนาเพียงเคลื่อนไหวไร้รอยน้อยพบพาชั่วพริบตาหายวับกับราตรี...