10 มีนาคม 2550 13:58 น.

หลงบ่วงมาร

คีตากะ

อยู่สงัดวัดใจได้ฟังพระ
วิริยะสะสมบ่มนิสัย
อันหมู่มารราวีกดขี่ใจ
เพียงขัดเกลาเราให้ได้พบธรรม

ธรรมดา  ธรรมดา  นี่หนาโลก !
อุปโลกน์โศกสุขรุกกระหน่ำ
กวัดแกว่งใจให้ไหวเอนเป็นประจำ
พรรณนาพร่ำเพลงลวงบ่วงมายา

หลงเวียนว่ายตายเกิด ประเสริฐแท้ !
ทุกข์ดวงแดแพ้มารประหารฆ่า
ร้อยเลห์กลจนใจไร้สัจจา
เสียเวลามามากลำบากตรม

เนื่องเพราะเจ้าคือเงาข้าพญามาร !
สมัครสมานนานมาพาขื่นขม
เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ร้าวระบม
ข้านิยมในเจ้าจึ่งเฝ้าเวียน......				
9 มีนาคม 2550 14:48 น.

บทกวีไร้อักษร

คีตากะ

จดจารึกผนึกไว้บนใบหน้า
ณ ดวงตาหน้าต่างแห่งปางหลัง
ทิ้งร่องรอยร้อยสู้ยังอยู่ยั้ง
เสมือนดั่งถ้อยคำจำนรรจา

บันทึกความตามจริงสิ่งปรากฏ
เลือดทุกหยดจดจารครั้งฟันฝ่า
มิงดงามดั่งคำจักอักษรา
ถ่ายทอดสื่อภาษามารำพัน

ประทับจิตติดตรึงจนถึงทรวง
สุขทุกข์ล่วงลวงใจเคยใฝ่ฝัน
บทชีวิตเลือนลับนับกัปกัลป์
ใครเสกสรรค์บรรยายได้แจ้งจริง

รจนากวีที่ไร้อักษร
หลากบทตอนย้อนดูรู้สรรพสิ่ง
ไร้ภาษาวาทะบอกอันกลอกกลิ้ง
วางทุกสิ่งจึ่งพบปะยอดกวี....
				
8 มีนาคม 2550 16:43 น.

เป็นเช่นนั้นเอง

คีตากะ

หลบหนีหายเร้นกายไกลสังคม
ใจนุ่งห่มสันโดษลดความอยาก
ทิ้งโลกีย์วุ่นวายหัวใจนัก
มาพำนักพักใจใต้ใบบัง

ทิ้งสมมุติเพื่อวิมุตจิตหลุดพ้น
ละตัวตนบุคคลตนสรรค์สร้าง
หันหน้าหาพระธรรมคำสอนสั่ง
รักและชังปล่อยวางทุกอย่างลง

ไม่เหลือใครคนไหนใจเป็นทุกข์
ปราศจากสุขอันใดให้ลุ่มหลง
ความสงบพบได้ด้วยใจปลง
กวาดฝุ่นผงในดวงใจให้เบาบาง

ปลีกวิเวกลำพังนั่งครวญใคร่
แท้จริงใจนั้นไซร้ใสกระจ่าง
เพราะอวิชชาพาใจให้หลงทาง
ทุกสิ่งอย่างคงเป็นเช่นนั้นเอง...  
comment หน่อยครับเพื่อนๆ ขอบคุณครับ				
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ