14 กรกฎาคม 2550 17:38 น.
คีตากะ
ปราศสิ่งใดให้บรรลุเพื่อรู้แจ้ง
ใจแยกแบ่งแข่งขันพลันสลาย
ท่องโลกเปลี่ยวโดดเดี่ยวเพียงเดียวดาย
จุดมุ่งหมายในชีวิตถูกลืมเลือน
เมื่อมิทราบสิ่งใดย่อมไม่ทราบ
แม้นทาฉาบอาบทองยังหมองเหมือน
ย่อมไร้คำจำนรรจ์จะพร่ำเตือน
เพียงคนเถื่อนแปลกหน้าต่อใจตน
เปี่ยมยศถาบรรดาศักดิ์สักเพียงไหน
ถึงเป็นใหญ่ในแคว้นทุกแห่งหน
แค่จำอวดอาจอ้างว่างเปล่าชน
หาเหตุผลกลเลห์เพทุบาย
แต่ทว่าชนที่ใจมีพุทธ
มิเพียงพูดกล่าวคำจำนรรจ์หลาย
ยังหาญกล้าโยกฟ้าสั่นดินทลาย
มัจจุราชอาจร้ายยังพ่ายยอม...
12 กรกฎาคม 2550 17:23 น.
คีตากะ
นั่งซึมเซาเฝ้ามองดอกตะแบก
คราฝนแทรกแรกแย้มแซมใบเขียว
สีม่วงอ่อนร่อนร่วงพวงซีดเซียว
ก่อนแห้งเหี่ยวภายใต้แสงตะวัน
ลำต้นใหญ่แผ่ใบขยายกิ่ง
เคยพึ่งพิงอิงอุ่นเจือจุนฉัน
ยามปัญหาถาโถมรุกโรมรัน
ชื่อเจ้านั้นเตือนฉันหมั่นปล่อยวาง
แบกสิ่งใดในเหตุสังเกตผล
จิตทุกข์ทนจนล้าพาหมองหมาง
เหนื่อยเพราะใจไปยึดทุกเส้นทาง
บ้าหอบฟางอย่างนั้นหมายมั่นทำ
จมจ่อมอยู่กับปัญหาสารพัน
ลืมจิตอันผ่องใสไกลถลำ
เคร่งเครียดไยในฝันอันมืดดำ
ทุกเช้าค่ำซ้ำซากมิพรากเลือน.....
19 มิถุนายน 2550 18:47 น.
คีตากะ
ฉันเลือกทางร้างเปลี่ยวโดดเดี่ยวเหลือ
หมอกคลุมเคลือเยื้อย่างกลางหุบเขา
มีหนามไหน่มายมากขวางขวากเท้า
ทางทึมเทาเปล่าร้างกลางอรัญ
เธอเลือกทางกลางเมืองอันเรืองรุ่ง
หอมจรุงฟุ้งเฟ้อละเมอฝัน
ชนเหิมเห่อเพ้อคลั่งอยู่ทั้งวัน
ต่างประชันขันแข่งสุดแรงรั้ง
ฉันเดินทางกลางดงพฤกษ์พงป่า
ถึงเหว่ว้าชาชินมิสิ้นหวัง
แม้นกันดารหาญสู้ดันทุรัง
ราวบ้าคลั่งยังมุ่งกลางทุ่งธาร
เธอเดินทางต่างไปวิไลแสน
ไม่ขาดแคลนแสนสบายหลายสถาน
แต่ปลายทางต่างพบประสบพาน
ด้วยสายธารล้วนสานร่วมเข้ารวมกัน...
6 มิถุนายน 2550 16:36 น.
คีตากะ
สังคมป่วยด้วยใจเป็นไข้หนัก
เกินที่จักรักษาเยียวยาหาย
หลงความสุขทุกข์ก่อรอสบาย
จิตวุ่นวายไร้สิ่งพึ่งพิงใจ
กิริยาดีวจีเพาะจิตเลาะร้าย
คอยทำลายหมายปองจ้องผลักไส
แข่งชิงดีชิงเด่นจนเป็นภัย
เหตุหัวใจไม่พบสงบจริง
บ้างด่าทอต่อว่าอารีหาย
จิตหยาบคายคล้ายมีภูตผีสิง
บางเฉยชาช้าเฉื่อยล้าเหนือยจริง
บ้างไล่วิ่งสิ่งใดไม่รู้ตน
บ้างฉลาดปราดเปรื่องทุกเรื่องหล้า
แต่ธรรมาฆ่าสิ้นกังฉินฉล
บางเปี่ยมธรรมล้ำลึกสำนึกตน
แต่อับจนหม่นใจไร้ปัญญา....
6 มิถุนายน 2550 16:18 น.
คีตากะ
ทางไร้ทางร้างคนดั้นด้นถึง
เหนือคำนึงจึงปราศขาดถิ่นฐาน
ว่างจากตนพ้นทางหยั่งประมาณ
เกินคาดการณ์ฝันใฝ่จากใจคน
เหนือโลกหล้าหาไกลจากใจจิต
สุดเพ่งพิศทิศไหนไร้แห่งหน
จะว่าใกล้ไม่ไกลจากใจคน
จะว่าไกลไกลจนกว่าค้นเจอ
แหล่งกำเนิดเกิดถิ่นแห่งวิญญาณ
เป็นสถานบ้านเดิมก่อเริ่มเสนอ
สรรพชีวามาเกิดสุดเลิศเลอ
ชนมองเหม่อเพ้อหาทุกครากาล
ค้นหาไปไม่สิ้นสุดยั้งหยุดลง
เจตจำนงคงมั่นเพื่อฝันสาน
ได้สิ่งใดไม่พอต่อวิญญาณ
ด้วยต้องการพานพบสบตัวจริง.....