28 กรกฎาคม 2550 15:27 น.
คีตากะ
รัตติกาลยาวนานได้ผ่านพ้น
น้ำค้างหล่นพร่างพรายใกล้รุ่งสาง
แสงขอบฟ้ามาเยือนเริ่มเลือนราง
ควันเบาบางพลางลอยอ้อยอิ่งไกล
บัวชมพูชูช่อรอแสงส่อง
ณ ลำคลองหนองบึงซึ่งน้ำใส
หยาดน้ำค้างพร่างพรมสะสมใบ
ยามลมไหวใบส่ายกลิ้งไปมา
มองความจริงน้ำกลิ้งบนใบบัว
มิเกลือกกลั้วแปดเปื้อนใบให้กังขา
เหมือนกิเลสก่อทุกข์รุกอุรา
ไม่ซึมซับรับมาย่อมผาเย็น
เคล้าโลกีย์ด้วยใจที่มิหวั่นไหว
เพลินหลงใหลในโลกสุขโศกเห็น
ลับปัญญาให้กล้าคมทางร่มเย็น
ไม่ยอมเป็นเช่นทาสประกาศไท....
28 กรกฎาคม 2550 14:26 น.
คีตากะ
จิตคือจิต อารมณ์คืออารมณ์
หากผสมอารมณ์จิตย่อมมิดหมอง
หลงรักใคร่ใฝ่ฝันเกินครรลอง
ยังจิตเขลาเศร้าครองคว้าปองเงา
ธาตุดินน้ำลมไฟก่อกายสร้าง
หลงเรือนร่างลางเลือนเหมือนว่างเปล่า
จะงดงามอัปลักษณ์ทึกทักเอา
ท้ายถูกเผาเป็นเถ้าถ่านกาลเวลา
ใจคือขัณฑ์อันมีรูป ความรู้สึก
ความคิดนึก ความจำ ความรู้สา
สร้างตัวตน บุคคล บนมายา
แรงปรารถนาพาไปไม่รู้ตน
แท้กายใจไม่เที่ยงเยี่ยงความฝัน
ต้องมีอันผันแปรแน่นอนผล
เฉกไม้กล้วยไร้แก่นแม่นมั่นคน
หาทานทนถาวรแออ่อนเอน.....
26 กรกฎาคม 2550 17:13 น.
คีตากะ
เท่านี้หรือ ! ชีวิตลิขิตเขียน
คล้ายเปลวเทียนเจิดจ้าแล้วสลาย
มอดไหม้ทั่วจรดหัวตัวมลาย
ไยง่ายดายเช่นนี้ชีวีเอย
เท่านี้หรือ ! หน้าที่วิถีชน
ต้องดิ้นรนจนตายเปล่าดายเอ๋ย
สืบทอดพงษ์ดำรงเผ่าเช่นเก่าเคย
มิเหลือไว้ใดเลยโธ่เอ๋ยคน
เท่านี้หรือ ! มนุษย์สุดประเสริฐ
ผู้เป็นเลิศเหนือสัตว์ดูขัดสน
สิ้นปัญญาป่าเถื่อนเลือนกมล
วิ่งเวียนวนบนทางสร้างเวรกรรม
เท่านี้หรือ ! พงษ์เผ่าจ้าวสรรพสิ่ง
ผู้ใหญ่ยิ่งนิ่งนิจคิดน่าขำ
ทิ้งสวรรค์หันเกลือกกลั้วสิ่งมัวดำ
เพิกเฉยทำย่ำเหยียดรังเกียจตน....
26 กรกฎาคม 2550 14:25 น.
คีตากะ
ท่านคือบิดามารดาและอาจารย์
ผู้สืบสานพุทธกิจอุทิศถวาย
อวตารสู่โลกแหล่งเปลี่ยนแปลงกาย
เพียงมุ่งหมายถ่ายขนสัตว์พ้นภัย
ท่านคือผู้ละเลยหลงลืมตน
ยอมทุกข์ทนวนว่ายมิไปไหน
เพื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขทุกชาติไป
โปรดสัตว์ให้ไปสู่แดนพุทธา
ท่านคือแสงสว่างนำทางสัตว์
ผู้ถูกมัดรัดรึงคะนึงหา
เพื่อปลดปล่อยผองสัตว์ตัดมายา
ด้วยเมตตาหาเทียบใครเปรียบปาน
ท่านคือรักยากนักจักวัดหยั่ง
ทิ้งเวียงวังเวียนว่ายในสงสาร
เพื่อช่วยเหลือเกื้อสัตว์ตัดนิพพาน
ยังหมู่มารหาญกล้าให้ปราชัย...
18 กรกฎาคม 2550 15:07 น.
คีตากะ
เมื่อเงินบาท ขาดตลาด บาทจึงแข็ง
ค่าเงินแกว่ง แคลงคลาง พลางสงสัย
คนต่างชาติ กวาดซื้อ เก็บถือไว้
หรือคนใน ไม่ใช้จ่าย เงินหายทำ
ส่งออกแย่ ลอยแพคน ชอบกลนัก
หนี้แสนหนัก ซักไซ้ ไม่พูดพร่ำ
มีเลศนัย ให้คิด ปกปิดคำ
ของเกรดต่ำ ขายแพงกว่า เขาว่ากัน
อัตตาแลก ขาดทุน จึงวุ่นหนัก
บางคนทัก ต้องรักษา ค่าเงินผัน
นำเข้าของ สำรองทุน ตุนน้ำมัน
นอกจากนั้น หมั่นปล่อยกู้ ผู้ลงทุน
ถึงบางอ้อ พอมีหนี้ เงินหนีหาย
ล้มละลาย จ่ายดอก ช้ำชอกหนุน
แปลงสินทรัพย์ ลับหาย ไม่เหลือทุน
เป็นหนี้สูญ สุญญตา แปลว่ากลวง.....
*** หนี้สูญ : สินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)