1 สิงหาคม 2558 00:44 น.
คีตากะ
มีเพียงรัก...ก็พอไม่ขอมาก
เพียงลมปากฝากคำย้ำคิดถึง
แค่หัวใจมีให้กันหมั่นคำนึง
ใจคงซึ้งมากมายหายเหงาทรวง
มีเพียงรัก...ก็มากพอเติมต่อฝัน
พร้อมฝ่าฟันผองภัยแม้ใหญ่หลวง
อุปสรรคหนักหนาหาหวั่นทรวง
คงพ้นล่วงผ่านไปได้ด้วยดี
มีเพียงรัก...ก็เกินพอไม่ท้อถอย
เป็นแรงคอยผลักดันมิหันหนี
แม้ปัญหาหนาหนักสักกี่ที
คงจรลีลับลาพามลาย
มีเพียงรัก...ก็เพียงพอต่อวิถี
สร้างสิ่งดีสถิตไว้ไม่สูญหาย
หลอมรวมโลกปกป้องคุ้มครองกาย
สิ่งเลวร้ายผันผ่านสิ้นพาลภัย
มีเพียงรัก...ก็จะพอต่อต้านทุกข์
คืนผาสุกอีกคราเกินหาไหน
จุดประกายพรายแสงแห่งเปลวไฟ
ด้วย รักไร้เงื่อนไข เถิดเลิศโลกา.....
12 เมษายน 2556 21:20 น.
คีตากะ
ฉันเป็นใครไม่สำคัญวันก่อนเก่า
อาจโง่เขลาฤาฉลาดเติมวาดฝัน
จะสำเร็จล้มเหลวเลวครบครัน
แต่เพียงฉันสรรค์สร้างเลือกทางเดิน
ฉันเป็นใคร...ไม่สำคัญตราบวันนี้
ชื่อเสียงดีฤาไร้ใครสรรเสริญ
แต่จุดหมายปลายทางพลางก้าวเดิน
พร้อมเผชิญผลลัพธ์ยอมรับมัน
ฉันเป็นใคร...ไม่สำคัญกี่วันผ่าน
แม้สังขารเหนื่อยล้าตามหาฝัน
ยังมีเธอเพ้อถึงซึ้งทุกวัน
คงรักมั่นเพียงเธอเสมอไป
ฉันเป็นใคร...ไม่สำคัญวันข้างหน้า
จะโสภาฤาน่ากลัวมัวเพียงไหน
โลกจะร้างทางจะขาดปราศแสงไฟ
ขอแลกใจวางชีวิตคิดเดิมพัน
ฉันเป็นใคร...ไม่สำคัญแม้วันไหน
รับรู้เธอเป็นใครไม่เย้ยหยัน
เพราะเธอสร้างทางทั้งหลายหมายยืนยัน
ตัวเธอนั้นเป็นใครแจ้งใจเธอ
ฉันเป็นใคร...ไม่สำคัญวันลาจาก
ทิ้งเศษซากตัวตนสับสนเสมอ
วางมายาพาใจไหวละเมอ
จะรักเธอเท่าเธอรักตระหนักทรวง
ฉันเป็นใคร...ไม่สำคัญถึงวันนั้น
คราเธอฉันระลึกได้สิ่งใหญ่หลวง
ความเป็นหนึ่งซึ้งซาบอาบท้นทรวง
หลุดพ้นบ่วงเกมสร้างทางจินตนา
ฉันเป็นใคร...ไม่สำคัญในวันหนึ่ง
เธอผู้ซึ่งเป็นที่รักกันหนักหนา
จะแจ่มแจ้งแสงสว่างกลางวิญญาณ์
หยั่งรู้ว่า ทุกสิ่งอย่างเธอสร้างเอง
17 เมษายน 2551 01:22 น.
คีตากะ
หากคำ รัก จักทำเธอพร่ำเพ้อ
ฝันละเมอเพ้อครวญชวนหวั่นไหว
ยังเธอสุขทุกข์จางเบาบางไป
จะขานไขคำรักสักล้านคำ
หากดวงจิตคิดถึงซึ้งเป็นนิจ
สัมผัสจิตตรึงใจในงามขำ
ยังเธอปลื้มลืมเศร้าร้าวระกำ
จะเก็บงำ ความคิดถึง เพียงหนึ่งเธอ
หาก อ้อมแขน แสนว่างเปล่าเฝ้าโอบกอด
คราวพร่ำพลอดสองใจให้เสนอ
ยังเธอกรุ่นอุ่นไอรักมักละเมอ
จะกอดเธอเอาไว้ไม่ปล่อยวาง
หาก รอยจูบ ลูบไล้บนใบหน้า
พากานดาสุขล้นพ้นหมองหมาง
ยังความเหงาเก่าก่อนผ่อนเลือนราง
จะจูบนางเยี่ยงนี้ไม่มีไกล
หาก รสรัก สลักจิตสนิทแนบ
คราอิงแอบผูกพันวันเผลอไผล
ยังเธอชื่นคืนผ่านสราญใจ
จะเคียงใกล้ชั่วฟ้าดินตราบสิ้นลม....
8 เมษายน 2551 01:48 น.
คีตากะ
ใครกันเล่า? จะเข้าใจในตัวท่าน
ผู้สืบสานสายธรรมล้ำสมัย
เมื่อจารีตขีดเส้นบีบเค้นใจ
ยึดถือในสิ่งเก่าเบาปัญญา
ใครกันหนา? กล้าเผชิญเดินตามท่าน
เมื่อเถ้าถ่านซากธรรมพร่ำมุสา
หลงยึดติดลิขิตคำตามตำรา
เห็นผิดว่าชอบธรรมยอมจำนน
ใครกันหนอ? พอจะแจ้งทางแห่งสัจ
ปล่อยสิ่งมัดผูกใจให้สับสน
ทิ้งวัตถุบรรลุจิตพิชิตตน
เลิกเวียนวนแหวกว่ายแพ้พ่ายมาร
ใครกันเอ่ย? เผยใจอันใสซื่อ
ปล่อยวางชื่อลาภยศปลดสงสาร
ยอมฝ่าฟันปัญหากล้านิพพาน
ตามรอยท่านผู้รู้พหูสูตชน
ใครกันแจ้ง? แสงสว่างกลางดวงจิต
ปราศความคิดเคยชินสิ้นสับสน
เชื่อคำท่านหาญสู้สู่หลุดพ้น
ชนะตนเองได้ไร้อัตตา
ใครกันจัก?รักใครเหมือนใจท่าน
คอยเจือจานผองชนคนอนาถา
คนทุกข์ทนคนเศร้าเฝ้าเมตตา
เฉกมารดารักบุตรสุดห่วงใย
ใครกันท่าน? ผ่านบททดสอบจิต
อาจพิชิตสามโลกสิ้นโศกไหว
ดับสิ้นทุกข์สุขสราญเบิกบานใจ
ตื่นขึ้นได้จากฝันนิรันดร.....
1 สิงหาคม 2558 00:46 น.
คีตากะ
รุ่งอรุณกรุ่นกลิ่นถวิลหา
หอมลีลาวดีกลีบสีขาว
ปลูกหน้าบ้านบานออกดอกพรายพราว
มองทุกคราวคิดถึงหนึ่งคนไกล
ดวงจิตที่บริสุทธิ์ดุจสีขาว
มีเธอก้าวเข้ามาพาหวั่นไหว
เติมสีสันวันเหงาเศร้าจางไป
แต้มสีใจด้วยเหลืองอ่อนซ้อนตรงกลาง
แทนดวงใจใฝ่คำนึงถึงเสมอ
เพราะมีเธอในใจไม่เคยห่าง
เพียงคิดถึงจึงเหม่อเพ้อครวญคราง
ยากปล่อยวางความรักสลักทรวง
เห็นลีลาวดีสีสวยใส
เผลอปล่อยใจคะนึงซึ้งห่วงหวง
แต่เพียงเธอเอ่อล้นท้นในทรวง
ด้วยทุกห้วงดวงใจนี้มีแต่เธอ....