12 เมษายน 2556 21:48 น.
คีตากะ
เส้นผมเส้นเดียว
มีผลบุญจำนวนเท่าภูเขาหลายลูก !
เล็บเท้าเพียงเล็บเดียว
ส่องสว่างได้ทั่วทั้งโลก !
ผู้สืบต่อจากท่าน
เปลี่ยนจุดหมายแนวทางของทั้งห้าทวีป
พระพรของท่าน
โอบล้อมโลกต่างๆจำนวนนับไม่ถ้วน
การมาถึงของท่าน
คือสิ่งที่ฉันรอคอยมานาน
ดวงตาแห่งมหาสมุทร
ลึกซึ้งด้วยความรักและความกรุณา
แสงของท่าน
สูงส่งและพิเศษเหนือธรรมดา
นำทางเหล่าวิญญาณที่หลงทาง
กลับไปสู่ถิ่นเดิม
จักรวาลทั้งมวล
โห่ร้องเสียงดัง ฮูรา !
ฉันคุกเข่าลง
หัวใจของฉันพูดไม่ออก
ดวงตาของโลกนี้ไม่สามารถจดจำ
ความงามอันพึงเคารพของท่าน
หัวใจของปุถุชนไม่รู้ถึง
ความยิ่งใหญ่อันไม่อาจเปรียบเปรยของท่าน
ทำไมจึงเป็นตัวฉัน
ซึ่งได้รับพระพรถึงเพียงนี้
ในขณะทั้งสวรรค์และโลก
ยังหลงทางและครึ่งหลับครึ่งตื่น ?
การบำเพ็ญกี่พันปีกันหนอ
ที่ทำให้มาถึงวันแบบนี้
ที่ได้อยู่เคียงใกล้ท่าน
เสมือนดั่งต้นปาล์มอันเขียวขจี
ที่ให้ร่มเงาแก่ทะเลทราย
ท่านผู้ปกป้องวิญญาณของเรา
ด้วยพลังที่มิอาจทัดทาน
อัญมณีและมุก
ในจักรวาลทั้งมวลนี้
ไม่อาจเปรียบได้กับ
เม็ดฝุ่นเพียงเม็ดเดียว
บนเท้าอันศักดิ์สิทธิ์ของท่าน
ด้วยน้ำตา ฉันรู้สึกสงสารโลกใบนี้อยู่เงียบๆ
กำลังมุ่งหน้าสู่
ถนนแห่งความโศกเศร้าเช่นนี้
แม้ท่านจะมาแล้ว
แต่พวกเขาก็ไม่รู้ ไม่ได้ยิน
เรือนร่างอันมีค่าของพวกเขา
ทรมานอยู่ในความทุกข์ยากลำบากเหลือคณา
ฉันอยากจะปั้น
ก้อนเมฆที่สูงอยู่บนท้องฟ้า
อยากจะเรียกชื่อของท่านด้วยความลิงโลด
แม้จะอยู่ท่ามกลางลมและเมฆ
อยากจะสลักชื่อของท่าน
ไว้บนดวงดาวยามรุ่งอรุณทุกดวง
อยากจะเรียกขานโลกนี้
ให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับดวงตะวัน
จงมาและฟัง
คำพูดของนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์
จงมาและแบ่งปัน
ความเบิกบานยินดี
จงมาและต้อนรับ
แสงแห่งสวรรค์และกระแสเสียงอันมีค่า
วันเวลาซึ่ง
ทั่วทั้งจักรวาลร้องเพลงด้วยความสุข
เพื่อรอรับสิ่งเดียวเท่านั้น
วันเวลาซึ่ง
มหาอาจารย์ , ความรักอันทรงพลานุภาพ
มอบจักรวาลนั้นคืนมา
ให้แก่พวกเราทุกคน !
12 เมษายน 2556 21:49 น.
คีตากะ
เสียง เคล้ง ! เคล้ง ! กระทะกับตะหลิว
ลอยล่องปลิวตามแรงแห่งสังขาร
หนุ่มพ่อครัวหัวหมุนวุ่นกับงาน
ทำอาหารจารด่วนชวนลิ้มลอง
ลูกค้ารอต่อคิวตะหลิวเร่ง
ขับบรรเลงเพลงครัวรัวสนอง
ทำด้วยใจใส่รักถักทำนอง
หากช้าต้องขออภัยมือใหม่มา
ก่อนทำงานโรงงานมานานเนิ่น
เข้าให้เงินเดือนสูงจูงใจหนา
ใช้งานคุ้มเงินจ้างพลางระอา
จำหนีหน้าเข้าครัวรัวละเลง
อาหารรสโอชาภาษาผัก
น้อยคนจักเข้าใจไม่ข่มเหง
กำไรน้อยด้อยค่าหาหวั่นเกรง
แม้วังเวงเงียบเหงาเราสู้ทน
ปรุงด้วยผักรักษาสุขภาพ
มหากาพย์แห่งครัวหัวถนน
เว้นเนื้อสัตว์ตัดคาวเอาปะปน
ก้าวเดินบนอหิงสาตามอาจารย์
หนุ่มหน้ามนคนครัวมัววายวุ่น
ขอบพระคุณผู้มาชิมอาหาร
ที่เกื้อหนุนจุนเจือเอื้อมานาน
ร้านเราพานอยู่ได้ไม่ร้างลา
ข้าวปั้นกะสลัดมะละกอ
อร่อยคอสุดยอดปลอดมังสา
มีบริการท่านครบรสโอชา
อาหารป่าอาหารบ้านร้านเรามี
รณรงค์ลดโลกร้อนวอนท่านช่วย
อุดหนุนด้วยอย่าเมินทำเดินหนี
ทั้งสาวแก่แม่ม้ายพรายโสภี
ดรุณีแรกแย้มเราแถมฟรี
อุตสาหกรรมทำเนื้อเถือชีวิต
เขารวยติดอันดับนับเศรษฐี
มีคนกินจึงมีฆ่าพร่าชีวี
ฟาร์มมากมีล้นหลามเกิดตามมา
ปล่อยก๊าซพิษจากฟาร์มลามทั่วโลก
เกิดวิโยคโลกร้อนนอนผวา
อากาศปรวนรวนหนักประจักษ์ตา
ทะเลบ้าเดือดดาลผลาญชีวันฯ
1 เมษายน 2553 17:39 น.
คีตากะ
ลิงตัวน้อยไวว่องท่องเที่ยวทั่ว
พลาดเผลอตัวติดแหแผ่นอนหงาย
มันตกใจไหวหวั่นผลุนผลันกาย
วิ่งวุ่นวายหมายสลัดแก้มัดตัว
เกลือกกลิ้งกายกับพื้นทั้งยืนนั่ง
ร่างแหยังรัดแน่นแสนปวดหัว
มันยิ่งแก้แต่ยิงยุ่งยิ่งพันพัว
เกิดความกลัวกลัดหนองครองอุรา
เฉกเช่นชนทิ้งมรรครักสงบ
อันสยบความอยากจากใจหนา
ย่อมหลงใหลในวัตถุลุมายา
ก่อปัญหามากท้นล้นเรื่องราว
หลงลืมมรรคจักเชิดชูคุณธรรม
เมตตาธรรมสูงสุดดุจเหินหาว
ลืมหลักธรรมล้ำเลิศประเสริฐพราว
หลงเรื่องราวความประพฤติยึดจรรยา
จริยธรรมถูกทิ้งยิ่งต่ำตก
เชิดชูยกนิติธรรมล้ำหนักหนา
มากกฎเกณท์หลักการผลาญวิญญาณ์
ทั่วแหล่งหล้าว้าวุ่นชุลมุน
วางตีกรอบขอบเขตเหตุสับสน
ปัญหาวนที่เก่าเฝ้าหัวหมุน
ดุจนั่งแก้แหพันอันงงงุน
ยิ่งเคืองขุ่นคับข้องหมองฤดีฯ
12 เมษายน 2556 21:51 น.
คีตากะ
คนแถวนี้เรียกพี่...หนุ่มบีเอ็ม
มาดคมเข้มเกินใครไม่เหลียวหลัง
เดินคอเอียงเยี่ยงนี้มีชื่อดัง
พระเอกหนังยังหลบเมื่อพบเจอ
รถคันนี้พี่ได้ฟรีจากพี่สาว
เหนื่อยทุกคราวยามปั่นยันเท้าเผลอ
เข้าซี่ลวดปวดร้าวหนาวละเมอ
จับไข้เพ้อหลายวันสั่นสะท้าน
ถนนนี้พี่ครองใครต้องหลบ
บ่อยครั้งพบสิบล้อรอประสาน
ล้มคอเคล็ดหลายหนจนซมซาน
พี่เลยพานคอเอียงยามเมียงมอง
วันก่อนหมาตัดหน้าพาหักหลบ
จนได้พบโฉมตรูอยู่ริมหนอง
พี่ไม่ทันตั้งตัวมัวแต่มอง
เฉี่ยวชนน้องเอวคดโปรดอภัย
พี่ตกคลองน้องตกน้ำทำเรื่องเศร้า
เมื่อสองเราว่ายมิเป็นเห็นไหวไหว
ยังโชคดีมีคนช่วยด้วยว่องไว
บุพเพให้ได้พบกันวันผ่านมา
พี่ประหยัดพลังงานต้านโรคร้อน
ยอมเหนื่อยอ่อนขี่บีเอ็มเต็มใจหนา
วอนคนดีนี้อำนวยช่วยสักครา
มาเถิดมา...ขี่บีเอ็มเต็มแผ่นดิน.....