13 สิงหาคม 2558 23:22 น.
คีตากะ
ฉันเป็นเพียงอิฐก้อนแรก
ยินยอมแบกก้อนอื่นอีกหมื่นแสน
ยามเธอสร้างวางต่อก่อทดแทน
สร้างดินแดนตัวตนพ้นโลกีย์
ฉันเป็นเพียงก้าวที่หนึ่ง
นำเธอซึ่งก้าวไปในวิถี
บนเส้นทางว่างเปล่าเฝ้ายินดี
หวังเธอนี้ไปถึงซึ่งหลักชัย
ฉันเป็นเพียงความคิดแรก
อันผ่านแทรกดวงจิตพิสมัย
หมายย้ำเตือนตัวตนบนทางไกล
ให้จดจำความยิ่งใหญ่ในตัวเธอ
ฉันเป็นเพียงคำเริ่มต้น
แห่งสากลนานเนาเฝ้าเสนอ
ถ้อยคำย้ำซ้ำซ้ำย้ำใจเธอ
พร่ำละเมอคำรักอักษรา
12 เมษายน 2556 21:34 น.
คีตากะ
มหาภัยประจิมทิศมาผิดแผก
กระสุนแหวกอากาศวินาศแสน
ตกแถบบ้านย่านเรือนกลาดเกลื่อนแดน
ชนต่างแคว้นหนีตายกรูกรายมา
เดินซัดเซวเนจรจำร่อนเร่
แขนต่างเปลอุ้มลูกไร้ฟูกฝา
มือเปล่าว่างร้างสิ้นรินน้ำตา
มุ่งสู่ทิศบูรพาหาเพื่อนพ้อง
พสุธาลุกเป็นไฟไร้สันติ
คู่อริรุกรบพบความหมอง
เหตุกรรมเก่าเรานี้มีก่ายกอง
จึงจำต้องพลัดถิ่นสิ้นเรือนชาน
เขาเรียกคำ “ตำบลกระสุนตก”
ต่างระหกระเหินเดินโดยสาร
ตายดาบหน้าพาร่างห่างเรือนชาน
ก่อนวิญญาณหลุดลอยพลอยลาไกล
หมายมิ่งมิตรอารีที่หลบร้อน
เพียงพักผ่อนสักคราอย่าผลักไส
สงครามรบสงบลงคงกลับไป
อย่าขับไล่ยามร้ายคล้ายดูแคลน
มนุษยธรรมนำพาชาติ
พ้นพินาศไพรีมีสุขแสน
สร้างกุศลผลบุญหนุนทดแทน
หากมาตรแม้นเราบ้างทางปลอดภัย
12 เมษายน 2556 21:34 น.
คีตากะ
แลเสาคู่ประตูโบสถ์ประโยชน์ล้ำ
หน้าที่ทำยากนักใครจักเห็น
ยืนตากฟ้าตากฝนทนลำเค็ญ
แม้ร้อนเย็นเพียงใดไม่นำพา
ขอให้รักเรานั้นอันแน่นหนัก
ดุจเสาหลักคู่นั้นมั่นรักษา
ยกคานไว้ให้ชนดั้นด้นมา
แสวงหาธรรมะละโพยภัย
ถึงพายุลมแรงอาจแกว่งพัด
แดดร้อนจัดบางคราวหนาวเพียงไหน
ยังสยบสงบนิ่งเหนือสิ่งใด
มิเอนไหวเขลาขลาดฤาหวาดหวั่น
ยั้งยืนอยู่คู่ข้างไม่ห่างเหิน
มิไกลเกินใกล้ไปในเธอฉัน
เหลือช่องว่างระหว่างเราเข้าใจกัน
ความผูกพันธ์ผ่อนคลายสบายเบา
ช่วยประคับประคองสองชีวิต
ยกดวงจิตวิญญาณรานอับเฉา
พ้นแดนทุกข์สุขีชีวีเรา
หยุดความเขลาว่ายวนบนห้วงกาล
12 เมษายน 2556 21:35 น.
คีตากะ
ปีพยัคฆ์นักษัตรกัดไม่ปล่อย
แฝงเขี้ยวคอยขย้ำซ้ำเจ็บแสน
“เอลนีโญ” ครึ่งปีมีทั่วแดน
น้ำขาดแคลนแล้งจัดสาหัสมา
น้ำไม่ถึงครึ่งเขื่อนเหมือนล่องหน
ยังผองชนขัดแย้งปัดแข้งขา
ทั้งการบ้านการเมืองเรื่องประชา
จ้องเข่นฆ่าราวีทุกวี่วัน
ครึ่งปีหลังหวังฟื้นลุกยืนบ้าง
ต้องฝันค้างฝนฟ้ามาแปรผัน
ข้าวกำลังตั้งท้องต้องจาบัลย์
น้ำท่วมพลันเสียหายใต้สายธาร
“ลานีญา” มาแรงแฝงภัยร้าย
ฝนเทไม่ขาดสายกลายผสาน
เขื่อนน้ำน้อยคอยกักรักษาธาร
เพื่อเจือจารการเกษตรเหตุเภทภัย
อีกน้ำป่ามาหลากยากคาดคิด
เมืองอยู่ติดภูเขาน้ำเข้าไหล
น้ำเต็มเขื่อนเหมือนซ้ำจำปล่อยไป
อุทกภัยมาถึงซึ่งชายคา
ขณะชนทนทุกข์ต่างปลุกปลอบ
น้ำใจหอบข้าวของปรองดองหา
บรรเทาเคราะห์เพราะกรรมเคยทำมา
ช่วยเยียวยากันนั้น โปรดหันมอง !
โน่น ! มังกรสองตัวบินทั่วฟ้า
ร่อนถลาด้วยฤทธิ์จิตพยอง
มันสู้กันพัลวันมั่นลำพอง
หมายครอบครองเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
มาตรตัวหนึ่งสีดำนั้นชำนะ
ความมืดจะครอบคลุมสุมทั่วถิ่น
แปดในสิบชนล้มจมธรณิน
ยังแผ่นดินลุกเป็นไฟประลัยกัลป์
หากอีกตัวสีขาวก้าวเป็นใหญ่
โลกพิไลสุดแสนแดนสุขสันต์
สองในสิบส่วนหนึ่งถึงชีวัน
โลกจากนั้นเข้ายุคทองครองเปรมปรีดิ์
12 เมษายน 2556 21:36 น.
คีตากะ
เจ้าสุนัขเจ้าเล่ห์เฝ้าเคหะ
ท่านผู้ละวางโลกสิ้นโศกศัลย์
วันหนึ่งจรจาริกปลีกชีวัน
สู่เมืองอันเป็นทิพย์ไกลลิบตา
เจ้าสุนัขแสนรู้เดินอยู่หลัง
คอยระวังเภทภัยให้รักษา
ระหว่างทางพบกระดูกถูกทิ้งมา
ชิ้นโตกว่าคราวใดใจเปรมปรีดิ์
มันเร่งรีบขุดหลุมจนลุ่มลึก
ใต้โพธิ์พฤกษ์ต้นใหญ่ใจสุขี
คาบกระดูกฝังกลบสบฤดี
จดจำที่ตำแหน่งจนแจ้งใจ
มันติดตามนักบุญพลางครุ่นคิด
มุ่งหมายจิตแทะกินสิ้นสงสัย
รอวันกลับนับกาลผ่านเลยไป
แต่หาใครได้กลับต่างลับเลย.....
มันติดตามนักบุญพลางครุ่นคิด
มุ่งหมายจิตแทะกินสิ้นสงสัย
ยามหวนมาคราหน้าพาสุขใจ
มันจะได้กินหรือเปล่าวันเฝ้ารอ ?
เจ้าสุนัขจอมฉลาดเจ้าเพียรพยายามสะสมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อวันพรุ่งนี้
แต่จะมีใครบ้างที่จะรู้ว่าเวลาของเจ้าจะหมดลงเมื่อใด?
เจ้าสุนัขจอมเจ้าเล่ห์เจ้ารื่นเริงบันเทิงใจและแสวงหากอบโกยความสุขเพื่อวันพรุ่งนี้
แต่จะมีใครบ้างที่จะรู้ว่าวันพรุ่งนี้เจ้าจะได้ลืมตาตื่นขึ้นมาหายใจอีกครั้งหรือไม่?
เจ้าสุนัขจอมวางแผนเจ้านั่งใฝ่ฝันถึงอนาคตที่ดีกว่าในวันพรุ่งนี้
แต่แท้ที่จริงแล้วหนึ่งนาทีนี้ต่อไปก็ไม่ใช่ของเจ้าอีกแล้ว เจ้ารู้ถึงความตายอะไรของเจ้าบ้าง?