12 เมษายน 2556 22:27 น.
คีตากะ
หากรักฉันแล้วทุกข์สิ้นสุขสันต์
ทนจาบัลย์นานมาพาหวั่นไหว
ขอจงเก็บความรักหนักหทัย
เดินจากไปดีกว่าอย่าตรอมตรม
หากฉันสิ้นบทเรียนเธอเพียรรู้
จะทนอยู่เพื่อใครให้ขื่นขม
ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ใจชื่นชม
ร้าวระทมต่อไปทำไมกัน
หากฉันสิ้นคุณค่าราคาต่ำ
มิอาจทำเธอแจ้งแห่งสุขสันต์
โปรดอย่าทนทรมานเนิ่นนานวัน
ก้าวสู่ฝันแห่งเธออย่าเพ้อครวญ
หากความรักแห่งฉันมันด้อยค่า
แปลกเกินกว่าเข้าใจไม่หอมหวล
เธอต้องหมั่นพินิจคิดทบทวน
ทนคร่ำครวญอยู่ไยไปจากกัน
เพราะฉันมิใช่ฉันอันเธอคิด
ยากเกินจิตแห่งเธอจะเพ้อฝัน
แต่สิ่งหนึ่งไม่เปลี่ยนแม้เวียนวัน
นั่นคือฉันรักเธอเสมอไป
16 มกราคม 2554 22:59 น.
คีตากะ
ฉันเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์
มีหน้าที่ขับรถส่งจดหมาย
แล่นเทียวไปตามย่านบ้านมากมาย
ตั้งเรียงรายน้อยใหญ่ให้บริการ
ฉันเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์
ทุกวันวี่ทำกิจทั่วทิศสถาน
ดั้นด้นถึงชุมชนจนกันดาร
เพื่อส่งสาส์นมากล้นดั่งคนจร
ฉันเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์
เสี่ยงชีวีท่ามสุนัขมักเห่าหอน
บางตัวกัดไม่เห่าเฝ้าสังวร
เพียรสัญจรด้วยหน้าที่ยินดีทน
ฉันเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์
คงไม่มีสิ่งใดให้น่าสน
รูปขี้เหร่หรืองามความรวยจน
ใช่เหตุผลอันใดให้ติดตาม
ฉันเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์
จะเลวดีอย่างไรอย่าไถ่ถาม
มีแฟนแล้วหรือโสดโปรดอย่าลาม
จดหมายตามกำหนดเป็นหมดงาน
ฉันเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์
เนื้อความมีตามถ้อยคอยสื่อสาร
ตัวฉันเป็นเช่นใดไยประจาน
งานคืองานโปรดแจ้งอย่าแคลงคน
ฉันเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์
มีไมตรีหรือไม่ใช่เหตุผล
จะรักหรือจะชังไม่กังวล
รับเงินเดือนของตนด้วยผลงาน
12 เมษายน 2556 22:28 น.
คีตากะ
ตื่นเถิด ! พระศรีอารย์
วันอวสานจวนใกล้ไยหลับใหล
ฟ้าจะสิ้นดินจะครวญป่วนอาลัย
โลกเข้าใกล้กลียุคทุกข์คณา
ตื่นเถิด ! พระศรีอารย์
ลืมปณิธานแล้วฤาหรือไรหนา
ครั้งเคยรับพจนารถพระศาสดา
จะปกป้องศาสนารักษาธรรม์
ตื่นเถิด ! พระศรีอารย์
พุทธสถานรอท่าอย่าเหหัน
หลังคารั่วผนังทรุดสุดจาบัลย์
คอยพระนั้นซ่อมสร้างอย่าร้างลา
ตื่นเถิด ! พระศรีอารย์
พุทธกาลก้าวถึงกึ่งศาสนา
รอพระสืบพระสานเนิ่นนานมา
ถึงเวลาพระโปรดชี้โทษภัย
ตื่นเถิด ! พระศรีอารย์
เหล่าหมู่มารเริงรำทำเหลวใหล
รอพระข่มพระปราบกำราบไกล
ยังธรรมให้พิสุทธิ์ดุจมณี
ตื่นเถิด ! พระศรีอารย์
บาปเคราะห์พาลรานรุกสิ้นสุขศรี
ชนมัวเมาอบายมุขทุกข์ทวี
รอพระนี้บำบัดขจัดภัย
ตื่นเถิด ! พระศรีอารย์
ท่องสราญแห่งหนตำบลไหน
ลืมสยามแดนเก่าเราหรือไร
จึงหลับใหลลืมตื่นคืนพารา
1 สิงหาคม 2558 00:07 น.
คีตากะ
ขอให้เหมือนเดิม...
ไม่ต้องเพิ่มดอกไม้ใส่คำหวาน
แค่มีรักต่อกันเหมือนวันวาน
ไม่ต้องการรักตราบสิ้นชั่วดินฟ้า
ขอให้เหมือนเดิม...
เหมือนรักเริ่มแรกวันจิตหรรษา
ไม่ต้องรักมากล้นท้นอุรา
เพียงรักอย่าลดน้อยถอยลงไป
ขอให้เหมือนเดิม...
มิจำเป็นต้องเพิ่มเติมสิ่งไหน
เท่าที่เป็นเธอนั้นฉันพอใจ
อย่าเปลี่ยนไปเพื่อฉันเชื่อมั่นตน
ขอให้เหมือนเดิม...
ไม่ต้องเสริมเติมแต่งทุกแห่งหน
เคยร่วมเรียงเคียงข้างอย่างอดทน
เธอคือคนที่ฉันนั้นภูมิใจ
ขอให้เหมือนเดิม...
รักริเริ่มผลิดอกออกไสว
ดูแลตนแทนฉันวันห่างไกล
ยามหัวใจแห่งรักชักนำเธอ
ขอให้เหมือนเดิม...
รักพูนเพิ่มในใจให้เสมอ
ประหนึ่งแสงสว่างนำทางเธอ
ให้พบเจอความสุขทุกทิวา
17 พฤษภาคม 2556 22:18 น.
คีตากะ
โอม มณีปามีโฮม ! พรมกถา
เปล่งมนตราศักดิ์สิทธิ์ทุกทิศสถาน
ประสิทธิ์พรประเสริฐเลิศประการ
ให้โลกศานต์เกษมสุขเปรมปรีดิ์
โอม มณีปามีโฮม ! ก้มลงกราบ
ศิโรราบพระสรรเพชญนเรศศรี
อภิบาลสรรพสัตว์สวัสดี
ทั่วปฐพีผาติพิโมกข์ภัย
โอม มณีปามีโฮม ! โน้มเกศา
ทวยเทวาวิศิษฏ์พิสมัย
สถิตสรวงเกษมสันต์อันพิไล
บันดาลให้มวลมนุชหยุดก่อเวร
โอม มณีปามีโฮม ! บังคมไหว้
พระภูวไนยอภิมุขปราบทุกข์เข็ญ
ดลจตุรพิธพรผ่อนร่มเย็น
ประชาเป็นสุขกสานติ์สราญรมย์
โอม มณีปามีโฮม ! คมอภิวาท
โลกนาถนิรทุกข์สันต์สุขสม
ดั่งมุกมณีสีแสงสำแดงชม
ซ่อนกลีบบัวบึงตมจมวาริน
โอม มณีปามีโฮม ! พนมหัตถา
สรรเพชุดาจอมกวีศรีวศิน
เปรียบปทุมมาลย์บานไสวไร้มลทิน
อบอวลกลิ่นโกมุทพุทธธรรม์
โอม มณีปามีโฮม ! ประนมหัตถ์
สรรพสัตว์มีพุทธมุตติโมหันธ์
เปิดปรัชญาจักษุลุปรมาตมัน
เฉกบุษบันเบ่งบานตระการตา
หมายเหตุ : โอม มณีปามีโฮม เป็นคาถาโบราณบทหนึ่ง “โอม” เป็นเสียงที่เปล่งจากลำคอของภาษาสันสกฤต คล้ายคลึงกับเสียงของจักรวาล “มณี” หมายถึงอัญมณี มุกมณีหรือแก้วสารพัดนึก ซึ่งหมายความถึงธรรมชาติความเป็นพุทธะของเรา “ปามี” หมายถึงดอกบัว ดังนั้น “โอม มณีปามีโฮม” ก็คือมุกมณีนี้อยู่ในดอกบัว ในดอกบัวมีแก้วสารพัดนึกส่องประกายวาววับ เวลารู้แจ้งก็คือได้มุกมณี ได้แก้วสารพัดนึก หรือที่เรียกว่า “ดอกไม้บานเห็นพุทธะ”