1 สิงหาคม 2558 00:31 น.
คีตากะ
รักคงยังไม่พอ...ต่อเหตุผล
เพราะอีกคนหมายครองเรียกร้องสิทธิ์
จำกัดขอบขีดวงหลงความคิด
ด้วยยึดติดตัวตนบนความลวง
รักคงยังไม่พอ...ส่อแววหม่น
เพราะอีกคนคิดไกลไปใหญ่หลวง
หวังควบคุมกุมจิตคิดถามทวง
ด้วยหลงบ่วงมายาพาโศกี
รักคงยังไม่พอ...ก่อสับสน
เพราะอีกคนหลงผิดคิดป้ายสี
ทำรักเพี้ยนกลายทุกข์รุกทวี
ด้วยหวังดีแต่เขลาเปล่าปัญญา
รักคงยังไม่พอ...ห่อเหี่ยวนัก
เพราะคนรักมิแจ้งแห่งปริศนา
ฟังคำมารร้อยลิ้นจินตนา
ด้วยหลงคว้าอัตตาพาระทม...
31 กรกฎาคม 2558 22:59 น.
คีตากะ
ในวันเหงาเปล่าร้างบนทางฝัน
มีเธอนั้นผ่านมาคราอ่อนไหว
ยามทดท้อต่อเติมหวังพลังใจ
เติมเชื้อไฟที่ใกล้ดับให้วับวาว
ค่ำคืนแรมมืดมนสับสนนัก
เธอมอบรักส่องสว่างกลางห้วงหาว
เป็นแรงใจเปรียบแสงแห่งดวงดาว
ความเหน็บหนาวพลันมลายจางหายไป
เพราะมีเธอจึงมีฝันวันอ่อนล้า
ยามสบตาอบอุ่นละมุนไหว
บนโลกเปลี่ยวอับจนคนเข้าใจ
มีเธอให้ไออุ่นแสนคุ้นเคย
ตราบวันนี้มีเราเข้าใจซึ้ง
เป็นที่พึ่งพิงใจให้เปิดเผย
ยากจำนรรจ์สรรหามาเปรียบเปรย
เพียงคำเอ่ยว่าฉันนั้นรักเธอ...
31 กรกฎาคม 2558 23:09 น.
คีตากะ
ทุ่งนาร้างนางลืมปลื้มแสงสี
ไปได้ดีเมืองฟ้าเมินหน้าหัน
ทิ้งรวงข้าวลำคลองต้องจาบัลย์
ลอยสวรรค์อำไพไม่หวนมา
ลืมถิ่นทุ่งรวงทองลืมน้องพี่
ลืมรักที่จริงใจไปโหยหา
หลงเมืองกรุงฟุ้งเฟ้อเพ้ออุรา
ห่างไกลตาแม่พ่อเฝ้ารอคอย
บัวดอกงามยังบานรอกานต์แก้ว
ฤาลืมแล้วต้นตาลพานเหงาหงอย
ลืมกองฟางกลิ่นดินสิ้นร่องรอย
ทิ้งคนคอยมองเคียวเพียงเดียวดาย
ลืมลำคลองเคยล่องเคยครองรัก
ลืมรสผักริมคลองน้องห่างหาย
ปล่อยดอกจานร่วงหล่นปนดินทราย
กองมากมายปลายนาน้ำตาริน
หลงในป่าซีเมนต์เร้นล่องหน
ไปหลงคนหน้าใสใจโผผิน
ลืมพี่ชายคนจนชนชาวดิน
ลืมกระท่อมเสียสิ้นโบยบินจร
หากวันใดบาดเจ็บจนเหน็บหนาว
อย่าลืมข้าวคอยเคียวเรียวสลอน
รีบคืนถิ่นบ้านนาอย่าอาวรณ์
คนอาทรคนหนึ่งคำนึงคอย....
31 กรกฎาคม 2558 23:13 น.
คีตากะ
บ้านหลังนี้คงเหงาว่างเปล่านัก
หากขาดรักเยียวยามาประสาน
มีเพียงปูนและไม้ไร้วิญญาณ
ทุกสิ่งพานรันทดหดหู่ทรวง
บ้านหลังนี้คงเงียบเย็นเยียบจิต
หากขาดมิตรรู้ใจไว้ห่วงหวง
คอยปลุกปลอบหัวใจไม่หลอกลวง
คลายทุกข์ล่วงเบาบางห่างจิตใจ
บ้านหลังนี้คงร้างอ้างว้างยิ่ง
หากถูกทิ้งเดียวดายคล้ายผลักไส
ทั้งประตูผนังวังเวงไป
จะหาใครช่วยอยู่คอยดูแล
บ้านหลังนี้คงเปลี่ยวแท้เทียวนัก
หากคนรักร้างไกลไม่แยแส
เหลือเพียงเสาหน้าต่างร้างใครแล
กลายเป็นแค่บ้านร้างถูกหมางเมิน
บ้านหลังนี้คงเบื้อใบ้ไร้ความหมาย
มิเพริศพรายงามหรูดูห่างเหิน
หากขาดเธอเคียงข้างร่วมทางเดิน
ร่วมเผชิญความเหงาด้วยความเข้าใจ
17 พฤษภาคม 2556 21:46 น.
คีตากะ
ยามใกล้รุ่งดุเหว่าเร้าขับขาน
แว่วกังวานหวานโสตอุโฆษเสียง
ค่อนคืนดึกลึกล้ำส่งสำเนียง
ยลยินเพียงดุริยางค์หว่างราตรี
ค่ำคืนแสนยาวนานล้วนผ่านพ้น
ฝันวกวนซ้ำซากยากหลีกหนี
มีวันตื่นฟื้นหายกลายเปรมปรีดิ์
เยี่ยงชีวีดุจฝันแปรผันไป
สุขทุกข์เฉกพระพายระบายสะบัด
หมายทานทัดยากยิ่งสิ่งเคลื่อนไหว
จะยับยั้งเหนื่อยเปล่าเขลาฤทัย
เพียงหัวใจไหวหวั่นพรรณนา
เลื่อนไหลไปดั่งธารกาลสมัย
ลับหายไปมิหยุดดุจสังขาร์
จ่อมจมไปดั่งสินธุ์จินตนา
สุดท้ายคว้าสิ่งใดเอาไว้ฤา....