31 กรกฎาคม 2558 22:25 น.
คีตากะ
ดาวเหนือส่องสว่างกลางห้วงหาว
แสงแพรวพราวคืนแรมแต้มเวหน
เคยพิลาสบาดทรวงดวงกมล
ยามแลยลสนธยาพาเปรมปรีดิ์
หริ่งเรไรร่ำระงมกลางร่มพฤกษ์
ค่ำคืนดึกประดับดาวพราวแสงสี
ตราบใกล้รุ่งฟ้าสางหว่างราตรี
หาได้มีดาวเจ้าเฝ้าเหม่อมอง
นภาสลัวฤาดาวแสนร้าวรวด
จึงมิอวดแสงนวลชวนหม่นหมอง
ฤาเมฆินทร์ขวางกั้นบั่นลำพอง
จึงลอยล่องลาสรวงล่วงพรหมินทร์
แหงนมองฟ้าคราวใดให้หนักจิต
ดาวเคยสถิตกลางใจไยโผผิน
ฤาพิษรักหนักทรวงหล่นล่วงดิน
จึงสูญสิ้นดาวเหนืองามเรื่อเรือง....
31 กรกฎาคม 2558 22:30 น.
คีตากะ
เศรษฐกิจทรุดฉุดจีดีพีต่ำ
นาจมน้ำเสียหายหลายสถาน
บริษัทปิดลอยแพแย่คนงาน
ทั้งราคาอาหารพานลอยตัว
ทำธุรกิจอะไรก็ไม่รุ่ง
คนทิ้งกรุงเข้าป่าน่าเวียนหัว
หุ้นตกต่ำซ้ำร้ายแทบขายตัว
ประชาทั่วเดือดร้อนล้าอ่อนแรง
มุ่งทำงานหาเงินเผชิญโชค
ต้องย้ายโยกไปทั่วหัวระแหง
นอนกลางดินกินกลางทรายคล้ายแมลง
ผ่านร้อนแล้งน้ำท่วมอ่วมเพราะเงิน
คิดถึงน้องคนดีชวนพี่หนี
ทิ้งแสงสีเมืองใหญ่ไปหาวเหิน
ชมธรรมชาติวาดภาพพอเพลิดเพลิน
พากันเดินสู่ป่าพนาลัย
ฤาน้องเป็นสีดาคิดว่าพี่
เป็นคนดีศรีรามงามไฉน
อยู่ข้างน้องลุ่มหลงจงเตรียมใจ
อาจมิได้วาดภาพซาบซึ้งธรรม
คนพเนจรไร้รากอยากฝากฝัง
ปล่อยพี่ไว้ลำพังนั่งขันขำ
เป็นคนบ้าต่อไปชดใช้กรรม
อย่าถลำเดี๋ยวลึกตรองตรึกดู
ชื่อเสียงพี่ใครเขาเล่าขานทั่ว
อย่าหลงกลั้วคบค้าพาอดสู
เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็บ้าถ้าเอ็นดู
ปล่อยพี่อยู่คนเดียวอย่าเหลียวมอง
โลกวันนี้แปลกหน้ากว่าที่คิด
ธรรมชาติวิปริตจิตกลัดหนอง
โลกจะแตกหรือเปล่าเฝ้าแต่มอง
แค่น้ำนองสยองแล้วนะแก้วใจ
ปีหน้านี้พี่ว่าต้องมาลุ้น
โลกจะหมุนหรือเปล่าเฝ้าสงสัย
ถ้าพระดีคุ้มเกล้าเราปลอดภัย
จะชวนน้องล่องไพรให้สมปอง....
31 กรกฎาคม 2558 22:36 น.
คีตากะ
ควันเบาบางจากกองไฟจวนใกล้ดับ
แสงดาววับแวมวาวราวห้วงฝัน
ค่ำคืนดึกราตรีมีแสงจันทร์
พระพายผันโอบกอดพรอดวิกาล
ถนนเวิ้งฟ้าว่างร้างสรรพสิ่ง
เพลงเหงาอิงแอบใจไหวขับขาน
ลมหนาวครวญแผ่วมาพร่าดวงมาน
ปลุกวิญญาณที่หลับใหลให้ฟื้นตื่น
บุรุษหนุ่มสำอางพลางผมขาว
สตรีสาวกลับชราหาขัดขืน
กาลเวลาล่วงลับกับวันคืน
ค่อยกินกลืนสรรพสิ่งจมดิ่งลง
ชั่วพริบตายี่สิบปีที่ผ่านพ้น
มาตรยากดีมีจนบนความหลง
สะลึมสะลือชีวิตติดพะวง
เพียงฝุ่นผงเข้าตาจนพร่าลาย
คิดถึงกานต์คนไกลแต่ใกล้จิต
เผชิญชีวิตเยี่ยงไรในจุดหมาย
คิดถึงมิตรใกล้ใจแต่ไกลกาย
ดีฤาร้ายอย่างไรได้พบเจอ
พ.ศ.เปลี่ยนเปลี่ยนใจไปด้วยไหม
หลงลืมใครคอยหวงห่วงเสมอ
พ.ศ.ใหม่ใช่ใหม่คนคอยปรนเปรอ
ปล่อยใจเพ้อเหงาหงอยคอยสบตา
เพียงรับรู้ภายในใช่ไกลห่าง
ทุกเส้นทางคิดถึงคำนึงหา
หวังเพียงเธอพบสุขทุกเพลา
รับรู้ว่ามีฉันนั้นห่วงใย
ขอคุณพระคุ้มครองอย่าต้องเศร้า
ช่วยปัดเป่าพาลผองล่องขับไส
สิ้นโรคาพยาธิทุกปีไป
ถึงปีใหม่ใสสุกปราศทุกข์ทน
ท้าย ป.ล.ต่อด้วยรักและคิดถึง
ฝากเพลงซึ้งกล่อมมาเวหาหน
จากใครที่ห่างไกลใกล้กมล
ส่งถึงคนที่รักและภักดี....
17 พฤษภาคม 2556 21:04 น.
คีตากะ
นาทีสุดท้าย....ก่อนกลายว่าง
สู่เส้นทางสายเปลี่ยวกอดเกี่ยวฝัน
บนโลกร้างไร้แสงแห่งตะวัน
เมื่อเข็มนาฬิกานั้นพลันหยุดเดิน
นาทีสุดท้าย....ล้วนมลายลับ
สุดคว้าจับสิ่งใดให้หาวเหิน
ปลดกายใจปล่อยลงคงหนักเกิน
ก้าวย่างเดินเส้นทางร้างตัวตน
นาทีสุดท้าย....ทำลายฝัน
เพลินสร้างสรรค์นานมาพาสับสน
วนเวียนว่ายหลายคราวร้าวกมล
ก้าวข้ามพ้นสมมุติหยุดโศกา
นาทีสุดท้าย....เหมือนตายจาก
ต้องจำพรากรูปนามท่ามสังขาร์
ปลดวางแอกบาปบุญสู่สุญตา
หลอมวิญญาณ์ละลายมลายเลือน
นาทีสุดท้าย....กลายแปรเปลี่ยน
ราวดั่งเทียนมอดดับลับเสมือน
เหลือเถ้าควันเบาบางอันรางเลือน
ก่อนคล้อยเคลื่อนสู่อากาศปราศร่องรอย...
31 กรกฎาคม 2558 22:41 น.
คีตากะ
วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำนองทุ่ง
ธารบุกกรุงเมืองฟ้าคราสิ้นฝน
รุกคืบดินถิ่นอมรต้อนผจญ
ไล่ผองชนชาวฟ้าค่อยราวี
ลมหนาวล่องจากเหนือเมื่อปลายฝน
ธารหลากล้นล้อมเมืองรุ่งเรืองศรี
ม่านความกลัวแผ่คลุมสุมธานี
ชนต่างหนีทิ้งเวียงหลบเลี่ยงภัย
มังกรพยัคฆ์สู้กันประชันฤทธิ์
ทั่วทุกทิศขัดแย้งแคลงสงสัย
เงินเป็นเหล็กค่าด้อยน้อยลงไป
ธารน้ำใจไหลนองท่ามผองชน
ลอยกระทงปีนี้น้ำมีมาก
ล่องลอยฝากคงคาบ่าถนน
ขอขมาชลาลัยไหลเวียนวน
ดุจใจคนสุดหยั่งถั่งโถมนอง...