29 กันยายน 2548 16:16 น.
คิดถึงผมมากๆนะ
หลายคนชอบบ่นกระปอดกระแปดว่า ชีวิตไม่เห็นดีเหมือนคนอื่นๆ บ้างก็ไม่พอใจที่ไม่ได้เกิดมาในตระกูลร่ำรวยอย่างที่เพื่อนๆเป็น
บ้างก็อยากมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ หลายคนเป็นทุกข์กับการไขว่คว้าหาวัตถุมากมายในชีวิต หลายคนไม่เคยหยุดคิด นอกจากการตั้งเป้าหมายแล้วก็พยายามทำเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาครอบครอง
ตอนเด็กๆ ก็เรียกร้องหาของเล่นชิ้นใหม่ไปเรื่อยๆ
ครั้นโตขึ้น ก็เรียกร้องของชิ้นโตขึ้น รถใหม่ คอนโด บ้านหลังใหญ่
พร้อมกับความรู้สึกว่าตัวเองยัง มีไม่พอ
และจากการพยายามไขว่คว้าอะไรมากมายเช่นนี้นี่เอง
ที่ทำให้โอกาสได้พบเพื่อนลดน้อยลงทุกที
ลองหยุดคิดสักนิด
ครั้งสุดท้ายที่คุณนัดเพื่อนสนิทสมัยเรียนมานั่งกินเบียร์ หรือกินข้าวกัน เกิดขึ้นเมื่อกี่เดือนที่แล้ว
หากคุณ ไม่ได้เป็นอีกคนที่ ยุ่งอยู่กับงาน มากจนไม่เคยมีเวลาให้เพื่อนฝูง บอกได้เลยว่าคุณคิดถูกแล้ว
เคยเห็นคนแต่งตัวสกปรกมอมแมมข้างถนนบ้างหรือเปล่า
หลายครั้งหากคุณลองใช้เวลามองดูดีๆ อาจพบว่าเขายิ้มได้บ่อยกว่าคุณเสียอีก
ลองทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น โดยลดความต้องการให้น้อยลงสักนิด
เปิดโอกาสได้ชื่นชมความงามของชีวิตบ้าง แทนที่จะทำแต่งานเพียงอย่างเดียว
ส่องกระจกดูตัวเองให้ชัดๆอีกครั้ง มันง่ายแค่ไหนที่จะทำให้ที่เหลือของชีวิตให้มีความสุข ลองหัดพอใจในสิ่งที่หามาได้
บางทีชีวิตก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายอย่างที่เราเคยคิด
15 กันยายน 2548 18:01 น.
คิดถึงผมมากๆนะ
ชีวิตเราเริ่มอย่างไม่สวยนัก คงไม่มีใครสมบูรณ์ไปทุกคนหรอก ฉันเองก็เช่นกัน ฉันไม่รู้จักคำว่ารัก ฉันรู้จักแต่ต้องการความรัก ฉันไขว่ขว้าหามันอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แล้วมันก็สูญเปล่าทุกครั้งไป ฉันเริ่มท้อและหมดหวัง และฉันก็ได้พบเธอ นั่นเหมือนกับได้เจอเพื่อนเก่า เพื่อนคนที่มีอะไรๆเหมือนๆกัน ฉันเริ่มเปิดใจอีกครั้ง และฉันคิดว่ามันคงไปได้ดี แต่ปัญหาทุกอย่างมันก็ต้องเกิดขึ้นจากฉันอีกครั้ง ฉันกลัว กลัวจะต้องเสียใจ และนั่นเองทำให้ความสัมพันธ์เราเริ่มเปลี่ยนไป เหมือนที่ผ่านๆมา ใช่มันกลับมาอีกแล้ว เธอเฝ้าแต่บอกว่า "ไม่ ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหน ไม่มีทางที่ผมจะจากคุณไป" คำพูดของเธอมันไม่ได้ทำให้กำแพงที่ฉันสร้างขึ้นพังไปเลย มันยิ่งเพิ่มมากขึ้น ฉันยิ่งกลัวมากขึ้นทุกทีๆ ฉันหยุดมันไม่ได้แล้วที่รัก มันน่ากลัวเหลือเกิน ฉันไม่อาจบอกเธอได้ว่าฉันระแวงทุกๆอย่าง เหมือนคนบ้า ฉันแค่อยากจะแน่ใจว่าฉันจะไม่มีวันเสียเธอไป แต่สิ่งนั้นมันทำให้เธอเริ่มห่างฉันไปเรื่อยๆ(ฉันรู้สึกได้ว่าเธอเริ่มทนไม่ได้ เริ่มหมดแรงที่จะทำลายกำแพงแล้ว) ก่อนจะถึงวันนั้น ฉันขอลาจากเธอไปตั้งแต่วันนี้ ฉันขอไปอย่างเงียบๆไม่ต้องมีคำลา ไม่มีข้อความ ไม่มีคำอธิบาย ฉันจะหายไปจากเธอทั้งๆที่ยังมีเธอเต็มหัวใจ และคงไปแอบอยู่ที่ไหนไกลๆสักแห่ง ฉันไม่อาจรักใครได้ ลาก่อนที่รัก เธอคงจะเจ็บไม่นาน อีกไม่นานเธอก็คงจะลืมฉันได้ แต่ฉันจะมีชีวิตอยู่ อยู่เพื่อจดจำเธอตลอดกาล ลาก่อนคนที่พยายามทำลายกำแพงท เส้นทางของเราสิ้นสุดแล้ว
19 เมษายน 2548 09:17 น.
คิดถึงผมมากๆนะ
ฉันรู้ว่าเราต่างก็เจ็บปวดด้วยกันทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะรักหรือจะเลิก
มันก็เจ็บปวดอยู่ดี เธอเองก็รู้ว่าทุกๆ อย่างมันเป็นไปไม่ได้ แค่รักมันยังไม่พอ มันมีอะไรตั้งมากมายที่จะรวมเราให้เป็นหนึ่งเดียว แต่เราทั้งคู่มีเพียงหัวใจเท่านั้นที่ตรงกัน วันนี้เราจึงต้องจากลากัน ให้เวลาบอกเราเถอะนะว่าต่อไปจะเป็นเช่นไร เราจากกันทั้งยังรัก ทั้งยังผูกผัน เธอเดินตามทางของเธอ ฉันเดินตามทางของฉัน ถ้าฟ้ายังคงมองเห็นคนสองคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการพัดพราก คงนำมาให้เราพบเจอกันอีก สักวันอาจมีสักวันที่เราจะพบกัน
12 เมษายน 2548 22:37 น.
คิดถึงผมมากๆนะ
จากเรื่องหนุมนิติกับสาวคาวบอย หรือ รักให้เป็นที่ ที่เคยเขียนผ่านๆมา
ตอนนี้คงเป็นจุดจบของนามปากกาว่า
"คิดถึงผมมากๆนะ"แล้วล่ะ
และจะไม่มีนามปากกานี้อีกต่อไป
เพราะ....................................
จากที่เคยบอกไว้ว่าจะรอจะคอยคนที่ไม่มีแม้เงา
มันได้จบลงเมื่อ...........................
เราได้โทรไปหลังจากที่หลอกตัวเองมาตลอด
ว่าบางที่เค้าเองก็ยังคงรู้สึกเช่นเดียวกัน
แต่.....................................
สิ่งที่ได้รับ...............
ฮัลโหล.....สบายดีเหรอ
ฮัลโหล....ใครครับ..มีธุระอะไร
ฮัลโหล...(เสียงผู้หญิง).....ใครคะมีธุระอะไร
อ๋อเดียวเองคะ...............
เดียวเหรอ(เสียงหญิงคนนั้น) เดียวไหน(เสียงเค้าคนนั้นถาม)....(หาไม่น่าเชื่อเค้าพูดมาได้ไง)
เดียวไหนเหรอคะ....เธอยังเฝ้าถาม
ถามเค้าดูสิคะว่าเดียวไหน
เค้าบอกว่าไม่รู้ว่าเดียวไหน
อึ้ง.......................จุกในอก
เออคือหนูไม่รู้หรอกนะคะว่าพี่เป็นอะไรกับพี่เค้าแต่ขอถามหน่อยแล้วกันคือว่าพอดีพี่เค้านะกำลังจะจีบเพื่อนหนูหนูอยากรู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง..............เธอถามต่อ
จะโกรธไหมคะว่ามีอะไรกับพี่เค้าหรือยัง..........เธอถามอย่างตรงๆ
แทบจะไม่เชื่อหูอะไรวะเนียะ
ยังหรอกคะน้อง แค่จะได้เจอกันยังแทบจะไม่ได้เจอเลย.........ตอบด้วยเสียงสั่นๆ พี่แอบรักเค้าข้างเดียวนะ(โกหกไปซะ)
แล้วเธอก็ยังคงหาเรื่องถามอีก........
พอที่เถอะคะแค่พี่นี้ยังเจ็บไม่พออีกหรือไง...............น้ำตาเริ่มไหล
แล้วเราก็ตัดสาย...............................นั่งร้องไห้ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เราเชื่อใจคนที่เราคิดว่าดีที่สุดจะทำกับเราได้ขนาดนี้..........................
คงเป็นเพราะเราสร้างภาพว่าเค้าดีไว้เกินไปคงจะจริงที่เค้าบอกว่า "ความรักทำให้คนตาบอด"
แล้วไม่นานนักเค้าก็โทรมา....................
เธอไปพูดอะไรกับเค้า..เค้ามาบอกเลิกกับผม.
บอกว่าเราเป็นไรกันงั้นเหรอ(อ้าวแล้วที่ผ่านมาเค้าไม่เรียกว่าคบกันเหรอวะ).ผมจะแต่งงานกับเค้า...แล้วทำไงเนี่ยะเค้าดันมาบอกเลิก.......
หา! อะไรนะแต่งงานเราแทบไม่เชื่อหู
เราขอโทษ
เราจะทำไงเค้าจะไปต่างจังหวัดด้วย.....
เราขอโทษๆๆๆๆๆๆ
โทรไปบอกเค้าให้หน่อยได้ไหม...............
อืมๆๆก็ได้..........(อะไรมันจะใจดีเกินไปแล้วมั้งเรา)
แล้วเราก็โทรไปหาหญิงคนนั้น
ฮัลโหล...คือจิงๆเราไม่ได้เป็นอะไรกับเค้าหรอกนะเราแค่แอบชอบเท่านั้น
และที่โทรไปแค่อยากรู้ว่าเค้าสบายดีหรือเปล่า.........
ไม่หรอก........มันหลายครั้งแล้วเดี๋ยวคนที่อุบล ที่โคราชที่เครียร์ไม่ไหวแล้ว
หาอะไรนะ(แทบไม่เชื่อหูนี่คนดีของเรามันเลวขนาดนั้นเลยเหรอ)
พอดีเหรียญหมดเลยสายตัดไป
อึ้งอยู่พักใหญ่........................................
ใจคนนี้ยากแท้หยั่งถึงจิงๆนะ......................
นี่ขนาดเป็นเพื่อนกันมาก่อนรู้จักกันมาก่อน ก่อนที่จะคบกัน เชื่อใจ แล้วผลที่ได้ตอบแทนคือสิ่งนี้
เคยตั้งมั่นว่าจะเชื่อใจเค้า เฝ้ารอ ไม่สนใคร จำทุกๆคำพูดไว้ ไคดถึงผมมากๆนะ" แต่มันพังทลายเพียงไม่กี่นาที
คงไม่ต้องคิดถึงแล้วมั้ง
เคยบอกเค้าว่า"ถ้าเธอเจอคนที่ใช่บอกเรานะ" แต่เมื่อถึงเวลาคนเราน่ะนะไม่มีใครกล้าพูดหรอก แต่แบบนี้มันเจ็บกว่า
ถามว่าเสียดายไหมที่เฝ้ารอ เฝ้าคอย ไม่เลย แต่รู้สึกเออโล่งรู้แล้ว ปลงแล้วไม่ก็ไม่แค่นี้เอง แต่เสียความรู้สึกที่เค้าสร้างภาพไว้ดีมากกกกกกกกกกกกกก
ก็ขอให้เค้ามีความสุขแล้วกัน นามปากกานี้ก็คงจบลงแค่นี้...............คงไม่มีนามปากกานี้อีกแล้ว"คิดถึงผมมากๆนะ" ลาก่อนเพื่อนๆ แต่จะกลัมาในรูปแบบใหม่หรือป่าวยังไม่แน่ แต่ตอนนี้ขอไปพักฟื้นก่อนแล้วกัน เติมพลังมากพอฉันจะกลับมาชัวร์ รับรอง
25 มีนาคม 2548 17:15 น.
คิดถึงผมมากๆนะ
มนุษย์เกิดขึ้นได้จากการปฏิสนธิระหว่างอสุจิกับไข่ เกิดเป็นเอ็มบริโอ ในช่วงที่ทารกอยู่ในครรภ์ มาดารที่อุ้มท้องต้องระมัดระวังการกินอยู่ ด้านบิดาเองก็ต้องคอยแบ่งเบาภาระภรรยา ทั้งสองตาตั้งหน้าตั้งตารอวันที่ทารกน้อยจะลืมตาดูโลก
เมื่อทารกน้อยลืมตาดูโลก ทั้งสองต่างฟูมฟักดูแล จนเติบใหญ่ ส่งเสียให้เรียนหนังสือ คอยมองนาฬิกาเมื่อเลยเวลาเลิกเรียนนานแล้ว เป็นธนาคารที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นคนที่อยู่เคียงข้างเมื่อเราล้ม แต่เมื่อเรามีสุขเรากลับมีความสุขกับเพื่อนฝูง โดยปล่อยให้เค้าเฝ้ารออยู่ที่บ้านอย่างห่วงใย เมื่อโตพอจะมีครอบครัว เค้าเหล่านั้นก็กลายเป็นส่วนเกิน เพราะข้ออ้างที่ว่าภาระมากมายทั้งลูกทั้งสามี ทำให้เค้าเหล่านั้นถูกทอดทิ้ง ทั้งๆที่เค้าให้กำเนิดเรา แต่กับสามีที่ทั้งกินเหล้า สูบบุหรี่ เล่นการพนัน ตบตี สร้างความเดือดร้อน หรือไม่มีอะไรที่ดีพอที่จะเทียบกับความดีที่พ่อแม่ทำให้แม้เศษเสี้ยว กับทิ้งไม่ได้ ร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนให้เขาอยู่ แต่กับคนที่ให้เราทั้งชีวิตกับไม่ให้ความสำคัญปล่อยเค้าไว้ให้อยู่กับหมากับแมว หรือบางรายทิ้งหลานไว้ให้เลี้ยงอีกต่างหาก เหตุการณ์แบบนี้มีให้เห็นประจำตามรายการทางโทรทัศน์มากมายหลายรายการ คุณคิดหรือว่าเด็กจะไม่รู้ไม่เห็นการกระทำของพ่อแม่ เด็กย่อมซึมซับสิ่งเหล่านี้ เมื่อเค้าโตขึ้นเค้าก็จะเดินตามแนวทางที่พ่อแม่ทำนั่นแหละ เป็นวงเวียนชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุด ลูกทิ้งแม่ผู้ให้กำเนิด หลานก็ทิ้งแม่ หรือ ลูกทิ้งหลานไว้ให้แม่เลี้ยง หลานก็จะทิ้งเหลนไว้ให้ยายเลี้ยง ไม่จบไม่สิ้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะให้ความสำคัญกับคนที่รักเรามากกว่าใครๆ หรือผู้ชายหน้าไหน