21 พฤษภาคม 2556 09:51 น.

๒๖ ศตวรรษวิสาขบูชาโลก

คอนพูทน

อุปัฎฐิตาฉันท์ ๑๑ ๏ งามเหมือนนิรมิต     เฉพาะกิจฉลองกาล ดวงแสงนภสาน         พุทศาสน์อมรใส ๏ เพ็ญเดือนระดะดาว  รุจิพราวสว่างไพร เย็นนุ่มศิระนัย            ฤดิน้อมมนัสนำ ๏ นวลผ่องอุรพา        วิสะขาพิศุทธิ์คำ ฟังเทศน์อภิธรรม        อติทั่วไผททอง ๏ เรืองในธรณี           ปุรมีอร่ามมอง ชื่นพลอยปิติผอง        จิตเพริศชโลมพา ๏ คืนเพ็ญระวิพราว     วรคราวประสูติครา หอมเมืองสุรมา          ปรมัตถ์อุบัติพลัน ๏ ตรัสรู้สิริเรียง          ทุกข์เคียงนิโรธครัน มรรคศรีพิรสันต์          สมุทัยพิไลสม ๏ นิพพานประลุเพลิน  ฤดิเชิญวิบูลย์ชม ฉ่ำพรฐิติพรม            ปฏิพัทธ์ประโลมเพียง ๏ ลานบุญรตะบุญ       นพคุณสนานเคียง ธรรมสอนสุจิเสียง       พิธิศาสน์ประจงศรี ๏ มวลชนสหชาติ       มติชาติประชาชี สวดมนต์จิระมี           สุวิมลกระชุ่มมาน ๏ งามเหมือนนิรมิต     เฉพาะกิจเฉลิมการ ศรัทธรรมชุติทาน       นิธิทัศน์สวัสดิ์เทอญ ๚ะ๛

                                คอนพูทน

2 พฤษภาคม 2556 13:50 น.

กลอนหก

คอนพูทน

๏ จรุงไกลหอมดั่งแก้ม         เอยกานท์ พราวสกาวเรือนวรรณกรรม     เสนาะก้อง ยินครวญบรรเลงขาน            สดับขับ รักษ์คัดจึงเรียงคล้อง            สนั่นขรมฯ ๏ ชมแพรวลำนำเพริศ          เชลงพา คำพร่ำบาดคมพลอย           อร่ามพิศ ฉลุศิลป์ปิ่นภาษา                นิพนธ์ศาสตร์ พลัน!!นั่น “เกินคาด” นิด       เหตุไฉนฯ ๏ กลอนใคร? หกตกพื้น       ลานประพันธ์ มองพร่างรอยบทเพลง         หยาดแพร้ว บางความหลากมากฝัน         แรงใฝ่ เก็บเหล่า “กลอนหก” แล้ว    จัดสลวยฯ ๏ จรดสวยบรรจงซ่อม          ประดอยสาย เติมศักดิ์หักแตกแซม           แต่งสร้อย หวานชงเปิดออกฉาย           ประดับฉัตร พราวแอร่มกลัดพวงร้อย        เสนอเรียงฯ ๏ เคียงนำบรรเจิดนุ่ม           สำนวน สานเนียนเป็นสำเนียง          กระชุ่มนัก ขาดหายจักคืนหวน             มาห่อ เชิญแลชมคมลักษณ์           ชื่นหลายฯ ๏ กลายครวญจากกลอนครั้น  ละมุนคลอ ตวัดขีดมาเป็นโคลง             เลบงครบ หยดสนุกบันเทิงหนอ           เหยาะเสนาะ สนานเพลินอักษราพบ          ฉะฉ่ำผล ๚ะ๛            .................................. โคลงวิชชุมาลี                   คอนพูทน

20 พฤษภาคม 2556 11:33 น.

รามสูร..ล่าแก้ว

คอนพูทน


พลบค่ำ..ย่ำเย็นเห็นเมฆคล้อย
เคลื่อนเคลื่อนลอย..ลงต่ำดำมืดฝน
เสียงฟ้าร้องก้องไกลให้ยินยล
ฉ่ำกมล..ชื่นละมุนพิรุณโรย

เสียงกัมปนาท..ฟาดฟันลั่นเวหา
คือเทวดาไส้กิ่วท่านหิวโหย
ท้องถึงร้องก้องฟ้า..คราฝนโปรย
ลมพัดโกรกโบกโบยเริ่มโชยแรง

เดินเล่น..เห็นไกลใช่ใครอื่น
ลุกนั่งยืนถือขวานยาว..สกาวแสง
รามสูรชื่อดีฤทธิ์สำแดง
รีบจัดแจง..บรรจงตรงไซร้

หิ้วกระติก..นั้นครั้นน้ำแข็งครบ
มานั่งหลบฝนล่อ..ลื่นคอไหล
โซดาเหล้า..พร้อมแล้วแก้วหนึ่งใบ
ช้าอยู่ไยให้เนิ่นนาน..จัดการชง

ยกซดหมดซึ้ง..ไปหนึ่งแก้ว
เจื้อยแจ้วเจรจา..ภาษาส่ง
กระพือปีกหลีกถลำท่ารำวง
วางแก้วลง..ตรงรี่นารีมา

นิ่มเนื้อนวล..นางในที่ไหนนั่น
สวยผ่องพรรณนั้นนางเอก..เมขลา
สุดสำรวยสวยผ่องแผ้วแก้วกานดา
ยากจะหา..มาเทียมเทียบหรือเปรียบเปรย

รามสูร..เห็นสาวเข้าแกะเกี้ยว
ไม่ลัดเลาะลดเลี้ยว..พลางเฉลย
หลงรักสาวเจ้ามาช้านานเลย
วันนี้พี่ต้องเผย..เฉลยความ

ว่ารักน้องนงนุชสุดสวาท
ใจจะขาดคิดถึงจึงอยากถาม
ช่วยนั่งหน่อย..งามแน่แม่นงราม
กระดกตามความนอก..บอกความนัย

เมขลาทนฟังยังยืนนิ่ง
แม้นสุงสิงอสุรายิ่งบ้าใหญ่
เพราะน้ำเหล้าเจ้ายักษ์..ชักเปลี่ยนไป
ทำอย่างไรใคร่ครวญควรหยุดกิน

นึกขึ้นมาคว้าแก้ว..แล้วรีบวิ่ง
มารนั่งนิ่งจริงแจวแก้วผันผิน
เอาอะไรใส่รองยามจะริน
ความโกรธาบ้าบิ่นกรุ่นกลิ่นล้น

แขนซ้าย..หนีบเหล้าหิ้วโซดา
ในมือขวาหนีบขวานกลางสายฝน
หิ้วกระติกชุลมุนใจวุ่นวน
แล้วพาตน..ออกตามยอดงามงอน

รุงรังพังดะไม่ละลด
ไม่มีแก้ว..รันทดยามพี่ถอน
แลเห็นหลังยังไหวไหว..ใจมันร้อน
แล้วบังอรล่อแก้ว..อันแวววาม

รามสูร..เห็นไซร้ให้โมโห
ยกขวานโชว์ชูหราน่าเกรงขาม
ขว้างออกไปให้นาง..วางแก้วงาม
เสียงโครมคราม..อึกทึกกึกก้องฟ้า

เมขลามาไกล..ยังถือแก้ว
ยักษ์เห็นแล้วลิ่วลงตรงเข้าหา
เฝ้าตามยื้อแย่งย้าย..เสียงทายท้า
เล่านานมามากมาย..ที่ได้ฟัง

แต่งเติม..เสริมต่อแต่พอสวย
โบราณช่วยชงชนแต่หนหลัง
เพิ่มรสชาติวาดย่อพอประทัง
เป็นบทเรียนเขียนสั่ง..ยังเยาวชน

สุรา..ถ้าแท้แปลว่าเหล้า
ดื่มแล้วเมา..เผาสมองรับรองผล
ผิดแผกแตกห่างอย่างตัวตน
สับสนสรวลเส..โซเซเมา

ตัวอย่างช่างงามรามสูร
สวรรค์ทรงเทิดทูน..เกื้อกูลเขา
บางบทบ้าง..ตะบันตะบี้มิมีเบา
ความรักเฉาเมินเฉย..เลยเกียจคร้าน

เกะกะระรานมารพวกพ้อง
พี่น้อง..ด่านั่นไอ้สันขวาน
ได้แต่เมาทุกเมื่อ..จอมมาร
กลายเป็นพวก..อันธพาลสันดานเลว

เมขลาสวยล้ำ..ยิ่งลักษณ์
มีแฟนยักษ์คงมิยอม..พร้อมดิ่งเหว
อนงค์นางบางพลิ้วกิ่วอกเอว
ยอมแหลกเหลว..หลีกแล้แม้ร้างชาย

เรียงร้อย..ถ้อยความถามนักซด
ลองหัดอดลดห่าง..แค่กระหาย
เพียงอดเหล้าเจ้าหนามิพาตาย
ก่อนวางวายได้ตรองมาลองชี้

ทรัพย์ก็เหลือ..เผื่อเก็บเกี่ยวก้อย
ลดหน่อยอย่าหนัก..ศักดิ์ศรี
เกิดเป็นชนชาติเชื้อชายชาตรี
อย่าเขาหยามย่ำยีว่าขี้เมา

มีไหม..ใครรักพวกนักดื่ม
มิปลื้มหมดเปลืองเสียมากเปล่า
นอนเพลียแรง..โรยราพาซึมเซา
ปัญญาเบาเพี้ยนบ้าสุรากิน

ศีลข้อห้าว่าไว้..ใส่จิต
ฝากควรคิด..คมคำจดจำสิ้น
คือบทสอน..กลอนลาสุราริน
กลั่นจากจินต์..เถิดจงอย่าหลงลอง
................................
				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคอนพูทน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคอนพูทน
ไม่มีข้อความส่งถึงคอนพูทน