30 เมษายน 2549 01:15 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
ไปนำอ้ายบ่หล่า?
บ้านอ้ายอยู่ปลายนาขอบฟ้าเขียว
ลำประโดงโค้งคุ้งคือรุ้งเรียว
อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายใต้เงาจันทร์
เป็นได้เพียง..เถียงนา*ในป่าเหงา
สีทึมเทาราวร้างกลางทุ่งฝัน
ตะวันแดงยามค่ำย่ำสายัณห์
วิหคน้อยร้อยพันจำนรรจา
จิบน้ำค้างกลางหาวคราวฟ้าสาง
สลัวรางไม้ดอกห่มหมอกหนา
กลิ่นดอกหมากหอมหวานผ่านลมมา
ชุบชีวาหดหู่ให้สู้งาน
มวลไม้ใบไหวร่ายร้องทายทัก
นั่นคือนักจำเรียงเสียงผสาน
จักจั่นบรรเลงเพลงสำราญ
เคียงวิมานแสนงามนาม "เถียงนา"
ถ้าเบื่อบ้านหลังใหญ่ไฟแสงสี
ลองมาอยู่ที่นี่สักปีหนา
อาบน้ำสร้าง* กลางแจ้งแสงจันทรา
กินข้าวปลาพักผ่อนนอนฟัง ลำ*
เป็นตาอยู่กับอ้ายได้บ่หล่า?
นอนเถียงนาฟ้างามในยามค่ำ
ฟังกอไผ่สีซอคลอลำนำ
ถ้ารับคำอย่ารอช้า "เถียงนา" คอย
ถ้ารับคำ "เถียงนา"น้อยยังคอยนาง
อภิธานศัพท์
ไปนำอ้ายบ่หล่า? หมายถึง ไปกับพี่ไหมน้อง?
เถียงนา หมายถึง กระท่อม เพิงพักหรือขนำ(ในภาษาปักษ์ใต้)
น้ำสร้าง หมายถึง น้ำจากบ่อน้ำซับ บ่อน้ำตื้น
ลำ หมายถึง บทขับร้องของคนอีสานหรือเรียกอีกอย่างว่ากลอนลำ
เป็นตาอยู่กับอ้ายได้บ่หล่า ? หมายถึง จะอยู่กับพี่ได้ไหมล่ะน้อง?
11 เมษายน 2549 00:52 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
.ว่าจะอยู่ที่นี่..สักปีหนึ่ง
..พอล่วงถึงวันที่เข้าปีสอง
...มีหลายอย่างทำไม่หมดต้องทดลอง
....จึงจำต้องจดจ่ออยู่ต่อไป
.....กาลเวลาเจ้าเอยล่วงเลยผ่าน
......ลุถึงวาร- ดิถีขึ้นปีใหม่
.......บางวันเริ่มสับสนกังวลใจ
........เมื่อมีใครถามหา "อนาคต"
........."จะอยู่เพื่ออะไร?" ใจเราถาม
..........ฝันงดงามปานใดใจกำหนด
...........ไขว่คว้าหวังรางเลือนเหมือนประชด
............ยังเก็บกดบางสิ่ง..ไม่นิ่งพอ
............ปณิธานครั้งใหม่ตั้งใจว่า
..............สักปีหน้าได้ไหม..ใจมันขอ
...............อนาคตจดจำคำว่า "รอ"
................กลายเป็นอนางออยู่ต่อไป
..................ฝันเจ้าเอยฝันคว้างกลางอากาศ
...................กี่ครั้งวาดก็เพียรมาเขียนใหม่
....................กี่ครั้งที่ฝันดับกับหัวใจ
.....................ฝันกี่ครั้งก็ได้...ไม่ต้องนับ
......................จวบจนถึงวันนี้..หกปีกว่า
.......................วันเวลาผ่านไปไม่หวนกลับ
.........................หลากเรื่องราวร้ายดีที่ได้รับ
...........................คงคุ้มกับ"ตีนกา" ที่มาเยือน
8 เมษายน 2549 01:43 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
มื้อแลงว่างบ่?
รับช่วงต่อบริหารบ้านเมืองหน่อย
เราชาวไร่ชาวนาตั้งตาคอย
สมานรอยร้าวฉานบ้านเมืองนี้
ที่ผ่านมาล้วนเห็นคนเด่นดัง
เข้ามานั่งพูดจาด่าเสียดสี
ก็ต่างคนต่างใจใช้วจี
ไม่เห็นมีสักหนคนจริงใจ
เพียงเข้ามากอบโกยโดยสะดวก
ดันพรรคพวกให้เด่นให้เป็นใหญ่
พอชั่วครู่แตกคอก็ออกไป
ทนอยู่ได้ก็ทนให้คนชัง
ไม่ต้องการคนเก่งกาจมาดสุขุม
ไม่เอาเจ้าบุญทุ่มกลุ่มเงินถัง
ไม่อยากพบไม่อยากเห็นคนเด่นดัง
เข้ามานั่งวาดวางสร้างวิมาน
ขอคนที่จริงใจและใสซื่อ
คนร่วมมือร่วมจิตรมิตรสมาน
ไม่สร้างภาพลวงคนเป็นผลงาน
มาประสานรอยร้าวชาวประชา
มื้อแลงว่างบ่?
รับช่วงต่อตอนแย่แก้ปัญหา
เป็นนาย-กอ*รอวันคั่นเวลา
รอจนกว่าเห็นคนดีที่จริงใจ