23 สิงหาคม 2548 18:22 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
น้ำท่วม...รวมทุกข์...ยุคเข็ญ
ที่เห็น...ทั่วแคว้น...แผ่นหล้า
สายน้ำ...ซ้ำซัด...พัดพา
เพียงธาร...น้ำตา...บ่าริน
กี่เดือน...กี่ปี...ที่สร้าง
ท้องทุ่ง...ยุ้งฉาง...พังสิ้น
สวนป่า...นาดำ...ทำกิน
พังภินท์...ดินถล่ม...จมแล้ว
เหลือซาก...ฝากรอย...หงอยเหงา
หน้าเศร้า...โหยหิว...เป็นทิวแถว
ดอกเบี้ย...บานเด่น...เป็นแนว
ข่มแวว...ตาหม่น...คนทุกข์
วาดหวัง...ตั้งใจ...ไว้ว่า
ข้าวกล้า...สมบูรณ์...พูนสุข
พฤษภา...ฟ้าหม่น...ฝนชุก
เร่งรุก...หว่านดำ...ทำนา
ความหวัง...พังทลาย...กับสายน้ำ
ฟ้าหม่น...ฝนซ้ำ...น้ำบ่า
สูญสิ้น...พืชพรรณ...ธัญญา
ไยฟ้า...รุนแรง...แกล้งกัน
ใครซับ...น้ำตา...คราทุกข์
เล่นมุข...เตรียมพร้อม...กล่อมขวัญ
สร้างเขื่อน...ใหญ่น้อย...ร้อยพัน
ฤากั้น...น้ำตา...ชาวนาไทย
ขอเป็นกำลังใจน้อย ๆ สำหรับผู้ประสบอุทกภัยครับ
19 สิงหาคม 2548 19:48 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
๑เมืองทมิฬถิ่นแคว้น ความคาว
แฉโฉ่ชนโฉดฉาว ชั่วช้า
ทำผิดบ่าติดดาว ดูเด่น
คิดข่มคนราวข้า เข่นผู้ถูกขัง
๒ ปิดบังพรางเรื่องแท้ เท็จจริง
กุเรื่องมาพาดพิง กล่าวอ้าง
ทำผิดบ่ติติง นายบ่าว
ผิว่าเป็นเราบ้าง ห่อนพร้องฤาไหว
๓ ญาติใครใครย่อมรู้ รักแพง
ใครฆ่ายำทำแกง ก่ายก้าว
โกงกาจเก่งกำแหง หาญห่าม แท้เฮย
(หมู) หมู่หากโหดห้าว หั่นให้หอบโหย
๔ โดยเกณฑ์กฎหมู่แท้ คิดทำ
พึงกริ่งเกรงกฎกรรม ก่อไว้
ธรณีจู่จองจำ จวนจ่อ จบแฮ
บาปแห่งชนโฉดไซร้ ส่งฟ้องโลกันตร์
17 สิงหาคม 2548 15:32 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
ก่อรูปเข้มเต็มร่างอย่างมีหวัง
แรงพลังครั้งนั้นดันให้ถึง
ยั้งไม่หยุด..ฉุดไม่อยู่..กูจะดึง
หวังวันหนึ่งมือคว้าฟ้าและดาว
จึงไม่ฟังซุ่มเสียงคนเคียงข้าง
กี่เส้นทางก็ไม่เดินจะเหินหาว
พุ่งทะยานหาญกล้าโน่นฟ้าพราว
จะมัวก้าวย่างย่ำอยู่ทำไม
จะหยุดยั้งรั้งรอต่ออีกหรือ
สองฝ่ามือจะกรำกร้านสักปานไหน
ติดปีกฝันทุกขั้วของหัวใจ
สู่เส้นชัยวันทองของชีวิต
พึงรับรู้รสหวานการเสพฝัน
ไว้เผื่อวันทุกข์ระทมขมสนิท
พึงรับรู้รสโอชาก่อนยาพิษ
หมู่มวลมิตรอาจซ่อนเร้นเป็นศัตรู
ไม่มีสิ่งจีรังดังเราคาด
เคยผงาดอย่างที่เห็นและเป็นอยู่
เคยเป็นดาวเด่นดวงอาจร่วงพรู
เคยเยี่ยมยุทธสุดกู่สู่สามัญ
จึงเหลือเพียงความขื่นของคืนเหงา
เสพความเศร้า(มี)เพียงตนคนปลอบขวัญ
อาจขมขื่นกลืนกล้ำเหลือรำพัน
ลุถึงวัน..รับทราบ..ภาพลวงตา
9 สิงหาคม 2548 23:41 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
วันแม่......
คงมิใช่เพียงแค่แม่ของฉัน
ให้ลูกเห็นเน้นย้ำความสำคัญ
ว่าทุกวันให้ลูกรู้รักบูชา
เพราะโลกไม่งดงามตามที่หวัง
ตราบชีพยังพลังแรงแสวงหา
ด้วยสายใยพันผูกเลี้ยงลูกยา
เมื่อชีวาไม่สิ้นต้องดิ้นไป
จึงไม่อาจปฏิเสธว่าเพศแม่
มิใช่แค่ยอดหญิงผู้ยิ่งใหญ่
หน้าที่แม่ดูแลลูกผูกดวงใจ
บ้างก็ใช้แรงกายอย่างชายชาญ
เราจึงคุ้นกับภาพหญิงหาบเร่
เดินโซเซหอบกายาขายอาหาร
บ่าหาบกระบุงไว้ด้วยไม้คาน
ส่วนดวงมานหาบทุกข์ท้นล้นรำพัน
อาจเห็นแม่ขายแรงแสวงโชค
ผู้อ่อนโลกถูกล่าฆ่าอาสัญ
เป็นเหยื่อกามแก้ขัดพวกกลัดมัน
อาจรอวันสิ้นโศกด้วยโรคร้าย
วันแม่....................
อย่ามองแต่แม่ตนคนทั้งหลาย
ยังมีแม่อีกมากลำบากกาย
หากสบายให้จุนเจือเอื้ออาทร
3 สิงหาคม 2548 13:29 น.
ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
สาวหมอลำ........
เริงระบำรำร่ายส่ายเอวฟ้อน
เจรจาภาษาลาวกล่าวคำกลอน
ลีลาอ่อนช้อยชดดูงดงาม
นุ่งแพรพรรรณวับวาวพราวระยับ
ยิ้มให้กับฝูงชนดูล้นหลาม
แต่งหน้าตาขำคมสมมุตินาม
เล่นไปตามตำนานนิทานไทย
เป็นธิดาราชินีมียศศักดิ์
โฉมงามนักใครเห็นเป็นหลงใหล
เสกสมรสกับเจ้าชายในดวงใจ
จอมผไททั้งสองครองนคร
ชีวิตจริง...สาวหมอลำ
ต้องตรากตรำดิ้นรนจนเหนื่อยอ่อน
ด้วยผืนนาแตกระแหงแล้งและร้อน
จึงจำจรจากนามาร้อง--ลำ
คือเสี้ยวหนึ่งของเด็กสาวชาวอีสาน
ที่ขับขานเริงรื่นทุกคืนค่ำ
ท่วงทำนองแคนรับขับลำนำ
ทุกถ้อยคำกลั่นกรองร้องจากใจ
แม้ลำบากยากจนแสนทนทุกข์
แต่ต้องสุขบนเวทีชีวิตใหม่
เงินทุกบาททุกสตางค์ท่านจ้างไป
แทนมาลัยคล้องคอ...สาวหมอลำ