7 เมษายน 2552 14:38 น.
ครูพิม
แผลบ่มพิษฤทธิ์กล้าจนล้าแล้ว
ใจดุจแก้วมีแววหมองต้องขื่นขม
กี่เจ็บช้ำกล้ำกลืนฝืนระทม
หลายเรื่องจมตรมช้ำทนกล้ำกลืน
แผลบ่มพิษจิตหมองร่ำร้องไห้
น้ำตาไหลรินรดหมดความชื่น
สะอึกกักเก็บกำล้มทั้งยืน
บอกใจฝืนคืนค่ำกลั้นน้ำตา
แผลบ่มพิษจิตพังยังหม่นหมอง
แต่ครรลองของใจยังไม่กล้า
เจ็บและช้ำย้ำจินต์จนชินชา
รอเวลายาแก้แผลลบเลือน
แผลเป็นร้ายคล้ายย้ำจดจำแล้ว
แผลส่อแววบ่มเพาะเกาะเสมือน
แผลเก่าเก่าย้ำใจคล้ายบอกเตือน
แผลปนเปื้อนน้ำตาคราระทม
นัยรอยคำไหนเล่าเฝ้าลบแผล
พอจะแก้แผลช้ำระกำขม
อยากลบเลือนแผลร้ายกับสายลม
แต่กับจมบ่มแผลแก้ไม่คลาย
รอยแผลเก่าเฝ้าลบกลบรอยแผล
ใจยังแพ้แค่สะกิดเกิดพิษหลาย
เกิดภาพหลอนหลอกใจไปจนตาย
แผลพิษร้าย..ใครหนอ..พอลบเลือน..
๗ เมษายน ๒๕๕๒
4 เมษายน 2552 23:11 น.
ครูพิม
หม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล
องค์ประธานค่ะ..
รินน้ำใจให้เด็กดอยผู้คอยรัก
คอยเติมตักน้ำใจเยื่อใยฝัน
บนเขาสูงเฉียดฟ้าร่วมฝ่าฟัน
ร่วมช่วยปั้นฝันงามนามกองทุน
ท่ามขุนเขาเนาไพรในป่ากว้าง
ไร้ลาดยางสร้างถึงจึงคลุกฝุ่น
คลุ้งตลอดเส้นทางยังเจือจุน
ความอบอุ่นจากน้ำใจให้เป็นทาน
รวมกำลังศรัทธาฝ่าทุกข์เข็ญ
ความลำเค็ญเห็นใจได้ประสาน
คนละมือช่วยกันสร้างสรรค์งาน
เด็กกันดารบ้านไพรได้เล่าเรียน
คนละบาทสองบาทอาจน้อยนิด
แต่ด้วยจิตหวังให้ได้อ่านเขียน
เก็บทุนรวมส่งไว้ใช้พากเพียร
ดุจดังเทียนเวียนต้องส่องพนา
รินน้ำใจให้เด็กดอยผู้ด้อยนัก
รินความรักห่วงใยสู่ปลายฟ้า
รินความห่วงส่งช่วยด้วยเมตตา
รินศรัทธามาช่วยด้วยยินดี
เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่หยิบยื่น
ช่วยให้ฟื้นความยากหลากวิถี
มาเถิดมาช่วยกันปั้นดินดี
เป็นบุญพลีมอบไว้ให้แผ่นดิน
คุณเมทนี บูรณศิริ ประธารกรรมการหาทุน..
และจัดผ้าป่า..กองทุนมหากุศล..ร่วมกับครูจันทร์แรม ศิริคำฟู
๔ มีนาคม ๒๕๕๒