24 ตุลาคม 2550 17:14 น.
ครูพิม
ทำผิดใดใหญ่หลวงทั้งปวงนั้น
จะลบมันทิ้งไปจากใจนี้
จะลืมสิ้นที่เคยทำช้ำฤดี
เพราะใจพลีวางแทบแนบใจเธอ
ที่พี่เคยนอกใจกันเมื่อวันก่อน
จะร้าวรอนแค่ไหนไม่อาจเผลอ
จะยังคงรักมั่นรอวันเจอ
ที่เสนอจะสนองตามต้องการ
ที่พี่เคยโกหกกันฉันจับได้
จะไม่ใส่ใจจำทำใจหาญ
จะหมั่นสร้างศรัทธาใจให้เบ่งบาน
เรื่องวันวานลืมแล้ว...ไม่ใส่ใจ
ที่เคยเที่ยวเหลวไหลไม่กลับบ้าน
จะประสานรอยร้าวเฝ้าแก้ไข
พร้อมจะช่วยดูแลและห่วงใย
แล้วก้าวไปข้างหน้าอย่ากังวล
พี่จะเป็นเช่นไรก็ไม่เกี่ยง
ใจคงเที่ยงมั่นใจไม่สับสน
ทุกเรื่องราวที่สองเราเฝ้าผจญ
จะก้าวพ้นพร้อมกัน...ฉันมั่นใจ..
๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๐
23 ตุลาคม 2550 10:03 น.
ครูพิม
ท่ามกลางความแห้งแล้งแห่งชีวิต
เพียงน้อยนิดความช่วยเหลือเพื่อแก้ไข
ก่ออบอุ่นก่อหวังกำลังใจ
ให้ชีวิตก้าวไปได้อีกวัน
ท่ามกลางความโหดร้ายในชีวิต
เพียงน้อยนิดข้อแนะนำทำให้ฝัน
ที่ลางเลือนแจ่มกระจ่างขึ้นกลางครัน
จะเป็นวันต่อใจให้อีกคน
ท่ามกลางความผิดหวังที่พลั้งเผลอ
เพียงมีเธอปลอบขวัญวันสับสน
ปลุกใจตื่นรู้แจ้งแห่งกมล
จะเป็นคนรู้ถูกผิดคิดให้เป็น
ท่ามกลางความโหยหาหิวอาหาร
เพียงให้ทานให้ช่วยตนพ้นยากเข็ญ
ให้แนวทางแห่งชีวิตคิดเช้าเย็น
ไม่หลีกเร้นเลือกสบายใจสู้งาน
ท่ามกลางความหม่นหมองนั่งร้องไห้
เพียงมีใครเช็ดน้ำตาคอยประสาน
ใคร่ช่วยเหลือปันน้ำใจให้เป็นทาน
โลกตระการดอกไมตรี....มีทั่วไทย....
๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๐
20 ตุลาคม 2550 13:07 น.
ครูพิม
ฝากลมถามข่าวใจเป็นไรบ้าง
บนเส้นทางชีวิตลิขิตฝัน
มีปัญหาใดใดในช่วงวัน
ส่งข่าวกันมาบ้างอย่าร้างนาน
หนาวบ้างไหมใจถามตามเป็นห่วง
เหมือนตกบ่วงห่วงใยใจประสาน
แม้นจะร้างหางหายไปตามกาล
อยากพบพานเป็นแค่ฝันเท่านั้นพอ
หิวหรือยังใจเอ๋ยช่วยเอ่ยไข
ทำอะไรดูเวลานะน้องขอ
ถึงเวลาทานข้าวเฝ้าพะนอ
อยากเคลียคลอเป็นแค่ฝันนั้นสุขใจ
เจ็บและท้อต่องานน้องพาลห่วง
ไม่อาจทวงความหวานพาลอ่อนไหว
ทำได้เพียงหวงหาแสนอาลัย
มองไกลไกลพอได้เห็นเช่นวันวาน
จะไม่พ้อต่อว่าให้ว้าวุ่น
ไม่ข้องขุ่นเข้าใจจึงไขขาน
เวลาเปลี่ยนเวียนไปได้พบพาน
ความอ่อนหวานคนพาลเปลี่ยน...เรียนรู้แล้ว..
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๐
17 ตุลาคม 2550 17:29 น.
ครูพิม
ด้วยรักและห่วงใยมิใช่หรือ
ที่เป็นสื่อความผิดเพราะคิดถึง
หากไม่รักมีหรือจะดื้อดึง
เธอมิซึ้งมิต่อว่าแต่อย่าชัง
ต้องการเชื้อเหมือนไฟแต่ไม่ร้อน
เย็นแต่ซ่อนด้วยพิษเพราะผิดหวัง
บางคราวเคลิ้มเกือบจะลืมภวังค์
รักได้ฝังรากเสน่ห์ตามเวลา
เมื่อหัวใจต่อหัวใจฉ่ำไอฝัน
ตราบนิรันดร์ยิ้มละไมอาบใบหน้า
หากหัวใจต่อหัวใจไม่นำพา
น้ำจากตาก็จะเปื้อนแก้มเหมือนกัน
มาลัยหลากสี่รุ้งพาดคุ้งฟ้า
จูบโลมล้าทิวอ้อก็หวิวสั่น
สภาพเราเหมือนกระต่ายที่หมายจันทร์
ทุกทุกวันเคียงเดือนเฉือนหัวใจ
สองมิติคือหัวใจบอกใครยาก
จิตหนึ่งมากอาทรและอ่อนไหว
ส่วนหนึ่งจิตอุ่นเอื้อจากเยื่อใย
สรุปได้คือยังมีกังวล
เพื่อเธอ..คนที่แสนดี
ฉันจะมีความรักอีกสักหน
หากผิดหวังใครอย่าเห็นความเป็นคน
เจ็บจะทนกรีดหัวใจให้เจ็บจำ
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๐
15 ตุลาคม 2550 22:50 น.
ครูพิม
ตะวันลับเหลี่ยมเขาเห็นดาวเหนือ
มีน้ำใจจุนเจือเมื่ออับแสง
คอยส่องทางยามยากหากสำแดง
มืดกลับแจ้งแสงสว่าง ณ กลางใจ
เมื่อมีรักย่อมมีเกลียดเบียดให้เห็น
รักซ่อนเร้นร้าวเจ็บเกินเก็บไหว
อยากอวดอ้างเป็นเจ้าของอยู่ร่ำไป
จึงเหมือนไร้สิ้นศักดิ์จักตรอมตรม
เมื่อมีพบมีพรากจากเป็นคู่
ใจย่อมรู้สักวันนั้นขื่นขม
เมื่อรักร้างห่างหายมิได้ชม
หักจิตข่มเถิดหนาอย่าเศร้านาน
มีหัวเราะร้องไห้ใครย่อมเห็น
เป็นประเด็นธรรมดานะตาหวาน
มีสุขทุกข์คู่กันนั้นเนิ่นนาน
อาจพบพานสักวันนั้นแน่นอน
ตั้งสติตริตรองครองจิตมั่น
คืนและวันรู้หมดเป็นบทสอน
อย่าหวั่นไหวกับการณ์พาลสั่นคลอน
พึงสังวร..เอาไว้..ใช้เตือนตน..
๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๐