21 กันยายน 2554 22:54 น.
ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน
"สุกุณา โบยบิน คืนถิ่นฐาน
จากมานาน บินกลับ สู่จุดหมาย
อัสดง เย็นนี้ ไม่กลับกลาย
บินผ่านสาย ฝนตก กระหน่ำทรวง
สายฝนตก รดริน ผ่านหน้าต่าง
ใจอ้างว้าง เหน็ดเหนื่อย เมื่อยหนักหนา
มองออกไป นอกหน้าต่าง ฤทัยพา
เห็นสกุณา โผยบิน คืนสู่รัง
สกุณา เหิลลม ต้องลมฝน
เหมือนใจคน ย่อมท้อ ละอองแสง
คิดถึงนาง สุกุณา ข้าไร้แรง
อยากให้เจ้า คืนถิ่น บินกลับมา
สกุณา ยอดรัก กลับมาเถิด
มาบ้านเกิด คืนถิ่น ญาติโหยหา
มีญาติมิตร รอคอย เจ้าแก้วตา
คืนกลับมา สู่ถิ่น รักสองเรา"
21 กันยายน 2554 22:51 น.
ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน
"ในราตรี ไร้ดาว พราวพร่างแสง
มีแมลง โบยบิน ถิ่นอักษร
มาร่ายมนต์ คารมรัก เป็นบทกลอน
ให้กมลแก้ว เข้านอน ในนิทรา
กมลแก้ว ยอดรัก จงพักผ่อน
อย่าออดอ้อน คารม ฤทัยหวาน
พรุ้งนี้เช้า แก้วตา ต้องทำงาน
และกลับบ้าน สู่ชะอำ ถิ่นสองเรา
โอ้ยอดรัก กมลแก้ว จงนอนเถิด
พี่จะเปิด เพลงกล่อม ให้หลับฝัน
ในอ้อมกอด พี่นี้ จนถึงจันทร์
จะนอนฝัน หลับไหล ใจคู่เคียง
ใจเอ๋ยใจ ร้อยเรียง เคียงค่ารัก
ใจพร้อมภักดิ์ ร่วมเรียง เคียงคู่หมอน
จะมีกมลแก้ว มีพี่ มาอ้อนวอน
มีเราสอง รักมั่น ชั่วนิรันดร์"
21 กันยายน 2554 22:48 น.
ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน
๏ดอกราตรี เบิกบาน บนลานกว้าง
ที่เว้งว้าง ท่ามกลาง สายลมฝน
ดอกราตรี ส่งกลิ่น หอมกมล
พาให้เห็น หน้ามล ในราตรี
๏ดอกราตรี มีมนต์ขลัง อยู่ที่กลิ่น
เหมือนใจคน มีกลิ่นย่อม สิ้นศรี
ใช้ชีวิต ท่ามกลาง มนต์ราตรี
ให้ชีวี มีสุข ทุกข์ประดัง
๏ในราตรี นี้มี ความแสนเศร้า
มันมีเงา แมลงแฝง ความหวัง
ในกรุงเทพ เมืองใหญ่ มาประดัง
แมลงหวัง รายได้ ในราตรี
๏จะยืนสู้ ท้าลม ต้องลมฝน
ใจสู้ทน หาราย ได้เพื่อศักดิ์ศรี
มาหล่อเลี้ยง ชีวิต ที่แสนดี
ให้เกิดมี ตามกิเลส หนอใจคน๏
..ครูทิพย์วลี กวีมีรัก..
๒๙/๖/๑๑
21 กันยายน 2554 22:43 น.
ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน
๐ แว่วเสียงขลุ่ย ขับขาน กังวานก้อง
ฤทัยต้อง ล่องลอย คอยความฝัน
เสียงขลุ่ยหวาน เคียงคู่ สู้เงาจันทร์
ฟังเสียงนั้น ไพเราะ เสนาะทรวง
๐แว่วเสียงขลุ่ย บรรเลง เพลงอ่อนหวาน
คือตำนาน ขลุ่ยครวญ ให้ลุ่มหลง
เสียงขลุ่ยผิว ล่องลอย ชวนภิรมย์
สุขเสพสม เพลงหวาน ตำนานไพร
๐ฟังเสียงขลุ่ย ไพเราะ เสนาะจิต
ตามนิมิตร คามรม พรหมอักษร
ฟังเสียงขลุ่ย นึกถึง หน้าบังอร
ชวนสังวร ร่วมจิต คิดถึงนาง
๐ฟังเสียงขลุ่ย ครวญลม คารมรัก
ฤทัยพัก ล่องลอย คอยจุดหมาย
สื่อความรัก มาล้น คำทำนาย
คือความหมาย บรรเลง เพลงเรียกนางฯ
๐ยินเสียงขลุ่ย หวานหวิว แผ่วหวิวหวาน
กล่อมดวงมาน หวนไห้ ชวนไห้หวน
ยินเสียงขลุ่ย ครวญคิด ใจคิดครวญ
เสียงขลุ่ยทวน ลาจากแล้ว แก้วจากลาฯ
21 กันยายน 2554 22:40 น.
ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน
๐มองท้องฟ้า คราดึก พิรุณสาด
หทัยมาศ ล่องลอย ตามไอฝน
มาชะล้าง ความโศก ชราดล
อุ่นไอฝน ปนหวาน สะท้านทรวง
๐มองฟ้าแลบ แสบโศก เศร้าสุขสันต์
ฤทัยทัน ล่วงหล่น กลางเวหา
มองฟ้าแลบ แสบโศก ถึงลูกตา
เหม่อมองฟ้า คราใด คิดถึงนวล
๐พิรุณหยด หยาดฟ้า ครายามดึก
ฤทัยนึก ถึงอนงค์ คงสงสัย
เพลานี้ อนงค์ ไปกลับใคร
ดวงฤทัย ข้าตรม สุดฤดี
๐พิรุณหยด หยาดฟ้า น้ำตาไหล
ดวงฤทัย เศร้าโศก ตรมหนักหนา
มองพิรุณ หยดลง ใต้หลังคา
ฤทัยข้า หวลคิด ถึงแต่นาง
๐หอมไอดิน กลิ่นฝน ละล่องลิ่ว
ฤหัยปลิว ล่องลอย คลอยความฝัน
นั่งหลับตา มองฟ้า แลดวงจันทร์
หอมกลิ่นฝัน ไอฝน ปนน้ำตาฯ