11 พฤศจิกายน 2548 14:57 น.
ครูดอยไกลแสนไกล
๐ ณ เบื้องนั้นฝ้าฟ้าก็ปรากฎ
เป็นซีดสีกำหนดสลดแสง
พิโรธผ่านเถ้าเหลวเป็นเปลวแดง
ร่านจำแลงเผาฟ้าเพลานั้น
๐ นาฏกรรมบรรเลงก่อเพลงเมฆ
สลัวเสกหม่นดำขึ้นห้ำหั่น
สรวงสลายแหลกเหลวเป็นเปลวควัน
ดาวสวรรค์ตกกระแทกด้วยแหลกร้อน
๐ อสุนีฟาดแสงสีแดงฉาน
เข้ารุกรานโลกลึกจนสึกกร่อน
ยอดหญ้าเริ่มลุกไหม้เป็นไฟฟอน
ผีเสื้อนอนปีกขาดทบธาตุไฟ
๐ อุกาบาตกราดกรอบที่ขอบโลก
ผลึกโศกซากนิ่งเคยยิ่งใหญ่
มาซบซ่อนกร่อนศพสยบใน
ธาราไหลกระทบฝั่งดั่งกรวดดิน
๐ องศาแสงแรงร้อนแล้วอ่อนซีด
ปะทุกรีดเปลวสารแม้ลานหิน
สาปแสง...หรุบหรี่ เป็นสีนิล
ค่อยค่อยสิ้นแผดจ้าแห่งตาวัน
๐ คือจุดดับดวงดาวรอยเก่าก่อน
แทรกวูบซ้อนขณะไหม้จนไหวหวั่น
อนธกาลครอบคลุมเกิดกลุ่มควัน
โลก สวรรค์ หลอมสิ้นเป็นดินแดง
๐ ณ เบื้องนั้นฝ้าฟ้าไม่ปรากฎ
ตะวันผู้กำหนดสลดแสง
ไร้อุ่นสีส่องสารล้านจำแลง
ฝุ่นแห่งฤกษ์ดาวก็เปล่าร้าง
11 พฤศจิกายน 2548 14:39 น.
ครูดอยไกลแสนไกล
เจ้าความรักที่ไขว่คว้าหากันนี้
คนหนึ่งมีหลายครั้งจะได้ไหม
บางคนเที่ยวบอกรักแจกทั่วไป
หรือรักได้หลายคนพร้อมพร้อมกัน
ความผูกพันที่ให้ไว้ไม่อาจแยก
จ่ายจำแนกให้เห็นด้วยเสกสรร
ตกแต่งปั้นไว้เพื่อลวงหลอกกัน
ตามไม่ทันความคิดจริตหญิง