17 พฤศจิกายน 2548 18:44 น.
คนไร้ถิ่น
จากเสียงสู่เสียงผ่านวจี
จากเกาะช้างสู่คีรีเมฆสาย
จากไกลกลับมาใกล้กาย
จากชายเคยมอง...รู้จักกัน
รอยยิ้มชักนำให้มาพบ
เมื่อประสบพบเจอช่างสุขสันต์
จากแค่มองจนมารู้จักกัน
คนคนนี้ช่างผูกพันเหลือเกิน
ปากก็บอกว่ามันไม่เคยคิด
ใจก็ปกปิดไว้ด้วยขัดเขิน
ทุกๆ ทีมีแต่แกล้งทำหมางเมิน
แต่ลับหลังใจสะเทิ้นอ่อนระทวย
ใจเอ๋ยใจน้อยคอยรัก
เขาโทษเจ้านักว่าไม่สวย
แถมหยิ่งยโสทำสำรวย
ยังกะคนสวยเขาทำกัน
ประสบพบครั้งแรกที่วงเหล้า
นั่งกินดื่มกับเขาดูสุขสันต์
แต่เดทแรกในวงเหล้าใครทำกัน
เปลี่ยนเป็นร้านไอศกรีมมันก็คงดี
คำก็พี่สองคำก็เรียกพี่
มันไม่มีหัวใจหรือไงหนอ
ปล่อยให้พี่คนนี้ต้องเฝ้ารอ
เมื่อไหร่น้องจะโทรมาขอ.....พนันบอล
ได้ทานไอศกรีมสมใจอยาก
มีค่ามากช่างสุขสมสโมสร
เขานั่งใกล้ใจเราแทบขาดรอน
เหตุเพราะบังอรสุดจะห้ามใจ
อ้าว...คราวนี้ไปนั่งร้านพิซซ่า
ใจคิดว่าวันนี้คงสดใส
กินของฟรีเราชอบแหมถูกใจ
แต่ทันใด...เข่าทรุดแทบวางวาย
เขาเดินมากับใครหนอ
เคล้าคลอสนิทชิดมิห่างหาย
แสดงความเป็นเจ้าของดูมากมาย
ส่วนเราคนห่างกายได้แค่มอง
จากวันนั้นเราจึงได้เรียนรู้
เขาที่เราเห็นอยู่มีเจ้าของ
คนคนนี้มีหญิงตีตราจอง
เราแค่มองคงต้องก้าวออกมา
ห้ามใจไปได้สักพัก
จะไม่โทร...ไม่รัก...ไม่ห่วงหา
แต่เฮ้อ...ทำไงได้ล่ะแก้วตา
สุดท้ายก็โทรหา...เหมือนเคย
อดกลั้น...อดกลั้น...อดกลั้น
แต่นานไปใจไม่อาจจะอยู่เฉย
ขอมีน้องเป็นหนุ่มจากเมืองเลย
โธ่ใจเอ๋ยขอแค่น้องหน้าตาดี
^-^ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับเพื่อนของผู้เขียน ซึ่งผู้เขียนแต่งขึ้นเป็นอุทาหรณ์และเพื่อกระตุ้นอารมณ์ขันอันเจ็บปวดให้แก่เพื่อนของผู้เขียน ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับผู้อ่านท่านใดบ้างหรือปล่าว...พวกรักเด็ก
15 ตุลาคม 2548 21:53 น.
คนไร้ถิ่น
จากเสียงสู่เสียงผ่านวจี
จากเกาะช้างสู่คีรีเมฆสาย
จากไกลกลับมาใกล้กาย
จากชายเคยมอง...รู้จักกัน
รอยยิ้มชักนำให้มาพบ
เมื่อประสบพบเจอช่างสุขสันต์
จากแค่มองจนมารู้จักกัน
คนคนนี้ช่างผูกพันเหลือเกิน
ปากก็บอกว่ามันไม่เคยคิด
ใจก็ปกปิดไว้ด้วยขัดเขิน
ทุกๆ ทีมีแต่แกล้งทำหมางเมิน
แต่ลับหลังใจสะเทิ้นอ่อนระทวย
ใจเอ๋ยใจน้อยคอยรัก
เขาโทษเจ้านักว่าไม่สวย
แถมหยิ่งยโสทำสำรวย
ยังกะคนสวยเขาทำกัน
ประสบพบครั้งแรกที่วงเหล้า
นั่งกินดื่มกับเขาดูสุขสันต์
แต่เดทแรกในวงเหล้าใครทำกัน
เปลี่ยนเป็นร้านไอศกรีมมันก็คงดี
คำก็พี่สองคำก็เรียกพี่
มันไม่มีหัวใจหรือไงหนอ
ปล่อยให้พี่คนนี้ต้องเฝ้ารอ
เมื่อไหร่น้องจะโทรมาขอ.....พนันบอล
5 ตุลาคม 2548 14:52 น.
คนไร้ถิ่น
ยืนมองแสงดาวค่ำคืน
ลอยเด่นบนผืนฟ้ากว้างใหญ่
พื้นทรายทอดยาวแสนไกล
ทะเลไหลดิ่งลึกพสุธา
มองดูดวงดาวจรัสแสง
ใจเราอ่อนแรงเหนื่อยล้า
พื้นทรายทอดยาวเหมือนธารา
ที่หลั่งรินลงมาอาบแก้มเรา
ทะเลลึกไหลนิ่งดิ่งเวหา
ทะเลใจอ่อนล้าเพราะขาดเขา
เหลียวหลัง...มองหน้า...มีแต่เรา
ที่เฝ้าเดียวดายมิคลายอาดูร
ตอนนี้เธอมองดาวอยู่บ้างไหม
หรือหัวใจตอนนี้กลายเป็นศูนย์
ดวงดาวที่เคยสวยกลับไม่เพิ่มพูน
แสงหรี่ริบดับสูญจากใจเธอ
4 ตุลาคม 2548 15:33 น.
คนไร้ถิ่น
อาจแค่คิดไปเองว่าไม่เหลือใคร
มองข้ามไปกับความใส่ใจของคนอื่น
ยังจำอยู่กับวันและคืน
ที่เคยตื่นขึ้นมาพร้อมความรักจากเธอ
ไม่รู้มาก่อนว่ามันมีเพียงน้อยนิด
ยังคิดว่ามันมีค่าเสมอ
สำหรับความรักที่ได้จากเธอ
แม้ไม่เลิศเลอแต่ก็ดูมากมาย
จนวันที่ต้องเจ็บช้ำ
เมื่อรักที่มีเริ่มห่างหาย
รักน้อยนิดที่เคยคิดว่ามากมาย
สุดท้ายไม่เหลือแม้เสี้ยวใจ
เวลาเคยเป็นสิ่งที่มีค่า
เมื่อเธออยู่ต่อหน้าช่างสดใส
แต่บัดนี้เวลาช่างผ่านไว
เมื่อหัวใจเธอผ่านไปไม่ย้อนคืน
23 กันยายน 2548 17:10 น.
คนไร้ถิ่น
สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด คือ สิ่งที่จะได้มาอย่างยากลำบากมากที่สุด...มือที่ไขว่คว้าเท่าไหร่มันก็ยิ่งไกลออกไปจนเอื้อมไม่ถึง...แล้วทำไมจึงอยากได้มันมา...ยิ่งเธออยากได้มันมากเท่าไหร ความรู้สึกอยากจะมีสิ่งนั้นไว้ในครอบครองมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ไม่ใช่เหรอ? ....เธออยากได้มันเพราะอะไร...เพราะอยากรู้สึกว่าตนเองชนะ...เพราะอยากทำให้คนอื่นเห็นคุณค่า...เพราะอยากทำให้คนอื่นสนใจ...หรือเพราะใจเธอเองเรียกร้องออกมาจากข้างในจริงๆ แล้วถาหากเธอได้มันมาแล้วเธอจะรักษามันไว้ได้นานแค่ไหนกัน...เธอจะพอแค่นั้น หยุดแค่ตรงนั้นหรือปล่าว ...ถ้าคำตอบ คือ ไม่...แล้วเธอจะอยากได้มันมาทำไม ในเมื่อในท้ายที่สุดเธอก็ต้องทิ้งมันไปอยู่ดี