26 มีนาคม 2547 17:18 น.
คนไต่ดาว
ในขั้นแรกของการทำความรู้จักกัน
คำถามที่ได้ยินบ่อยคำถามหนึ่งคือ
ทำงานอะไร... อยู่ที่ไหน
ซึ่งเกือบทุกครั้ง ฉันมักจะเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้นตรงตรง (หากไม่จำเป็นต้องตอบ)
หน้าที่การงานของฉันไม่ได้เป็นความลับที่บอกใครไม่ได้
แต่ฉันไม่ต้องการให้เรื่องงานของฉันเป็นหัวข้อของการสนทนา
ไม่ว่าจะเป็นในเชิงบวกหรือลบก็ตาม
เพราะฉันไม่ต้องการให้เรื่องงานมาเป็นสิ่งบ่งชี้ความแตกต่าง
เหมือนในหลายหลายด้าน ที่คนส่วนใหญ่มักนำมาเปรียบเทียบกัน
คนหลายคน มักจะแบ่งแยกว่างานบางอย่างมีเกียรติ และบางอย่างไม่มีเกียรติ
หรือถึงขั้นไม่น่าคบหาคนที่ประกอบอาชีพนั้นนั้น
...สำหรับฉัน ...งานทุกอย่าง ทุกอาชีพที่สุจริต ย่อมมีเกียรติในตัวของมันเอง
ไม่ว่าจะเป็นคนกวาดถนน กรรมกร ชาวนา พ่อค้าหาบเร่ ฯลฯ เขาต่างก็มีเกียรติ
เพราะคนที่เป็นผู้แบ่งแยกความมีเกียรติ
หรือแม้แต่ฉัน ก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้
ฉันจึงถือว่าเขาเหล่านั้นมีเกียรติที่น่านับถือ
และเกียรติก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว ยึดถือเพียงในกลุ่มหนึ่ง สังคมหนึ่ง
คนที่มีเกียรติ มีคนนับหน้าถือตาในสังคมหนึ่ง
อาจดูไร้ค่า น่ารังเกียจ ในอีกสังคมหนึ่งก็ได้
เพราะเกียรติไม่ใช่มาตรวัดหรือเป็นสิ่งบ่งชี้ ความเป็นตัวตน ความดีงามของคนหนึ่งคนใด
เกียรติอยู่ที่การยอมรับในความต่าง
ความเป็นตัวตนของบุคคลผู้นั้น
เกียรติไม่ใช่ขั้นบันได ที่ให้คุณปีนป่ายขึ้นไปเพื่อที่จะได้มองลงมา และเหยียดหยามใครต่อใครว่าต่ำกว่า...
11 มีนาคม 2547 13:27 น.
คนไต่ดาว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึก
คุณน่ะเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน
นั่นสินะ ไม่มีใครเค้าโทรมาเวลานี้กันหรอก
ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าเป็นคุณ
บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกยังไง
เพราะฉันเองคิดว่าเราคงจะจบกันไปตั้งแต่ครั้งนั้นแล้ว
อย่าถามให้ฟังลำบากหูเลยว่าเป็นอย่างไร คิดถึงกันหรือเปล่า
ถามตัวเองดูก่อนดีกว่าไหม
ว่ามีความรู้สึกอย่างที่ถามฉันหรือเปล่า
นอกจากคำว่านึกถึงกันก็โทรมา ไม่นึกถึงก็ไม่โทร
อย่างที่ชอบกรอกหูให้ได้ยินบ่อยบ่อย
อยากจะถามคุณบ้างเหมือนกัน
ว่าย้อนกลับมาทำไม
แต่สถานภาพในการคบหากัน
ไม่เอื้อให้ฉันทำอย่างนั้นได้
เพราะจากที่คุณเคยบอกว่า
ระหว่างเรา ไม่ต้องเป็นพี่ เป็นน้อง หรือเป็นเพื่อน
แต่ให้เราเป็นคนรู้จักกัน
วันนี้ฉันคิดว่า เราควรจะเติมคำว่าเคยเข้าไปด้วยซ้ำ
แปลกใจตัวเองเหมือนกัน
ที่วันนี้ใจที่เคยโผเผหวั่นไหวได้ง่ายง่าย
ไปกับคำเพียงไม่กี่คำของคุณ
กลับมา นิ่ง ได้อย่างที่ควรจะเป็นได้นานแล้ว
ไม่มีความรู้สึกอื่นใดที่อยากจะบอกออกไป
นอกจากว่า ไปดูแล คนข้างตัวให้มากมากดีกว่า
เพราะผู้หญิงทุกคน คงไม่มีใครมีความสุขแน่
ถ้าได้รู้ว่าคนของเธอ ติดต่อกับผู้หญิงอื่น
สำหรับฉัน ไม่ว่าคุณจะกลับมาหรือไม่
ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย
อย่าเอาเวลาอันน้อยนิด มานึกถึงกันเลยจะดีกว่า
ลืมกันให้หมด ตัดขาดกันไปเลยก็ไม่เป็นไร
เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดกับผู้หญิงอีกคน
และฉันก็ได้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้มองโลกกว้างบ้าง
สายลมที่(เคย)หวังดี กลุ่มนั้น มันพัดผ่านไปแล้วล่ะ
เพราะคุณเองที่กวัดไกวไสส่งมันด้วยน้ำคำ
ศาลาที่คุณเคยนั่งพักยามเหนื่อยล้า
มันก็ผุพังไปแล้วเช่นกัน
ครั้งนี้ขอให้จบกันจริงจริงเถิดนะ คนเคยรู้จัก
11 มีนาคม 2547 12:37 น.
คนไต่ดาว
คนหลายคน...
ร่ำร้องให้ผู้อื่นเปิดเผยตัวตนให้ตนเองได้รับรู้
และเมื่อผู้ใดทำตามคำเรียกร้องนั้นได้มากที่สุด
เขาเรียกบุคคลผู้นั้นว่าเป็นผู้ที่มีความจริงใจในการคบหา
ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้น
บนโลกใบนี้คงไม่มีใครเป็นผู้ที่จริงใจอย่างแท้จริงหรอก
เพราะคนทุกคนต่างก็มีเรื่องที่ไม่อาจเปิดเผย
หรือสามารถให้รับรู้ได้เพียงไม่กี่คน
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับรู้ในเรื่องนั้นนั้น
ดังนั้น...สำหรับฉัน
ความจริงใจ จึงไม่ใช่เรื่องของการแสดงออก
หรือการบอกเล่า พูดคุยเพียงไม่กี่ประโยค
แต่ความจริงใจคือความหวังดีในการคบหากันต่างหาก