15 ตุลาคม 2547 18:19 น.
คนเมืองลิง
เทศกาลงานบุญหนุนนำส่ง
ใจมั่นคงตรงสงบพบความหวัง
ก้าวต่อไปไม่ท้อก่อพลัง
ไม่หยุดยั้งสร้างกุศลวังวนบุญ
เทศกาลกินเจหันเหหา
กินบรรดาพืชผักมากเกื้อหนุน
หยุดเนื้อสัตว์ตัดบาปทราบผลบุญ
เพื่อเป็นทุนหนุนใจให้แด่ตัว
ขึ้นหนึ่งค่ำถึงเก้าค่ำย้ำเดือนเก้า
วันที่เราลดบาปอาบบุญทั่ว
กินมังสวิรัติขจัดใจคลายหมองมัว
ใจล้อมรั้วอภัยทานสานผลบุญ
เจ หรือ ไจ แปลว่าไม่มีของคาว หรือหมายถึง ไม่มีเนื้อสัตว์รวมทั้งพืชบางชนิดที่เชื่อกันว่าเกิดมาจากสัตว์ เขาจะเขียนคำว่าไจเป็นอักษรสีแดงบนธงสีเหลือง สีแดง หมายถึง ความเป็นสิริมงคล ส่วนสีเหลือง หมายถึง คุณความดี หรือจะหมายถึงผู้ทรงศีลก็ได้ ธงเจจึงมีความหมายค่อนข้างดี ในช่วงเทศกาลกินเจพวกเราจึงเห็นธงเจลักษณะนี้ติดกันเต็มพรืดไปหมด
นอกจากจะห้ามเนื้อสัตว์ การกินเจยังห้ามผักที่มีกลิ่นฉุนบางชนิด โดยถือว่าเป็นของคาว ได้แก่ หอม กระเทียม หลักเกียว (ผักคล้ายกระเทียมขนาดเล็ก) กุยช่าย (ผักไม้กวาด) ผักชี เครื่องเทศที่เผ็ดร้อน ใบยาสูบ โดยเชื่อว่าผักเหล่านี้ เป็นของคาวที่เพิ่มความกำหนัด บางคนเขาเชื่อว่า พืชผักกลุ่มนี้เกิดมาจากเลือดของสัตว์ ซึ่งก็เป็นอีกตำนานหนึ่ง จากหลายๆ ตำนานของจีน การเป็นประเทศเก่าแก่ ก็ต้องมีตำนานหลายตำนานอย่างนี้แหละ
ในบรรดาพืชผักต้องห้ามเหล่านี้ เขาถือกันว่า กระเทียมทำลายธาตุไฟทำให้เกิดปัญหากับหัวใจ หัวหอมทำลายธาตุน้ำก่อปัญหากับไต กุยช่ายทำลายธาตุไม้ สร้างปัญหาให้ตับ หลักเกียวทำลายธาตุดิน สร้างปัญหาให้กับม้าม และใบยาสูบทำลายธาตุโลหะ สร้างปัญหาให้กับปอด
10 ตุลาคม 2547 15:03 น.
คนเมืองลิง
ปวดแปลบปร่าอ่อนล้าอุราร้าว
วิงวอนเว้าเอาใจให้ฮึกเหิม
ปลิดปลิวเปล่าใจเราเหงาอย่างเดิม
สร้างสุขเสริมเติมใจพ่ายแพ้ตัว
หมดแรงหวังพังทลายสลายแล้ว
เคยเพริศแพร้วแวววับกลับสลัว
สิ้นสว่างทางใจใกล้มืดมัว
หลงลืมตัวยึดติดชีวิตตรม
ถ้าปล่อยว่างวางใจคงไร้ทุกข์
ล้มจะลุกปลุกใจคลายขื่นขม
ผูกใจติดกับเขาเรายิ่งตรม
เลิกโง่งมคารมลวงทวงใจคืน
30 กันยายน 2547 23:09 น.
คนเมืองลิง
สับสน อลหม่าน
วิ่งพล่าน ประสานเสียง
บ้านใกล้ และเรือนเคียง
วิ่งเลี่ยง อลวน
ใจสั่น และงันงก
ตระหนก เป็นล้นพ้น
ล้มลุก จนลุกลน
ทุกคน ล้วนวุ่นวาย
สิ่งใด ไหนใกล้มือ
หยิบถือ ขึ้นมาได้
ไม่นึก ถึงสิ่งใด
คว้าได้ ไว้เป็นพอ
น้ำตา ก็รินไหล
วิ่งไป ทั้งใจท้อ
ไฟไหม้ ไม่รั้งรอ
ลามต่อ ถึงบ้านเรา
หมดแรง และสิ้นหวัง
ความหลัง ครั้งก่อนเก่า
บ้านรัก พำนักเรา
แต่เยาว์ มามอดไป
เหลือเพียง ซากความหลัง
ยากยั้ง น้ำตาได้
ทุกคน ล้วนเสียใจ
ร่ำไห้ ไม่อายกัน
26 กันยายน 2547 17:49 น.
คนเมืองลิง
รักซ้อนรักสลักใจใครจะรู้
เขามีคู่คลอเคล้าเป็นเจ้าของ
รักซ้อนรักต้องหักจิตที่คิดครอง
แม้เศร้าหมองครองช้ำเพียงลำพัง
ของของใครใครก็หวงห่วงแน่นัก
จำหาญหักรักรุ่มกลบหลุมฝัง
จะไม่รักจะไม่คิดไม่ปิดบัง
รักพลาดพลั้งครั้งนี้เป็นตำรา
รักเราสองต้องพบจุดจบแล้ว
รักเปลี่ยนแนวรักซ้อนซ่อนปัญหา
รักซ้อนรักรักยอกย้อนซ่อนน้ำตา
ครหาแย่งคู่เขาแสนเศร้าใจ
อันตัวเราแสนประเสริฐเกิดเป็นหญิง
ควรจะหยิ่งในศักดิ์ศรีมีไฉน
ไม่ขอมีรักสองรองจากใคร
หากชายใดมีเจ้าของไม่ต้องการ
รู้ทั้งรู้.......เขามีคู่อยู่ก็รัก
รู้ทั้งรู้.......ต้องอกหักรักหน่ายแหนง
รู้ทั้งรู้.......ก็คงรักไม่เปลี่ยนแปลง
รู้ทั้งรู้.......ให้ยื้อแย่งทำไม่ลง
ชู้ทางใจ.....ใครเล่าพิพากษา
ชู้ทางใจ.....ใครหนาอยากลุ่มหลง
ชู้ทางใจ......ใครเล่าแทบปลิดปลง
ชู้ทางใจ.......ใครหลงคงช้ำทรวง
21 กันยายน 2547 14:25 น.
คนเมืองลิง
กฏแห่งกรรมนำพามาก่อเกิด
บ้างประเสริฐบ้างกำเนิดเดรัจฉาน
แล้วแต่ผลบาปบุญกุศลทาน
นำวิญญาณมาพานพบกับวังวน
เป็นมนุษย์สุดประเสริฐเลิศกว่าสัตว์
ไยประหัตประหารกันพรั่นฉงน
สัตว์ฆ่าสัตว์เพื่ออาหารประทังตน
คนฆ่าคนเพียงแค่นำอำนาจตัว
อันอำนาจขันแข่งแย่งชิงได้
แข่งเรือพายได้แน่เขารู้ทั่ว
มีพระเดชไร้พระคุณค้ำจุนตัว
หลงเมามัวบ้าอำนาจขาดคุณธรรม
เร่งสร้างบุญคุณธรรมค้ำจุนโลก
คราวิโยคโศกคืนไม่กลืนกล้ำ
บุญกุศลผลทานนิพพานนำ
สันติธรรมล้ำเลิศประเสริฐคุณ