5 กรกฎาคม 2553 10:50 น.
คนเดียวกัน
...ณ ตอนนี้ คิดอะไร ยังไม่ออก
ต้องขอบอก ก่อนว่า เดี๋ยวมาไหม่
ยังแต่งกลอน ไม่จบ ครบความนัย
เดี๋ยวมาไหม่ บอกเจ้า ให้เฝ้าคอย
จะวันนี้ หรือวันไหน ยังไม่รู้
แม่โฉมตรู โปรดรอ อย่าท้อถอย
แต่ยังไง ก็ต้องมา หาเนื้อกลอย
อย่าใจน้อย หน่ายหนี จากพี่ไป
จะยังไง พี่ยา ต้องมาแน่
ขอวอนแม่ โฉมยงค์ อย่าสงสัย
จะเขียนกลอน มาส่ง ให้ตรงใจ
อาจต้องใช้ เวลา สี่ห้าวัน
ณ ตอนนี้ คิดอะไร ไม่ถนัด
มันอึดอัด ในใจ ให้โศกศัลย์
กลอนไม่ดี พี่ไม่กล้า มาประชัน
เดี๋ยวมาไหม่ แล้วกัน นะขวัญตา
4 กรกฎาคม 2553 08:51 น.
คนเดียวกัน
...พระจันทร์ ส่งยิ้ม เอียงอาย
พระพาย กระซิบ คำหวาน
ดารา กระพริบ ส่งสัญญาณ
ประสาน ดวงใจ ใฝ่ผะวง
...เหงาเฉียบ เงียบเฉา เศร้าช้ำ
คืนค่ำ ด่ำดื่ม ลืมหลง
ในป่า นาดอน นอนดง
ค่ำลง คงร่ำ คำรักไป
...ป่าใหญ่ ไพรลึก ดึกสงัด
ลมหนาว พราวพัด สะบัดไหว
ต้องอยู่ ผู้เดียว เปลี่ยวใจ
รู้ไหม ไพรสัณฑ์ นั้นน่ากลัว
...สิงสา ราสัตว์ สารพัดพิษ
มืดมิด ทิศทาง ลางสลัว
เสียงกรอบแกรบ แว่บเห็น เป็นผีชัวร์
ใจระรัว หัวหด หมดมาดแมน
2 กรกฎาคม 2553 19:17 น.
คนเดียวกัน
...แม้จะมี ซีดีเถื่อน อยู่เกลื่อนทุ่ง
ผมก็มุ่ง ซื้อซีดี มีลิขสิทธิ์
ได้ช่วยเหลือ เจือจุน ผู้ครุ่นคิด
เขาผลิต ผลงาน ผ่านลำเค็ญ
...กว่าจะคิด แต่ละคำ แสนลำบาก
แสนเหนื่อยยาก เพียงใด อยากให้เห็น
กว่าจะผ่าน กลั่นกรอง มองประเด็น
กว่าจะเป็น งานศิลป์ ให้ยินยล
กว่าจะคิด สรรค์สร้าง ได้อย่างนี้
กี่สิบปี ที่ผ่าน การฝึกฝน
ซื้อตำรา หาความรู้ คู่กมล
วิเคราะห์ผล จนเห็น เป็นงานดี
ผมไม่ซื้อ ซีดีเถื่อน ที่เกลื่อนกล่น
ให้มัวหม่น สารพัด ความบัดสี
ขอวิงวอน ชาวไทย คิดให้ดี
ก่อนไม่มี งานใด ให้ชื่นชม
2 กรกฎาคม 2553 08:36 น.
คนเดียวกัน
...นั่งอ่านกลอน ช้ำช้ำ เหงาซ้ำซาก
อยากบอกมาก น้ำตา มันจะไหล
นั่งอ่านกลอน เหงาเหงา ไม่เท่าไร
เหมือนหัวใจ จะพังภินท์ สิ้นกำลัง
...เมื่อความรัก เข้ามา อุราระรื่น
ทกวันคืน สดใส ในความหวัง
โลกเป็นสี ชมพู ดูสวยจัง
มีพลัง ผลักดัน สู่ฝันไกล
...เมื่อความรัก จากลา อุราสลด
ห่อเหี่ยวหด อดสู ดูไฉน
จะเขียนกลอน นั่งเทียน วกเวียนไป
เขียนเขียนให้ ความจบ ครบวาจา
...จะครวญคำ พร่ำเพ้อ ก็เบลอใบ้
สำนวนไม่ เริงรมย์ สมภาษา
เมื่อรู้ดี ว่าใจ ไม่นำพา
จบดีกว่า เท่านี้ ไม่มีแรง(ใจ)
ไม่ไหวแล้วอยากจะร้องให้
30 มิถุนายน 2553 17:11 น.
คนเดียวกัน
...เมื่อแรกพบ สบตา คู่น่ารัก
ได้รู้จัก ชิดใกล้ พาใจฝัน
ได้พูดจา ประสามิตร จิตสัมพันธ์
ยิ่งนานวัน ยิ่งครวญ หวนคำนึง
...จนมาพบ ว่าใจ เริ่มไหวหวั่น
สุดจะกลั้น ดวงจิต ไม่คิดถึง
ทุกค่ำเช้า เฝ้าละเมอ เพ้อรำพึง
วันนี้จึง แต่งกลอน วอนเห็นใจ
อยากจะรู้ จึงถาม ถึงความจริง
แม่ยอดหญิง คิดเห็น เป็นไฉน
ตอบฉันให้ กระจ่าง ว่าอย่างไร
แม้ไม่ใช่ ก็จะได้ เตรียมใจทัน
เธอบอกเรา พูกพัน แค่ฉันท์เพื่อน
และย้ำเตือน อย่าเชือนแช คิดแปรผัน
เอามือคลำ ที่อก ตกใจพลัน!
มันหักขาด สะบั้น! แล้วทันใด