3 กุมภาพันธ์ 2552 13:14 น.
คนสุดท้อง
ใครที่รู้จัก
หลายครั้งที่เราให้ใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จักมาอาศัยอยู่ในร่างกายเราจนทำให้เราขาดความเป็นตัวเองนะเคยมีไหม ยกตัวอย่างคำพูดบ้างคำที่เราใช้โดยไม่รู้สึกตัว โดยการถามคนอื่นเขานะว่ารู้จักไหมว่าเราเป็นใคร หรือรู้จักเราน้อยไปเสียแล้ว ขนาดตัวเราเองยังไปถามคนอื่นว่าเราเป็นใคร ตัวเราเองยังรู้จักตัวเองน้อยไปต้องถามคนอื่นเขาแล้วจะมีประโยชน์อะไรหากเราต้องใช้ชีวิตเพื่อที่จะดิ้นรนต่อสู้ทุกวันนี้ทำให้ใครก็ไม่รู้ที่อาศัยอยู่ในตัวเราโดยเราไม่รู้จักและให้มาครอบงำเราทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวเราไปมันคงไม่คุ้มค่าเลยจริงไหม
หากวันนี้เราไม่มาเรียนรู้ว่าใครอยู่ในร่างกายเราหรือจิตวิญญาณของใครอาศัยอยู่ในร่างกายเรา ลมหายใจที่เราใช้อยู่ไม่ใช่ของเราเพราะเมื่อไรก็ตามที่จิตของเราจากไปนั้นหมายถึงเราจะไม่เหลือแม้แต่ลมหายใจไม่ต้องพูดถึงร่างกายเลยเพราะเรารู้ๆกันอยู่แล้ว และอีกนานไหมที่เราจะเข้าใจว่าทำไมหนอเราต้องทำอะไรเพื่อใครตั้งมากมายโดยที่ไม่ใช่ตัวเองแบบนี้
ทำไมเราต้องซื้อของมากมายกว่าเงินที่มีในกระเป๋าเพราะเราเป็นคนใช่ไหม โอเค ใช่ และคนมีความต้องการมากใช่ไหม ใช่เพราะเราอยู่ในสังคม และทุกวันนี้สังคมสวยและหล่อไหม เอออันนี้ซิน่าคิด เพราะยังไม่เห็นตัวตนของสังคมออกมานั่งตอบหรือพูดกับเราเลยตั้งแต่เกิดมา มีแต่คนพูดถึงสังคม ๆๆ จนชินหูไปหมดแล้วนะ หากว่าความอยากเป็นคน ดังนั้นความอยากก็เป็นคนที่เราไม่รู้จัก มาอาศัยร่างกายของเราที่เราต้องดูแลและทำความสะอาดเพื่อให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิต แต่เราต้องมาทำตามความอยากที่มีอิทธิพลสั่งให้เราเป็นหนี้ได้เพราะความสวยงามสั่งให้เราหนี้ใช้เงินเกินเงินเดือนหรือรายรับที่เราได้ เออ มันเก่งกว่าเราที่เป็นคนดูแลรับผิดชอบ เพราะแม้แต่ร่างกายเราป่วยเราต้องจ่ายเงินเรานะ ความอยากได้ อยากมี เนี่ยได้แล้วสุขแท้แค่ไหนหรือว่าเอามากองไว้ให้มาก ๆ ก็พอเพื่อให้คนอื่นมองเราแล้วสวยหล่อมีเงินแต่จิตวิญญาณของเราในร่างกายกับมีความทุกข์อยู่ตลอดเวลาที่จะต้องหาเงินมาจ่ายให้กับความอยากและความต้องการเหล่านี้อยู่ตลอดซึ่งเมื่อไรก็ตามที่มองว่าความอยากเหล่านี้ไม่จำเป็นแล้วล่ะก็มันจะถูกผลักไสจากจิตเราและไม่มีโอกาสมาสร้างความเป็นใหญ่เป็นโตในร่างกายที่เรารับผิดชอบได้เราจะรู้ว่าเมื่อนั้นเราได้กลับคืนสู่ร่างกายของเราที่พ่อแม่มอบให้และถนอมเลี้ยงดูแลมาอย่างดี เป็นไงละถึงเวลาที่เราจะให้มันออกจากตัวเราได้หรือยังกับใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก เพราะบ้างครั้งใครก็ไม่รู้ที่เรารู้จักก็ไม่ได้บอกว่าเป็นคนที่รู้จักเรา เช่นกัน ใครบางคนที่เราไม่รู้จักอาจทำหรือไม่อาจทำให้เรารู้ค่าของการสร้างแรงบันดาลใจได้ดีเท่ากับเราสร้างเอง ก็เพราะเขาเป็นใครไม่รู้ตั้งแต่ต้นนั่นแหละ.............
หรือแม้แต่หากใครสักคนเป็นคนที่เรารู้จัก และเรามองว่าเขาแสนดี แต่ในบ้างครั้งความแสนดีของเขา อาจจะ หรือไม่อาจจะที่เป็นคนสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราเดินตามได้จนชีวิตประสบความสำเร็จ หมายถึง ความดีที่มากพอของคนที่รู้จัก อาจจะหรือไม่อาจะ ฆ่าเราให้ตายในความรู้สึกที่แสนดี เพราะเราถูกเขามองแล้ววางไว้ดั่งเช่นที่เรามองเขาแล้วหรือยัง คนดีที่รู้จัก........................ .....................................
3 กุมภาพันธ์ 2552 00:29 น.
คนสุดท้อง
พี่เล่าว่าพี่มีครอบครัวและมีลูกมีความพันผูกมาก็หลายปี
แต่ว่าวันนี้ตัวพี่ขอเล่าว่ามีน้ำตาแห่งความจริงเพราะพี่ทิ้ง
ทุกสิ่งจริงเป็นเรื่องนิ่งที่ยาวนานคือมีบาปที่ระรานทั้งสองฝ่าย
เพราะพี่เป็นผู้ชายที่ไร้ค่าชอบตีด่าหน้าเมียแสนเพลียนัก
ความจริงเพราะพี่รักผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่มีเจ้าของเพียงแต่
หญิงนั้นเคยเป็นที่หมายปองของพี่อดีตมาและเธอมีค่าเป็น
ถึงเมียพี่เชียวนะจะบอกให้แต่ชีวิตพี่กลับกลายมาแต่งงาน
ทิ้งกันไปแปดปีก่อนจนพี่นี้มีครอบครัวที่สั่นคลอนพี่จึง
นอนบอกตัวเองคิดถึงเธอแล้วพี่ก็หาเบอร์โทรติดต่อเธอ
ทุกคืนวันจนตัวพี่ต้องถึงขั้นหย่าร้างกันในเวลาที่ผ่านมา
แต่ตัวเธอกับมีค่าให้พี่ชมเป็นที่สมและหมายปองแต่ตัว
เธอก็บอกกับพี่ให้อย่างน่าปองว่าเธอลองคบกันอยู่ไม่
ได้แต่งงานพี่จึงมีทางเลือกให้กับเธอถึงสองหนว่าคนอย่าง
พี่ไม่ยอมตรมแย่งของคนอื่นมาเชยชมแบบนี้อย่างแน่นอน
แต่เพราะเป็นคำวอนของตัวพี่สั่งใจให้โทรหาและบอกเธอ
ให้รับเมตตาพี่แต่พอมาถึงวันนี้พี่กลับมีฤดีรักเขาเต็มล้นทรวง
แต่คำลวงของเขาไม่เป็นจริงเพราะเขาไม่ได้ทิ้งหรือวิ่งเพื่อ
แยกทางเพียงแต่เขามีเงางานที่ต้องจากกันอยู่ไกลแล้วตัวพี่
จะต้องทำอย่างไรถึงจะใช้ชีวิตที่ดีไม่ต้องถูกใครมาตีว่า
แย่งของเขาโดยที่เราไม่ต้องเสียความรู้สึกพี่นั่งนึกถึงน้องจึง
ขอเล่าเผื่อจะเป็นทางออกที่บางเบาพี่ไม่เศร้าไม่เจ็บไม่ปวดใจ
ขอให้น้องคนสุดท้องช่วยเล่าไปเผื่อมีใครจะช่วยใจของพี่พ้นทางตัน
30 มกราคม 2552 16:02 น.
คนสุดท้อง
ชีวิตมีอะไรแปลกๆให้เรียนรู้ระหว่างวิทยาศาสตร์กับสิ่งลี้ลับแต่วันนี้ฉันอยากจะเล่าผ่านเรื่องราวในตัวละครหนึ่งในชีวิตที่เราได้พบและสัมผัสเธอมีชื่อว่าน้อย และความที่น้อยเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกมาตั้งแต่เด็กทำให้โตขึ้นเธอสามารถสื่อกับสิ่งเล้นรับได้โดยไม่อาจบอกให้ใครรับเชื่อได้เธอจึงเป็นเหมือนคนบ้าที่เสียสติสำหรับคนที่ไม่เชื่อเรื่องเทพหรือองค์เจ้าเข้าทรงต่าง ๆ แต่สำหรับน้อยไม่ใช่องค์เจ้าเข้าทรงแต่เธอเพียงมีวิญญาณนำทางที่เป็นบรรพบุรุษของเธอที่เสียชีวิตไปแล้วคุ้มครองปกป้องรักษาและสอนให้เธอนั่งสมาธิเพื่อให้รู้ถึงใจคนที่เข้ามาอยู่ใกล้ตัวเธอว่ามีความคิดกับเธออย่างไรซึ่งวิญญาณนำทางได้พาแม่น้อยนั่งสมาธิโดยไม่กินไม่ทานอะไรเลยเป็นเวลาสามวันทำให้ลูกชายของแม่น้อยเกิดเป็นห่วงเพราะต้องไปโรงเรียนจึงได้โทรหาพี่ชายของแม่น้อยให้มาดูแม่ให้ด้วยแต่ในทางตรงกันข้ามของแม่น้อยเมื่อออกจากสมาธิมาแล้วก็ทำให้รู้ถว่านั่งการสมาธินั้นเป็นเรื่องกำหนดจิตที่เรียนรู้อยากมากจะบอกได้ว่าเป็นนิวรณ์ในสำนึกเดิมๆที่อยู่ในจิตใจของแม่น้อยตลอดมาเพราะการหย่าร้างกับข้อหาที่ถูกล่าวถึงว่าแม่น้อยมีชู้กับสามีคนปัจจุบันซึ่งในความจริงไม่ใช่เลยเพียงแต่เขาทั้งสองเคยมีอดีตที่รู้จักกันในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์เท่านั้นเองและเมื่อแม่น้อยผ่านนิวรณ์ไปจนถึงสมถะวิปัสสนาได้ทำให้แม่น้อยค้นพบความเชื่อในตัวเองว่าสุดท้ายไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามเราสามารถรู้จักตัวเองได้คือสิ่งที่ดีที่สุดนั้นคือกูคือกูตัวกูของกูนั่นเป็นจริงที่สุดแล้วเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานพี่ชายของแม่น้อยก็ได้พาแม่น้อยไปหาหมอโรงพยาบาลที่บ้าแห่งหนึ่งและที่นี้เองทำให้แม่น้อยได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนบ้าจริงๆเป็นอย่างไรมันแสนเศร้าสำหรับคนที่ต้องมารักษาตัวเองให้หายแต่กลับพบพยาบาลที่รักษาไม่ได้มีจรรยาบรรณสักเท่าไรทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของเรื่อง บ้า
แม่น้อยถูกสั่งให้เปลี่ยนเสื้อผ้าโดยให้ถอดเสื้อผ้าชั้นในทั้งหมดออกแม้แต่กางเกงในแต่แม่น้อยก็ปฏิเสธเพราะทำใจไม่ได้หากถอดทุกอย่างหมดเช่นนี้แล้วเกิดอะไรขึ้นหมายถึงเชื้อโรคต่างๆ แล้วจะทำอย่างไรใครรับผิดชอบแม่น้อยก็เลยบอกว่าไม่ถอด
พยาบาลผู้ช่วย บอกว่าอ้าวคุณทอดเสื้อผ้าได้แล้วทอดตรงนี้เลย
แม่น้อย ก็ตอบว่าไม่ถอดตรงนี้ขอไปถอดในห้องน้ำก็แล้วกัน
พยาบาลผู้ช่วย ก็เลยต้องทำใจแล้วบอกให้รีบถอดแต่แม่น้อยก็ถอดกางเกงให้หนึ่งตัวซึ่งเป็นกางเกงที่ผู้หญิงทุกคนมักชอบใส่เราเรียกว่าสเตย์นั่นเองให้ไปแล้วแม่น้อยก็ยังเหลือกางเกงในไว้ที่พยาบาลสั่งให้ถอดแล้วพอตอนเย็นก็เข้าแถวไปรับเสื้อผ้าแล้วแม่น้อยก็ไปเข้าแถวเหมือนกันเชื่อหรือไม่พยาบาลสั่งให้แม่น้อยไปอาบน้ำพร้อมกับผู้ป่วยโรคจิตคนอื่น ๆโดยถอดเสื้อผ้าอาบแบบกลางแจ้งแม่น้อยก็ไม่อาบแม่น้อยบอกว่าขอเสิ้อผ้าให้ฉันจะไป
อาบในห้องน้ำเท่านั้นเองพยาบาลผู้ช่วยก็มองหน้าแบบไม่พอใจแต่แม่น้อยก็ไม่สนใจ
เพราะให้อาบน้ำแบบนั้นแม่น้อยก็รับไม่ได้เช่นเดียวกัน แล้วแม่น้อยก็รู้สึกสงสารตัวเองททำไมต้องถูกพี่ชายนำเข้ามาไว้ในที่นี้โดยไม่ถามความจริงกับแม่น้อยสักคำว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะแม่น้อยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพี่ชายพามาไว้ที่แบบนี้ในความจริงพี่ชายต้องการรักษาแม่น้อยเพราะคิดว่าแม่น้อยถอดเสื้อผ้าเป็นบ้าไม่กินข้าวไม่อาบน้ำและที่สำคัญ
ถอดเสื้อผ้าอยู่กลางถนนซึ่งความจริงไม่ได้เป็นแบบที่พี่ชายได้ยินจากคำบอกเล่าของพี่สะใภ้ซึ่งมาหาในขณะที่แม่น้อยสมาธิเสร็จเรียบร้อยแล้วนั่นเองเป็นคนเล่าความเท็จทำให้แม่น้อยของเราต้องไปอาศัยอยุ่ในสถานบำบัดจิตแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่มาของแม่น้อยในชีวิตเลยทีเดียว
ฉันบ้าจริงเรอะ แม่น้อยต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลและที่นั่นเองก็มีการกำหนดสีเสื้อผ้ามากมายเพื่อแสดงอาการของผู้ป่วยว่าอยุ่ในชั้นไหนเชื่อไหมค่ะว่าแม่น้อยอยู่ในการรักษาของพยาบาลถึงสี่วันแต่แม่น้อยก็ออกจากโรงพยาบาลเพราะด้วยหน้าที่การงานของแม่น้อยต้องรอคอยให้กลับไปทำเพราะหลายคนเชื่อว่าแม่น้อยบ้าจริงจะทำงานได้อย่างไรเพราะพี่สะใภ้ได้ไปบอกที่ทำงานของแม่น้อยอย่างมากมายถึงอาการบ้าของแม่น้อยนี้เป็นเรื่องเล่ามากกว่าน่ะค่ะเพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพที่ชัดตามไปด้วยว่าคนบ้าที่ไม่บ้ากลับคนไม่บ้าแต่ทำจิตเหมือนคนบ้าไร้สติในการไตร่ตรองการพูดในแต่ละเรื่องสามารถทำร้ายคนอื่นให้ล้มละลายทางอิสรภาพความเป็นอยู่และการงานพร้อมทั้งครอบครัวและความเป็นอยู่ในสังคมของเขาได้เช่นเดียวกัน จิตใจสำคัญมากอย่าทำร้ายใครเพียงเพราะคุณมีกิเสสในอารมณ์ของการตอบสนองในรูปรสกลิ่นเสียงความต้องการอยากได้ในอรรถรสที่เต็มไปด้วยการนินทาให้ร้ายกับคนอื่นเพราะมันจะทำให้ชีวิตของคุณขาดเพื่อนและคนที่รักคุณเพราะคุณไม่สามารถให้ความรักกับใครได้แม้แต่การรักตัวคุณเอง
หากเพียงวันนี้ขอเป็นกำลังใจให้แม่น้อยปรับทุกข์ทางจิตใจได้
ขอให้แม่น้อยมีเทพและวิญญาณนำทางคุ้มครองให้แม่น้อยปลอดภัย
จากความคิดความเชื่อที่จะมาทำร้ายจิตใจและความเป็นคนของแม่น้อยไป
ไม่มีอันตรายใดๆจะเข้ามาผูกพันเชื่อมโยงให้จิตใจของแม่น้อยต้องเศร้าซมอีกต่อไป
ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นใครก็ตามขอให้เขามีโชคลาภทางการงานและการเงิน
ขอให้เขาได้เดินในเส้นทางที่ถูกต้องบ้างเขาจะได้มีบ้านไว้เป็นที่พักพิงยามแก่เฒ่า
ไม่ต้องคอยบอกใจให้เฝ้าว่าใครเขาจะมาเอาของๆเรากลับคืนไปเพราะไม่มีใคร
อยากได้ของๆใครหากไม่ใช่ของเขาคืนกลับไปสู่ในจิตใจที่เคยยืนว่าตนคืนเขาไปแล้วหรือยัง อย่าคิดอย่ามานั่งว่าความชังเกิดจากใครหากเจ้าไม่ว่าใครเจ้าจะได้คืนดีกันเพราะ
เจ้าช่างลำนำให้กับคำกับผัวเองว่าเจ้าเป็นคนเก่งไม่นักเลงว่าใครๆแต่ว่าความจริงไซร์เจ้ามีใจ
ว่าเจ้าใหญ่ไม่รู้ดีแต่ว่าในวจีเจ้ากลับมีคำนินทาสิ่งใดเจ้ามุสามันจะมาราวีใจขอให้แม่น้อยได้โปรดอภัยในสิ่งใดที่นางทำเพราะนางมีน้ำคำว่าร้ายคืนขอให้ผัวเจ้ายืนกลับไปคืนสู่อ้อมใจให้เขามีรายได้สร้างกำไรให้พ้นกรรมให้เขามีน้ำคำที่ต้องจำคือรักเมียอย่าใส่ว่าความเมียเขาจะเสียเมียกลับไปแต่ว่าความจริงที่ยิ่งใหญ่คือเขารักแม่น้อยมากด้วยใจขอให้เขาเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ในเร็ววันสิ่งใดที่แม่น้อยได้รำพันขอให้แม่น้อยรับสิ่งนั้นกลับคืนไปให้แม่น้อยมีรายได้มีโชคชัยจากลาภลอยมีสุขทุกวันคอยมีร่างน้อยคอยติดตามให้ร่างน้อยเป็นเหมือนยามคอยติดตามทุกภพไปให้ร่างน้อยที่สดใสเป็นหัวใจคอยดูแลให้แม่น้อยที่ร่างแก่กลับไปแลอยู่ภพบนส่งจิตแม่น้อยคนกลับสู่ตนในร่างเดิมนับแต่นี้เอย สวัสดี