27 เมษายน 2552 20:48 น.

บทความแห่งการสื่อสาร

คนสุดท้อง

ข้อความสั้นๆที่อยากถ่ายทอดให้กับคนทำงานที่รักองค์กรด้วยจิตสำนึกทีดีว่าองค์กรให้ปัจจัยอะไรกับความเป็นอยู่ของเราบ้าง 
ความปลอดภัยทางสังคม
ความมั่นคงในทรัพย์สินจากรายได้ที่องค์กรมอบให้
ความมั่นคงทางสติปัญญาและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่สายงานในหน้าที่มอบให้
ความรู้จักรักเพื่อนร่วมงานที่อยู่ใกล้ตัวจนอยู่ไกลตัวเพื่อเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่จะผลักดันให้องค์กรแข็งแกร่ง และก้าวสู่จุดแข็งที่คู่แข่งไม่สามารถทำลายได้
องค์กรมอบขัวญกำลังใจให้กับพนักงานที่ทำงานด้วย เงิน สวัสดิการ หรือสายงานที่พัฒนาและเหมาะสมกับคุณวุฒิและวุฒิภาวะ ส่วนสำคัญเลย คือการเปลี่ยนแปลงหัวใจพนักงานให้รู้ถึงสภาพปัจจุบันขององค์กรว่ามีภาวะกำไรหรือขาดทุก
เพื่อกระตุ้นให้พนักงานได้ร่วมมีส่วนผลักดันให้องค์กรหลุดพ้นจากปัญหาและก้าวไปสู่มาตราฐานที่เป็นตัวชี้วัดในภาพรวมสำคัญมาก 

องค์กรเปรียบได้ดังเรือจ้าง
และคนนำทางต้องรู้เห็น
หากว่าวันนี้คนที่คิดไม่เป็น
ยังลอยเด่นเหนืองานอยู่คนเดียว

แล้วจะเอาน้ำคำไปย้ำกับใครได้
ก็ในเมื่อหัวใจไม่เคยได้ให้คนอื่นเขา
นี่นะหรือคนที่เกี่ยวข้องกับงานองค์การเรา
ชอบทำตัวเก่งเอากับหน้าเจ้าแล้วหลอกคน

หากวันนี้มีใจอยากเขียนบ้าง
วางธุระจากบ้านแล้วขายของ
ก็เพื่อให้คู่แข่งจงเฝ้ามอง
ว่าคนขายของที่ดีต้องดูแล

เหมือนมีพ่อมีแม่ไว้แลเจ้า
และคอยสอดส่องเอาข้าวให้เจ้าเห็น
แต่วันนี้วิถีชีวิตคิดไม่เป็น
เลยมองเห็นผู้อื่นไร้ค่าไม่น่าชม

หากวันนี้คิดดีอย่างไรบอกไม่ได้
แต่คิดรู้เอาไว้ในใจที่เลือนหาย
ว่าคนเรามีแต่น้ำตาเป็นเพื่อนตาย
แต่ละคนก็คล้ายน้ำลายที่เล่นกัน

ชอบเสแสร้งปั่นคำมาอ้างเอ่ย
บอกว่าคนเขาไม่เคยรู้ไม่ได้
แต่ขอบอกว่านี้คืองานแห่งน้ำใจ
ที่ต้องออกขายทำรายได้เพื่อองค์กร

ขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พร่ำสอน
ให้คนเรามีอุทาหรณ์สอนไว้ในใจบ้าง
ไม่ถึงที่วายว่างมองไม่เห็น
แต่วันนี้ได้ความรู้ที่ชัดเจน

ว่าคนเด่นต้องเก่งงานจากหัวใจ


ขอขอบคุณสำหรับโอกาสที่ได้รับจากงานบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ให้น้องต่างสายงานได้ชื่นชม 
ความเหมาะสมในสายงานที่ทำเอย.........

ปิญะภรฬ				
6 เมษายน 2552 18:17 น.

ทางเลือก

คนสุดท้อง

มีครอบครัวเล็กๆหนึ่งครอบครัวที่มีแม่กับลูกอีกสองคนชื่อ ดอกไม้ กับ ต้นไม้
ดอกไม้เป็นเด็กผู้หญิงที่มีอายุ สิบห้า และต้นไม้ มีอายุสิบสี่ ปี ทั้งสองอยู่กับแม่มาตั้งแต่เด็กเพราะ พ่อกับแม่ได้เลิกลากันตั้งแต่ลุกยังอายุได้เพียงห้าหกปีเท่านั้น
ศิลา ได้เลี้ยงลูกทั้งสองด้วยน้ำมือของเธอ และปัญญาของเธอ ซึ่งแน่นอนเธอมักจะถูกสังคมในที่ทำงานนินทากล่าวขานเธอเป็นประจำเสมอเมื่อเธอต้องคบหากับใครสักคนที่เธอคิดว่าเหมาะสมที่จะดูแลเธอได้ แต่โขคแห่งความดิ้นรนเอาตัวรอดของเธอเพื่อจะเลี้ยงลูกทั้งสองให้เดินทางที่ถูกต้องได้นั้นช่างแสนยากเช่นเดียวกัน
เพราะตลอดเวลาทางเลือกของเธอไม่ได้ถูกต้องหนัก เพราะผู้ชายที่เข้ามาหาเธอนั้นล้วนแต่มีครอบครัว ซึ่งทำให้เธอลำบากใจหลายครั้งศิลามักถามตัวเองอยู่เสมอว่าทำไมเธอต้องทำทั้งที่เธอไม่ต้องการ สังคมไม่เคยให้ความเข้าใจกับเธอในเรือ่งนี้มาโดยตลอด แต่อยู่มาวันหนึ่งทางเลือกของเธอเกิดขึ้นระหว่าง ผู้ชายสองคนที่เข้ามาในชีวิตเธอ คือ ผู้ชายทีผ่านการหย่าร้างมา และ อีกคนเป็นผู้ชายที่ให้ความช่วยเหลือเธอมาโดยตลอดเมื่อเธอลำบาก ซึ่งเธอเข้าใจอย่างมากแต่จะทำอย่างไรร
ระหว่างผู้ชายที่ให้ความช่วยเหลือเธอซึ่งเธอก็ไม่เคยทำให้ทางบ้านของเขาลำบากใจและรับรู้ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะลูกของเธอรับรู้ในเรื่องนี้แค่ว่าเขาเป็นผู้ให้ที่มากมายสำหรับเขาทั้งสอง และผู้ชายที่กำลังเข้ามาแต่ศิลาจะอธิบายอย่างไรให้ลูกเข้าใจได้
ว่าแม่ไม่ได้เป็นคนไม่ดีที่จะมีผู้ชายอีกคนเข้ามาในขณะที่แม่ก็ยังมีผู้ชายอีกคน
ซึ่งเรื่องนี้ศิลาลำบากใจมากและสับสนกับทางเลือกที่ถูกต้องแต่จะอธิบายให้ลูกเข้าใจได้อย่างไรกับสิ่งที่เป็นอยู่เดิมซึ่งไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน

ศิลาเริ่มคิดหนักและเมื่อถึงวันหนึงศิลาก็ได้บอกผู้ชายคนแรกแต่เขาไม่ยอมให้เธอไปมีคนอื่นและพยายามจะพูดให้ลูกของศิลาเข้าใจผิดในตัวศิลาทำให้ศิลารู้สึกแย่มมากในความรู้สึกของเธอนั่นเองและเธอก็ได้ตัดสินใจบอกลูกของเธอว่าทุกวันนี้แม่ไม่ได้มีครอบครัวอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและต้นไม้ไม่เข้าใจแม่หรือเปล่าต้นไม้ตอบว่าไม่ นั่นหมายถึงศิลามักคิดแทนลุฏเสมอว่าเธอกลัวลูกจะไม่รักเธอ
แต่ในความเป็นจริงหากลูกเข้าใจในสิ่งที่แม่ทำลูกจะรู้ว่าความรักของพ่อแม่ยิ่งใหญ่แค่ไหนขอให้เทิดทูนความรักของแม่ไว้ให้เหนือธรรมชาติแล้วลูกทุกคนจะรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย เช่นเดียวกัน เมื่อศิลาได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ถูกต้องและเส้นทางนี้เป็นตัวเธองเองเธอเริ่มรู้สึกถึงการอิ่มทางใจว่าอะไรก็ตามหากต้องถูกเ้ลเลือกขอเลือกหนทางที่ถูกต้องถึงมันจะต้องทุกข์และลำบากนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเราไร้สิ้นซึ่งคนที่ดี หรือ สิ่งที่ดีที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตของเราหลายครั้งที่มนุษย์มองตัวเองและสร้างขอบเขตของปัญหาให้แคบเพื่อหนทางแก้ปัญหาของเราก็แคบตามไปด้วยเราก็จะไม่เห็นหนทางเส้นอื่นๆที่พร้อมจะช่วยเราแก้ไขปัญหานั้นให้เราหลุดพ้นไป เมื่อศิลาและลูกเลือกเส้นทางใหม่ที่ถูกต้องไม่ผิดศีลทางพระธรรมชีวิตของเธอจึงได้เริ่มต้นแห่งการทำดีและมีสุขจากถนนสายของคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์ ทางใจมากกว่า ครอบครัวที่สมบูรณ์ทางวัตถุโดยไม่สนใจว่าจะผิดศีลธรรมหรือไม่ นั่นเอง				
17 มีนาคม 2552 20:37 น.

รักพ่อ

คนสุดท้อง

บ้างครั้งความถูกต้องที่อยู่ระหว่างน้ำคำ
ช่างเป็นอะไรที่หนักใจ
เพราะเราต้องเลือกระหว่างสัมพันธภาพที่ดี
แต่ในความสัมพันธ์ที่ดีต้องมีวจีที่กล่าวอย่างถูกต้องเสมอ
แม้วันนี้หากต้องเสียความสมดุลจากใจเธอ
ฉันต้องเผลอยอมเสียเธอไปแน่นอน
ตัวเราเป็นผู้ปฏิบัติงานตามที่เขียน
เหมือนนักเรียนที่ต้องเขียนความจริงอ่าน
หากวันนี้เราไม่มีบทที่ทัดทาน
แล้วการงานของเรานั้นจะเกิดผลงดีอย่างไร
หากว่าใครอยากทำใจให้ยิ่งใหญ่
ก็ต้องใหญ่จากข้างในใจเสมอ
ไม่ใช่คอยกล่าวอ้างงานของเธอ
แล้วละเมอรอแต่ผลงานของใคร

คิดอะไรขอให้คิดใจเป็นบวก
อย่าคิดลวกเอาแต่ได้พ่อไม่สอน
ขอให้ลูกเก็บคำพ่อไปทบทวน
ลูกอย่ารวนในการงานนะลูกเอย

ขอบคุณพ่อที่เคยสอนลูกเสมอ
ลูกไม่เผลอทำหัวใจให้ผิดหนอ
ถึงแม้เพื่อนในการงานจะไม่มอง
ลูกจะขอเป็น เพื่อนครองงานที่ดี

แล้วคอยเก็บหัวใจเลูกเอาไว้บอก
ว่าลูกหลอกใครไม่ได้เสียศักดิ์ศรี
ก็เพราะลูกนั่นเคยถูกพ่อเฆี่ยนตี
ให้ลูกมีวจีที่ดีงาม

คือไม่ถามดูถูกใจใครให้ตก
เพราะความตกที่ใจใครเราไม่เห็น
หากแม้ว่าข้อความดีเแต่แแสร้งเยือน
ลูกจะเตือนแค่ตัวเองต้องมีธรรม

คือธรรมะผ่านใจของลูกก่อน
แล้วค่อยผ่อนสั้นผ่อนยาวเมื่อเขาสอน
เพราะความจริงลูกรู้ได้เหมือนละคร
แค่บ้างตอนก็ต้องหลอกคนชมให้ติดตาม

ว่าความคิดที่อยากอำจับผิดได้
ให้เขารู้ว่าหนอนตายไม่ได้หนอ
คือการเรียนลูกเรียนได้ลูกอย่ารอ
ลูกของพ่อต้องเรียนต่อนะใจงาม

พ่อเรามีหัวใจได้เกิดใหม่
เพราะพ่อใหญ่ในหัวใจเราเสมอ
หากวันนี้พ่อรู้ว่าใจเธอ
ได้ละเมอเขียนสิ่งดีให้พ่อชม

พ่อเคยสอนรักจะเก่งก็อย่าเบ่งต่อหน้าเพื่อน
เป็นคำเตือนสอนให้เพื่อนได้รู้หนา
ว่าตัวเราเปรียบเหมือนน้ำยาตา
ที่คอยทาหัวใจไม่ปวดเอย

สาธุสวัสดีคิดดีทำดีชีวิตนี้มีแต่รวย
รวยเงินรวยถ้วยหรือรวยโชคก็เลือกเอา
แต่สิ่งหนึ่งจะไม่เข้ามาหาเงาเราได้เลย
คือขอร้องให้เธอช่วยในเรื่องที่เธอเอยว่าเราคนไม่ดี............สาธุจ๊ะ				
13 กุมภาพันธ์ 2552 12:53 น.

อุดมการณ์เพื่อความสำเร็จ

คนสุดท้อง

ความรักพ่อเปรียบประดุจดังฟ้ากว้าง
ความรักแม่เหมือนสายสร้อยสังวาลย์ยาวหนักหนา
นี่นะหรือความรักของพ่อแม่ที่เมตตา
คือให้ลูกได้มาเป็นยาใจ
คอยช่วยเหลือบอกกับคนเข้าใจทุกข์
ว่าจะสุขหรือทุกข์ใจเรากำหนดได้
ขอเพียงแต่ให้ความทุกข์สอนกับใจ
ให้เราเกิดเข้าใจทุกข์ก่อนสุขถึงมา
เพราะชีวาของเราเคยแต่ได้
คิดอะไรขอให้ได้เอาไว้ก่อน
นั่นแหละเหตุของทุกข์ให้ร้าวรอน
เพราะว่าเราขาดตอนคิดทบทวน
เราจึงควรรับโทษเศร้าให้เข้าใจ
แล้วจึงได้คิดหาหนทางออก
ว่าจะกอดกับใครให้หายเหงา
นั่นก็คืออ้อมกอดพ่อแม่เรา
ที่จะคอยโอบอุ้มเราให้พ้นตรม
คิดอะไรขอให้ตั้งหัวใจไว้เพียงแค่สัตย์ซือ
ให้ยึดถือในพระธรรมคำสั่งสอน
ว่าคนเราจะอยู่ที่ใดไร้ที่นอน
แต่ต้องไม่ลืมพรพระคุณครู
ท่านสอนสั่งให้เรานั่งทางในจิต
สงบคิดคอยสอนจิตให้เราเห็น
ว่าตัวเรามีกี่ภพที่เกิดเป็น
ขอให้เห็นแต่ภพเป็นของตนเอง
ก็คือภพที่ได้เกิดเป็นลูกแม่
แล้วมีพ่อคอยดูแลรับส่งข้าว
หากว่าลูกทำผิดเพราะหูเบา
ลูกขอเล่าเอาความเศร้าให้จากไป
คือขอให้พ่อกับแม่คอยสร้างใจ
สร้างสิ่งใหม่ทดแทนใจที่เศร้าตรม
แค่ปมที่เหมือนขาดบาดร้อยเชือก
ก็เหมือนเปลือกภายนอกเศร้าล้างให้หาย
เพราะตัวเราก็ยังเป็นลูกน้อยๆ
พ่อแม่คอยเห็นวันลูกสำเร็จงาน
เป็นนิทานสอนใจให้คนอ่าน
เข้าใจบ้านที่พ่อรักห่วงนักหนา
ว่าลูกๆของพ่อต้องทานยา
ทุกเวลาที่บาดเจ็บใจเจียนพัง
แล้วก็นั่งถามตัวเองทุกข์ไฉน
ทุกข์มากไปหรือเปล่าหนอตัวเรานี้
ก็พ่อแม่สั่งสมทรัพย์บาารมี
ให้เรามีนิทานดีคอยเลี้ยงใจ
เพื่อจะได้มีนิทานไว้กล่อมลูก
ความพันผูกพ่อรักลูกดังตาเห็น
หากว่าลูกของพ่อทุกข์ลำเค็ญ
ลูกจะได้แคล้วคลาดจากมารสอน
ให้ลูกอยู่กินนอนแบบง่ายๆ
หากวันนี้ลูกเรียนรู้ค่าที่ใจ
ลูกจะได้ศักดิ์ศรีใจไว้ในตัว
ลูกไม่กลัวไม่มั่วอย่าเสพติด
ลูกต้องคอยเนรมิตให้จิตได้
ว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกมาลำบากกาย
ลูกจะได้ปริญญาทุกใบไว้เชยชม

สวัสดี สาธุ
แว่นแก้วชวนฝัน				
8 กุมภาพันธ์ 2552 08:59 น.

กว่าจะปริญญา

คนสุดท้อง

คำจำกัดความ ของ คำว่า โค
คือความคิดของมนุษย์ใดก็ตามที่มาเพื่อทำลายล้างเราให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเองในทางที่ผิดและสร้างกระแสนิยมให้อยู่เหนือความรักที่พ่อแม่มีต่อเรา และฝั่งอยู่ในความคิดของเราให้ทำตามเพราะความคิดที่ทำลายสมองของเราให้อยู่ในกระแสที่มองการคิดผิดเป็นสิ่งดี การโกหกเป็นสิ่งที่ควรทำ และติดตัวเราไปทุกแห่งหน เป็นความหมายของคำว่า โค หรือ ภาษาชาวบ้าน คือ (ควาย) นั่นเอง

 ธาราทิพย์ เปรียบเป็นสายน้ำของพ่อแม่
ขอให้มีแต่ความแน่แท้ในชีวิต
และอย่าไปคิดให้ชีวิตต้องหม่นหมอง
เพราะเราเป็นสร้อยทองคล้องคอใจพ่อแม่มา
อย่ามองการจากไกลเป็นเรื่องใหญ่ของเรายา
ให้รู้เถอะวันเวลาจะนำพาเจ้าเติบโต
ให้เจ้าบอกกับโคที่ชอบโก้ติดตามไป
บอกโคให้เข้าใจว่าเจ้าใหญ่กว่าที่เป็น
อย่าได้คิดทำเล่นเจ้าจะเป็นผู้ใหญ่งาม
ดังนั่นอย่าติดตามว่าเจ้างามณ ที่ใด
ก็งามที่จิตใจเป็นกำไรของแม่เอย
ใส่แล้วคนชมเชยแล้วก็เปรยว่าสวยจริง
ความสวยคือความจริงคือความนิ่งเรียนสูงไง
ดังนั้นทำอะไรต้องคิดได้อยู่ทุกยาม
พ่อแม่จะงดงามหากลูกถามแม่คอยดู
ว่าลูกจะเรียนรู้ความเป็นอยู่ด้วยตัวเอง
แต่เรียนผ่านทุกข์เองโดยนำพ่อมาชี้ทาง
หากใครกล้ามาขวางพ่อจะทำมันออกไป
ตั้งจิตให้มั่นไว้พ่อแม่ไซร์รักเราจริง
ไม่มีใครรักจริงในวัยที่แม่ส่งเรียน
ขอให้ตั้งใจเรียนแล้วจะรู้จบงดงาม
ไม่มีใครนิยามทุกสิ่งทำได้ด้วยตน
พ่อแม่บอกถนนที่ผู้คนเขาไม่เดิน
เพราะกลัวลูกเพลินเดินเขาไปแล้วหลงทาง
ขอให้ดูนิยาม่ตั้งค่าไว้อยู่ในใจ
พ่อแม่ข้ายิ่งใหญ่เกินที่ใครจะแลเห็น
ดังนั้น่ตัวข้าเป็นเช่นดังสร้อยห้อยมาลา
ไหว้พ่อไหว้แม่ข้าถึงเวลาข้าถอดเอง
คือสร้อย ข้าทำเองห้อย เพื่อรอปริญญา
ถอดไหว้พ่อแม่ข้าแล้วบอกว่า ปริญญาใจ
แล้วบอกอีกต่อไปส่วนลูกได้ปริญญางาน
พ่อแม่คือขันพานที่ยิ่งใหญ่ไหว้เป็นครู
ขันครูที่ควรรู้ค่าควรอยู่ที่ในใจ
ให้คิดแค่นี้ไว้รับรองได้ จบบริบูรณ์				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนสุดท้อง
Lovings  คนสุดท้อง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนสุดท้อง
Lovings  คนสุดท้อง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนสุดท้อง
Lovings  คนสุดท้อง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนสุดท้อง