25 เมษายน 2554 08:22 น.
ลานเทวา
.
ไร้รอยยิ้ม ทักทาย
จากราตรีเดียวดาย วิเวกหวั่น
เนิ่นยาวนานคืนค่ำรำพัน
แผ่วบทเพลงแสงจันทร์ รำไร
หริ่งหรีดกรีดเสียงร่ำ ระโหยหา
ริมฝั่งธารน้ำตา ที่รินไหล
ประหนึ่งเสียงโศกตรม ระงมไพร
ฟังกรีดเฉือนสะเทือนใจ ทรมาน
รับรู้ทั่วหัวใจ กระไรลึก
ล่วงดีทรามความรู้สึก อันพ้นผ่าน
รับรู้วางบางสิ่งไว้ กับวัยวาร
ร้อนเย็นโลกยาวนาน มรคา
นับเนิ่นอสงไขย อันไม่สิ้น
หลายหลากผืนแผ่นดิน ที่กลบหน้า
สัญจรแห่งวิญญาณ ที่ผ่านมา
รับรู้ถึงชะตา ความเป็นไป
งดงามในความเศร้า กองเถ้าถ่าน
นับเนิ่นเนาแห่งกาล ยุคสมัย
เราต่างค้นความจริง ของสิ่งใด
จากโลกที่กว้างไกล จินตนาการ
..........................
โดยคำ ลานเทวา
21 เมษายน 2554 01:18 น.
ลานเทวา
ปลดเปลี่ยวโลกกำหนัด บำบัดท่วง
ปล่อยเปลือยห้วงร้าวหม่น ก้าวพ้นผ่าน
สัมผัสแห่งตัณหา ราตรีกาล
ช่างยาวนานเกินใจ จะไหวรับ
..................
โดยคำ ลานเทวา
20 เมษายน 2554 17:45 น.
ลานเทวา
.
.
เราไม่รู้อะไรเลย หรือไรเล่า
กี่ทุกข์ทนหม่นเศร้า เราไม่รู้
กี่พลั้งผิดคิดเห็น ใดเป็นครู
เราทนดูกี่พลั้งพลาด อนาถนัย
เราได้อะไร จากซากปรักหักพัง
เราได้อะไรจากความชิงชัง ที่ก่อไว้
ถามกี่ครั้งเหมือนเก่า เราได้อะไร
จากร่องรอยอันหมองไหม้ ของแผ่นดิน
เราไม่รู้สึกอะไรเลย หรือไรเล่า
บทเรียนเก่าพอได้ปลื้ม ก็ลืมสิ้น
ไร้สำนึกตรึกหา เพราะชาชิน
กับโสมมมลทิน ในสันดาน
เราได้อะไร จากอะไรที่ไหนเล่า
ดูแต่ความโศกเศร้า สันนิฐาน
สรรพสิ่งมอบไว้กับวัยวาร
ก่อนจะอันตรธาน อย่างปวดร้าว
อะไรเล่าที่เราได้ จากความแตกแยก
ความรู้สึกแปลกแปลก ตะโกนกล่าว
ความชิงชังรั้งเห็น เป็นเรื่องราว
ความโกรธเกลียดช่างเนิ่นยาว ในหัวใจ
เราไม่รู้อะไรเลย หรือไรเล่า
ความเป็นคนหม่นเศร้า ขนาดไหน
สามัญแห่งสำนึก ตรึกสิ่งใด
ความเป็นคนความเป็นไทย หรือสิ้นแล้ว
........................
โดยคำ ลานเทวา