16 มิถุนายน 2553 11:13 น.
ลานเทวา
เฮ้ย เฮ้ย เอ็งเข้าใจไหม
ปรัชญาโลกละไม บรรลัยจักร
ข้ากวีพลีคำ บ่งย้ำนัก
ดอกไม้งาม ความรัก จักรวาล
ดวงดาวข้าเจิดแจ้ง ทุกแหล่งใจ
ดวงตาข้าซุกนัยน์ โลกุตรสถาน
ห้วงฝันข้าลิบลิบ อยู่นิพพาน
โลกข้าปั้นโดยสันดาน แลตัณหา
เข้าใจไหมเล่าเอ็ง เข้าใจไหม
ศาสตร์และศิลป์ที่หัวใจ ปรารถนา
โลกมันมีสารพัด นัยปรัชญา
ทั้งสูงล้ำทั้งต่ำช้า พอพอกัน
ที่ต่ำช้าก็ฆ่าเข่น เห็นไหมข่าว
ที่สูงส่งก็ดาว ไทยคมนั่น
ชีวิตเฟื่องเรื่องราว สารพัน
เมื่อไรเอ็งตามไม่ทัน ก็บรรลัย
สูงส่งข้าเดียวดาย หลายรู้สึก
สุดแต่เอ็งจะลึก ผลึกไหน
สุดแต่เอ็งจะโง่เขลา หรือเข้าใจ
ปรัชญาโลกละไม บ้าบ้าบอบอ
..............................
โดยคำ ลานเทวา
10 มิถุนายน 2553 10:55 น.
ลานเทวา
จบเสียทีชีวา ที่อาภัพ
สู่สิ้นดับเวทนา ชะตาฝัน
ชีวิตนี้ต่ำช้า เกินสามัญ
จบเสียที่คืนวัน สิ้นเยื่อใย
สิ้นสุดแล้วสุขโศก โชคชะตา
ปลดเปลื้องผ่านกาลเวลา อันสิ้นไร้
เลือนรอยล่วงหนาวร้อน สัญจรใจ
สู่ ดิน น้ำ ลม ไฟ นิรันดร
ปรารถนา ข้าดับสิ้น
ดับทุกภาพแหว่งวิ่น ในเวิ้งว่อน
ทุกอารมณ์หลืบผา แลนาคร
ดับทุกท่วงสัญจร รติกาล
ลับด้วยลมสุดท้าย ที่หน่ายเบื่อ
ขอสิ้นเชื้อสิ้นหน ให้พ้นผ่าน
บนเส้นทางขื่นร้าว อันยาวนาน
หมดสิ้นแล้วแรงซมซาน วิญญาณร้าย
ลืมเสียเถิดขวัญเจ้า ความเศร้าโศก
กระไรโลกเหลียวแล ผู้แพ้พ่าย
ปล่อยทุกสิ่งเพียงเงา อันเปล่าดาย
เหมือคำลาสุดท้าย ที่เอ่ยคำ
............................
โดยคำ ลานเทวา
8 มิถุนายน 2553 23:12 น.
ลานเทวา
สัตว์อาศัยอยู่ป่า ประสาสัตว์
ด่านเถื่อนพงดงชัฎ สัตว์อาศัย
ป่าคอนกรีตคนอยู่ ก็อยู่ไป
อาณาเขตของใคร ย่อมใครรู้
ความต้องการของสัตว์ คือดงป่า
ใช่ถนนรถรา ที่แล่นสู่
ใช่คอนเสิร์ตใช่เสียงเพลง ใช่คนดู
นั่นมันความต้องการสู ไอ้ผู้คน
สัตว์อยู่ป่าคนอยู่เมือง เรื่องชีวิต
ใช่ถูกผิดบังตา ไอ้หน้าขน
ความเจริญรุกร้าย อยู่รายรน
สัปดนใครรุกป่า หน้าไม่อาย
ไปแย่งสัตว์กินอยู่ อดสูสัตว์
สันดานคนสารพัด ที่ฉิบหาย
สนองทรามแห่งยุค สุขสบาย
สัตว์จะเป็นจะตาย ช่างหัวมัน
ช่างมันเถอะ พณฯทั่น นั่นไอ้สัตว์
ถนนตัดรีสอร์ท ตลอดนั่น
ดินแปลงโน้นแปลงนี้ ยึดตีปัน
เราก็สัตว์เหมือนกัน รุกเข้าไป
………………………
โดยคำ ลานเทวา
8 มิถุนายน 2553 10:26 น.
ลานเทวา
เหงา เหงา ก็เข้ามาหา
ในบางวันบางเวลา ที่เหงาเหงา
มีบทกลอนเธอฉัน คอยบรรเทา
พอลืมโศกลืมเศร้า ในบางครา
ยังมีความอบอุ่นอยู่ที่นี่
ในทุกทุกนาที ที่ค้นหา
ในทุกทุกถ้อยพร่ำ รำพันพา
ในทุกทุกเวลา ที่เปลี่ยวใจ
มีความหมายทายทัก ทุกอักษร
คล้ายห่วงหาอาทร ยามอ่อนไหว
มิตรภาพที่เห็นยังเป็นไป
แม้จะไกลแสนไกล เหมือนใกล้ชิด
ทุกท่วงบทงดงาม ด้วยความรัก
สื่อภาษาทอทัก ไมตรีจิต
ทุกเบื้องงามไหววาด ดังญาติมิตร
สร้างสื่อสรรค์สารทิศ งามโดยคำ
เหงา เหงา ก็เข้ามาหา
สรรพบทภาษา อันดื่มด่ำ
เถิด เปลื้องอารมณ์เดียวดาย ออกร่ายรำ
เริงบทร้อยลำนำ คีตกานท์
…………………..
โดยคำ ลานเทวา
3 มิถุนายน 2553 14:58 น.
ลานเทวา
ค่อยค่อยคืบ สืบล่วงท่วงขณะ
ในเผินผ่านทัศนะ อารมณ์สรรค์
สรรพสิ่งอุบัติวาด อาตมัน
แต่งปรุงปันต่อเติม แต่เดิมนัย
เจตสิกพลิกพลิ้ว ลิ่วเกิดดับ
คณานับไหววาด พิลาศไหว
บางจำแลงแปลงกล ลวงหนไป
บางแปลกปลอมย้อมใจ ดังเที่ยงแท้
ค่อยค่อยใจไขว่คว้า หาที่มั่น
โดยโง่เขลาเท่าทัน การเผื่อแผ่
งมงายยังว่ายเวียน ในเปลี่ยนแปร
หลับตาแลรู้สึก พิลึกลั่น
ตราบภาวะมืดดับ พ้นศัพท์เสียง
อวิชชาจรายเรียง หรือไหวหวั่น
ฟังเถิดเสียงมารยา สารพัน
ให้ต่างกันเพียงงาม ในความคิด
ค่อยค่อยคืบ สืบล่วงท่วงขณะ
พ้นผ่านเผินทัศนะ วิปริต
เป็นมรรคาชั่วดี เป็นชีวิต
เป็นนานาสารทิศ ให้แสวง
จึงต่างเรา ต่างท่านต่างผ่านล่วง
สิ่งทั้งปวงต่างสำคัญ ต่างขันแข่ง
สุดแต่ใจกรำเชื่ยว สุดเรี่ยวแรง
สืบแสดงมิรู้สิ้น ถวิลนั้น
…………………………..
โดยคำ ลานเทวา