14 เมษายน 2552 20:06 น.
ลานเทวา
เปลวคำจะอำไพ
ดั่งเปลวไฟอันคุโชน
กระจ่างภพทบทโมน
ให้ลุแจ้งทุกแหล่งใจ
โดยคำนำนัยยะ
สารัตถะจักวาดไหว
ผิดชอบคำตอบนัย
จะน้อมนึกรู้สึกความ
เขียนคำเขียนชีวิต
เขียนห้วงคิดให้ค้นถาม
เขียนโศลกโลกนิยาม
ด้วยถ้อยยุทธพิสุทธิ์พราย
เผ่นโผยอยู่โดยคำ
ผ่านลำนำกระแสสาย
ความรักจะทักทาย
ในบทถ้อยอันร้อยเรียง
ซาบซึ้งจักตรึงซับ
ถ้วนสดับในศัพท์เสียง
แผ่วหวานจะผ่านเพียง
พจนพร่างปางกวี
มาเถิดผู้ดื่มด่ำ
วรรณกรรมท่วงวิถี
สุขโศกอันโลกมี
จะจารมอบชื่นชอบชัง
โดยคำ ลานเทวา
5 เมษายน 2552 23:31 น.
ลานเทวา
จากรอยยิ้มนัยน์ตาหวานพาซึ้ง
ประโลมตรึงความรักสวนอักษร
ปานอ้อมอุ่นอันห่วงหาและอาทร
ปลอบโยนใจแรมรอนรัตติกาล
ดั่งดวงดาวพราวไสวในดวงตา
พร่ำแรมคืนสนทนารักขับขาน
อาบละมุนอุ่นไอโอบวัยวาร
ดับสิ้นทรามสามานย์ทุกอณู
ก่อนดวงดาว เจ้าจะหลับไหล
สู่ปลายฝันอันแสนไกลเกินไปสู่
ฝากสายลมอ้างว้างที่พร่างพรู
บอกดวงดาวเถิด เอ็นดู สักเสี้ยวใจ
อาจมิใช่คนที่ ดีที่สุด
แต่ก็พร้อมจะหยุดทุกสิ่งให้
ทั้งชีวิตและความบ้าประสาวัย
พร้อมจะแลกกับความห่วงใย แม้เพียงน้อย
ฝากสวนฝันจันทราสารภาพ
ข้าคนบาปผู้เฝ้ารอการปลดปล่อย
ค้นหัวใจขาดเกินนานเนิ่นคอย
อยู่แต่ความเลื่อนลอยของชีวิต
โดยคำ ลานเทวา