29 ธันวาคม 2552 12:36 น.
ลานเทวา
.
.
.
จากรอยยิ้มเศร้า ในแรมคืน
หยาดน้ำตาแทนฟืน เพื่อเผาไหม้
เหนือกองเถ้าปรารถนา ห่วงอาลัย
รักจะดับสิ้นไฟ เสน่หา
เรา รู้จักกันแค่ผิวเผิน
ความสัมพันธ์ดังส่วนเกิน ที่หนักบ่า
ล่วงเฉยเมยผ่านเร้น อย่างเย็นชา
ความรู้สึกแม้นัยน์ตา สบสิ้นไร้
อย่าได้คิดลึกใด ไปกว่านี้
บางความรู้สึกดีดี ยังมีให้
ปล่อยเป็นเรื่องของกาล ที่ผ่านไป
อย่ากอบเก็บสิ่งใด ทรมาน
บางส่วนเสี้ยว ของการพบเจอ
ยังจดจำได้เสมอ รอยยิ้มหวาน
แม้นบางสิ่งจักเลือนรอย อันตรธาน
จากวัยวาร และคืนวันแห่งพันธะ
ฝากร้อยยิ้มเศร้า ในแรมคืน
ไว้กับความกล้ำกลืน บางขณะ
ปลดอาวรณ์บางสิ่ง จำทิ้งละ
สู่หุบห้วงสัปปายะ แห่งราตรี
จบแล้ว ความอาวรณ์
จากวิญญาณร้าวรอน แรมวิถี
เป็นสุขเถิดในหนทาง อันต่างมี
สิ่งดีดี ยังเมลืองอยู่เบื้องหน้า
…………………………
โดยคำ ลานเทวา
28 ธันวาคม 2552 17:04 น.
ลานเทวา
.
.
.
การเดินทาง
ล่วงระวางหน่วงนับ ความสับสน
เนิ่นครรลองกองเกวียน ผู้ทุกข์ทน
จักสิ้นการว่ายวน โดยเรี่ยวแรง
ทึ่สุดนั้น
ใช่งดงามความฝัน ดังแสวง
สรรพสิ่งวาดเวียน การเปลี่ยนแปลง
ปวดร้าวโลกสำแดง โดยความจริง
จำยอมรับ
ในรุนแรงอันถมทับ สรรพสิ่ง
เกลื่อนชีวิตผ่านล่วง การช่วงชิง
สุดท้ายเราแอบอิง อะไรโลก
รอยยิ้มแย้ม
ประทับแรมเลือนหน คืนหม่นโศก
กี่ถ้อยคำอำลา พาวิโยค
ชั่วหรือโชคชะตา มรรคานี้
การดำเนิน
สืบก้าวเผินเหินห่าง ระหว่างวิถี
ล่วงสุขโศกโลกสร้าง ให้ต่างมี
ผ่านชั่วดี สืบเห็นในเป็นไป
ยอมรับ ข้ายอมรับ
สรรพทุกข์คณานับ กว่าสิ่งไหน
ค้นเศษซากสุขเสี้ยว ปลอบเปลี่ยวใจ
มิพบนัย อันโน้มประโลมทาง
สุดท้าย
ล่วงชีวิตเดียวดาย แลอ้างว้าง
สรรพสิ่งเคลื่อนคล้อย สู่ปล่อยวาง
ปลดชีวิตเปราะบาง อย่างเอกา
…………………
โดยคำ ลานเทวา
28 ธันวาคม 2552 16:58 น.
ลานเทวา
.
.
.
( ความเหงา ของเจ้าตูบ )
.
.
ซึ้งตาพบสบซึ้ง ครั้งหนึ่งนั้น
ยังจำฝันตรึงอยู่ มิรู้หาย
บางถ้อยคำย้ำอ้อน มิคลอนคลาย
แม้นโลกพรายเล่ห์ล้วน ความรวนเร
หวิวหวิวไหวในหวาน ซ่านกระซิบ
แลลิบลิบไกลร้าง ก็ห่างเห
หวนสายลมห่วงหา อุษาคเนย์
แผ่วพัดเพรวนร้าว หนาวภวังค์
เค็มลมเลพัดหยอก ชื่นดอกพร้าว
พอร้างไกลไร้ข่าว ก็สิ้นหวัง
แลเหมือนว่าโลกนี้ ไม่จีรัง
ใจพ่ายพังยามเนิ่นผ่าน กาลเวลา
บอกสายลมดัดจริต ว่าคิดถึง
สักวันหนึ่งดินไม่กลบ คงพบหน้า
เห็นไหมเล่าเหงานั้น เดือนธันวา
นอนหลับตาตรึงภาพ กำซาบใจ
ซับน้ำตานิรนาม ของความเหงา
รักเอยรักจะแผดเผา โลกสาไถย
ค่ำคืนนี้เธอเขา เรากับใคร
ช่างประไรฟูกหมอน ละครรัก
………………………
โดยคำ ลานเทวา
27 ธันวาคม 2552 09:52 น.
ลานเทวา
ประหนึ่งความโดดเดี่ยว ช่างเกรี้ยวกราด
โถมอารมณ์อนาถ อนาถา
ซ้ำซากแห่งความฝัน วันเวลา
ยังคงเป็นภาพลวงตา ให้บันทึก
ห่วงจะหาไม่สิ้น ถวิลวาด
จากห้วงฝันประหลาด ความรู้สึก
เคลื่อนสับสนคนโซ มโนนึก
ทารุณลึกปรารถนา สารพัน
มิรู้สิ้นดินฟ้า ชะตาเร้น
ชีวิตดังล้อเล่น กับความฝัน
บนความจริงที่เรา ไม่เท่าทัน
คืบคลานแห่งคืนวัน ก็กลืนกิน
มโนแจ้ง แสดงภาพกำซาบซ้อน
ห้วงหัวใจก็ไหวอ่อน มิรู้สิ้น
ล่วงไปบนความปรารถนา อย่างชาชิน
ข้ามบริสุทธิ์และมลทิน แห่งวันวัย
กว่าซึ้งโศกสายธาร อันแร้นแค้น
ก็เหือดแดนดินดาว คาวสมัย
จำเจแห่งโศกา อาลัย
กระหน่ำใจเสียเจียนบ้า ทุกนาที
ยากเปลื้องใจไหววูบ ในรูปเงา
บำบัดรักบรรเทา ท่วงวิถี
นับไปถ้วนลมใจ อันใคร่มี
ชื่นผ่านเพียงธุลี ก็สุขแล้ว
……………………..
โดยคำ ลานเทวา
26 ธันวาคม 2552 19:31 น.
ลานเทวา
ค่ำคืนนี้แม้มืดมน แต่งดงาม
บางบริบทใคร่นิยาม ให้รู้จัก
รอยละเลียดความรู้สึก ครุ่นทึกทัก
มีความฝันมากมายนัก ค่ำคืนนี้
………………………………
โดยคำ ลานเทวา