29 มิถุนายน 2551 01:42 น.
ลานเทวา
ลืมตาเถิดความรัก
แย้มทายทักโลกงามในนามหวัง
สยายปีกแกร่งกล้าฝ่าชิงชัง
โอบอุ่นประทังวิญญาณเสรี
แม้นลึกลับแห่งความทุกข์ทน
ประทับหนมรรคาล้าวิถี
เถอะ จงเติมน้ำใจมิตรไมตรี
ปลอบโยนฝันธุลีฝุ่นมายา
บทเพลงแห่งกาลอันผ่านล่วง
จะกล่อมห้วงทะเลดาวยามพราวฟ้า
ขับเห่ความบอบช้ำซับน้ำตา
จากตะกอนกาลเวลาอันเฉยเมย
ลืมตาเถิดความรัก
แย้มทายทักความอ้างว้างอย่างเปิดเผย
สยายปีกอบอุ่นอย่างคุ้นเคย
ก่อนจะเลยลับผ่านกาลเวลา
เก็บเอาไว้ในร่องรอยอันอบอุ่น
มอบละมุนโลกอนาถอนาถา
เพื่อย้ำเตือนความฝันและมรรคา
ในนามกรุณาแห่งความรัก
........................
โดยคำ ลานเทวา
27 มิถุนายน 2551 20:06 น.
ลานเทวา
ดื่มเอย จะดื่มด่ำหยาดน้ำค้าง
อยู่ท่ามกลางดาวดวงห้วงวิถี
ประโคมคำกล่อมฟ้าขับราตรี
พาฝันหนึ่งจรลีสู่นิรันดร์
โลมระรื่นภิรมย์เร้ารัญจวน
โลกดื่มด่ำลำนำชวนละมุนฝัน
พิไรร้อยถ้อยพร่ำเพ้อรำพัน
ปลอบเสี้ยวจันทร์ราตรีดิถีจร
จะว่ายเวิ้งมรรคานิราศรัย
กอบดาวดวงละไมหนุนต่างหมอน
คลี่ฟ้าห่มแสงเดือนต่างเรือนนอน
หลับสู่ฝันอาทรชื่นจินตนา
ร่ายคำเย้ยสายลมที่พรมผ่าน
กล่อมวิมานราตรีที่โหยหา
สดับปลื้มดื่มด่ำการนำพา
อบอุ่นแสงจันทราวิเวกเงา
ร้างแล้วเรือนอาวรณ์สะท้อนจิต
สิ้นแล้วหนอชีวิตในหนเก่า
ค้นเบื้องหน้าหาฝันมาบรรเทา
ทิ้งพะวงหลงมัวเมาเพียงร่องรอย
......................
โดยคำ ลานเทวา
6 มิถุนายน 2551 13:15 น.
ลานเทวา
( ชีวิต อย่าสิ้นกำลังใจ )
รัตติกาลจะผ่านคล้อย
ละอองน้อยแววมณีหยาดสีสรรค์
ระยับคืนเหน็บหนาวพราวอรัญ
เปลี่ยวเรไรรำพันเพ้อราตรี
ละอองชื่นโปรยปรายอยู่พรายพร่าง
ม่านแพรจันทร์นวลกระจ่างจะจางคลี่
สะท้อนงามไหมฟ้าศิวามณี
ลงไล้แตะมวลมาลีและพฤกษ์ไพร
พลิ้วตามสายลมไกวอ่อนไหววาด
สะท้อนหยาดละอองงามผ่องใส
ดังเพชรงามกลิ้งเคลื่อนบนเรือนใบ
แล้วรินไหลหยาดชื่นลงรื่นดิน
ดอกเอย ดอกน้ำค้าง
จะพรมพร่างไปทั่วแคว้นแดนถิ่น
ชื่นราตรีแผ่วโผยระโรยริน
โลมไล้สรรพชีวินเอื้ออาทร
แม้นสิ้นแสงมืดมิดชีวิตเจ้า
ใช่สิ้นเงาปลอบขวัญอันโอนอ่อน
ชื่นราตรีดาวพร่างน้ำค้างจร
ชื่นชีวันไหววอนกำลังใจ
...............................
โดยคำ ลานเทวา