31 มีนาคม 2551 17:30 น.
ลานเทวา
ไม่มีใครเห็นใครใสพิสุทธิ์
ในยุคที่มนุษย์ต่างไขว่คว้า
ไม่มีใครไหนพร้อมยอมลดลา
ต่างบีฑาเผ่นโผยโดยกำลัง
ไม่มีใครเห็นใครด้วยใจดอก
ในยุคที่การกลับกลอกนั้นเกินหยั่ง
ไม่มีใครไหนพร้อมจะยอมฟัง
อย่างจริงจังจริงใจในลำเค็ญ
จึงแลทรามมิพ้นทราม
ประหนึ่งความดียากจะฝากเห็น
ชอบธรรมใดไหนสร้างที่อ้างเป็น
ล้วนโดดเด่นความอุบาทว์สุดคาดคิด
ไม่มีมีใครเห็นใครดีงามดอก
ในยุคสมัยลวงหลอกดัดจริต
ไม่มีใครยอมใครในชีวิต
ศัตรูมิตรเหมือนกันแค่ผันแปร
ไม่มีใครมองใครบริสุทธิ์
จึงไม่มีใครผ่องผุดมาเผื่อแผ่
ไม่มีความจริงใจไหนเหลียวแล
โลกแท้แท้จึงเป็น ...... เช่นนรก !
--------------------
ลานเทวา
31 มีนาคม 2551 17:21 น.
ลานเทวา
ดังร่องรอยแห่งสายลม
ที่พร่างพรมเหน็บหนาวอันร้าวไหว
ทิ้งร่องรอยแผ่วพลิ้วผ่านผิวใจ
ยะเยือกนั้นกำซาบในห้วงตราตรึง
มรรคา
อันเลยลาลับล่วงมาช่วงหนึ่ง
ฝากร่องรอยสุขไว้ในรำพึง
ฝากทุกข์ย้ำคำนึงอันปวดร้าว
บาดแผลในสำนึก
ระบมลึกเร้นใจเกินไหวกล่าว
ชีวิตต่างรู้กาลผ่านเรื่องราว
มิอาจเก็บร้อนหนาวที่พบพาน
ในรอยทางอันต่างมา
เราทิ้งซากฝากชีวากับเถ้าถ่าน
ดีชั่วใดสรรค์ในวันวาร
ทิ้งร่องรอยสันดานบ่งโลกไว้
--------------------
โดยคำ ลานเทวา
30 มีนาคม 2551 21:38 น.
ลานเทวา
หมายดอกดาวดวงใดจะไขว่คว้า
ยังแต่ดอกน้ำตาที่รินหล่น
รำพึงแห่งวิญญาณผู้รานรน
รำพันอย่างทุกข์ทนและโรยแรง
โศกสายธารน้ำตามิเคยเหือด
ท่ามกลิ่นคลุ้งคาวเลือดมิเคยแห้ง
สงครามยังกระทำและสำแดง
อย่างสิ้นแล้งน้ำใจไมตรี
สันติภาพ
มิเคยย้ำกำซาบในวิถี
ยังแต่ความรุนแรงแบ่งชั่วดี
กองศพซากชีวีนับแสนล้าน
ปรารถนาใดเล่า
ถามดวงตาโศกเศร้าอันสบผ่าน
สันติภาพสันติสุขสันติกาล
ดังพระเจ้ามิเคยจารแด่โลกไว้
มีแต่อาวุธอันมิชอบ
ให้คนมิสมประกอบมันยิงใส่
ทำลายโลกทำลายฝันจนบรรลัย
และทำร้ายทุกหัวใจของผู้คน
กี่ยุคสมัย
สงครามมิเคยสร้างโลกใหม่เลยสักหน
ยังแต่เติมความสิ้นหวังและกังวล
ยังแต่สร้างความทุกข์ทนให้แดนดิน
------------------
ลานเทวา
30 มีนาคม 2551 21:31 น.
ลานเทวา
ดั่งริ้วแพรไหวพร่างอยู่กลางสรวง
สไบดาวห่มดวงระยับสี
รติกาลแห่งฝันอันพึงมี
ประดับสุขเสรีแด่คืนวัน
สรรพสัตว์กำเนิดโดยความรัก
โลกทอถักความงามและความฝัน
สันติสุขดำรงคงนิรันดร์
รติกาลรำพันห้วงภิรมณ์
สายใยแห่งสรรพชีวิต
ทอความรักสถิตสร้างสุขสม
โลกขับเคลื่อนโดยธรรมนำนิยม
รักเพาะบ่มสรรพชีวาเอื้ออาทร
ในอ้อมอุ่นแห่งไมตรี
โลกเสรีกล่อมใจอันไหวอ่อน
มีน้ำจิตมิตรปันผู้สัญจร
ปลอบปลุกใจร้าวรอนด้วยความรัก
ในโลกที่แบ่งสรรค์
ค่ำคืนแห่งสัมพันธ์จะทอถัก
มอบน้ำใสใจจริงให้พิงพัก
โดยความหมายที่ทายทักด้วยหัวใจ
สุขกระไรที่ไหนเล่า
จักเทียมเท่าน้ำจิตอันคิดให้
กรุณาปรานีอยู่ที่ใด
อบอุ่นในชีวาทุกนาที
-------------------
โดยคำ ลานเทวา
27 มีนาคม 2551 12:59 น.
ลานเทวา
กี่บทเรียน
ชีวิตเขียนโดยค่าการปรากฏ
โลกวาดไหวในความอันงามงด
เราจารจดดีชั่ว ณ หัวใจ
อย่าคิดหมายใดใดไปกว่านี้
ความรู้สึกอันมีคำตอบให้
เราย่อมรู้ย่อมเห็นความเป็นไป
ชีวิตต่างอย่างไรเราย่อมรู้
บทเรียนอันพลาดพลั้ง
จักเข้มขลังแด่ชีวีที่เป็นอยู่
มรรคาเคลื่อนรอยผ่านการเฝ้าดู
เราคือผู้เผชิญโลกโชคชะตา
อย่าหมายใดไกลกว่านั้น
โดยความฝันและเรี่ยวแรงแสวงหา
ตรองทุกสิ่งผ่านผันวันเวลา
เก็บนำพาใดมั่นนิรันดร
----------------
โดยคำ ลานเทวา