26 ธันวาคม 2551 10:25 น.

แด่ การเมืองที่คิดถึง ฉันจึงเขียน .... !

ลานเทวา

คือความสิ้นไร้ซึ่งความดีเป็นที่สุด
เท่าที่ความเป็นมนุษย์จะรู้สา
คือที่สุดอันโสมมแห่งมรรคา
แต่ที่แปลกคือเป็นธรรมดา ของเมืองไทย

คืออะไรอะไรที่ระยำเกินกำซาบ
ของเมืองพุทธที่มากบาปจนเกินไถ่
ก็ยังพกความเฉยเมยผ่านเลยไป
เหมือนไม่มีสิ่งใดต้องสำนึก

กับความจริงที่ไม่อยากจะเห็น
ดังบ้าบอล้อเล่นความรู้สึก
สารพัดห่าเหวอันเลวลึก
ชัดเจนแล้วในประพฤติทรามต่ำช้า

โดยสามานย์กาลตอกย้ำอันซ้ำซาก
ผ่านหัวใจไร้ปากจึงไร้ค่า
เราปล่อยวางอย่างมืดบอดตลอดมา
จนสำนึกด้านชาการรับรู้

ในความบัดซบไม่จบสิ้น
ยางอายหรือเสาะรินความอดสู
ยังแต่พล่ามแอบอ้างข้างข้างคูคู
ปานชีวิตมึงกู ประเสริฐนัก !

ท่ามการปรากฏ อันสาไถย
สนองใครทั้งปวงให้ตวงตัก
ดุษฎีแห่งตัณหาสามิภักดิ์
เมื่อเงินควักซื้อได้ถึงใจคน
..................
โดยคำ ลานเทวา				
23 ธันวาคม 2551 12:59 น.

จึงต่างก้มหน้าพร้อมจะยอมรับ...!

ลานเทวา

หมดแล้วหัวใจ ไร้คำตอบ


ยิ้มสุดท้ายที่มอบแลโศกเศร้า


เหมือนมีความอ้างว้างระหว่างเรา


โลกซ่อนเงาพลัดพรากไว้จากลา



 


เหมือนการเดินทางถึงที่สุด


สัมพันธภาพนิ่งหยุดแสวงหา


การแบกรับภาระแห่งชะตา


จะจบสิ้นแรงนำพาไว้ตรงนั้น



 


ย่างก้าวของความเงียบเฉย


ย่ำผ่านเลยหัวใจผู้ไหวหวั่น


สิ้นจุดหมายปลายทางระหว่างกัน


ก็สิ้นจางสัมพันธ์ระหว่างใจ



 


จึงต่างก้มหน้าพร้อมจะยอมรับ


เหงาเศร้าอันซึมซับอารมณ์ไหว


ซุกสายตาซ่อนเร้นความเป็นไป


เงียบอยู่ในกาลล่วงห้วงภวังค์



 


จมอยู่ในกาลเวลาไร้คำตอบ


เก็บบางสิ่งที่มอบเป็นความหวัง


พักผ่อนเถิดหัวใจยามพ่ายพัง


สำมะหาใดจีรัง โลกใบนี้





โดยคำ ลานเทวา



				
20 ธันวาคม 2551 00:43 น.

นางฟ้า ราคาถูก ... !!

ลานเทวา

ต่างแปลกหน้าแปลกใจไม่รู้จัก
ผ่านสายลมทายทักเหมือนมักคุ้น
ซุกซ่อนเถิดความสงสัยหัวใจคุณ
ด้วยสัมผัสละมุนดอกน้ำค้าง

อาจจะลึกซึ้งไกลไปกว่านี้
เธอผู้ทอดไมตรีอันแตกต่าง
เงื่อนไขความต้องการคนผ่านทาง
คือคำตอบบอบบางเรือนร่างนั้น

เพียงผิวเผินชีวิตที่ผิดแปลก
ยะถากรรมเพี้ยนแผกชำแรกฝัน
ปลดเปลี่ยวโลกชำเราอย่างเมามัน
ข้ามขื่นคาวคืนวันใจผุพัง

ผ่านลมหนาวก้าวย่างอย่างช้าช้า
หลุบสายตาลังเลคะเนหวัง
ก้มหน้าซ่อนอารมณ์ม่านผมบัง
เยื้องกายอย่างระวังความเป็นไป

คมตาชายชำเรืองเรืองแววสื่อ
ซึ้งนัยคือความคุ้นชินถวิลไหว
เร้นภาษาซ่อนฝากมาจากใจ
บอกอะไรมากมายหนอสายตา

คล้ายจะอ้อนวอนเว้าอย่างเศร้าสร้อย
โศกร้าวรอยไหววาดปรารถนา
แม้นวงพักตร์จักเร้นความเย็นชา
เหมือนเมินเฉยชีวาอย่างชาเย็น

ไม่ต้องเอยใดมากเท่าอยากรู้
ความทุกข์ท้อส่ออยู่เพียงผ่านเห็น
หม่นใบหน้าแววตาย้ำนัยน์ลำเค็ญ
บอกเล่าไปทุกประเด็นชะตากรรม

ปรารถนาดีใดหรือใคร่มอบ
ให้เธอเป็นคำตอบในคืนค่ำ
ณ หลืบซอกตรอกนี้ที่ประจำ
ก็จบแล้วบรรดาคำอธิบาย

โดยคำ  ลานเทวา				
4 ธันวาคม 2551 16:08 น.

กล่อมขวัญ ในคืนจันทร์เหงา ... !!

ลานเทวา

พราวหยดชื้นน้ำค้างจะแตะแต้ม
เป็นหยาดเพชรเก็จแซมแสงจันทร์ฉาย
แผ่วเพลงขลุ่ยวังเวงบรรเลงพราย
กล่อมเห่โลกเดียวดายทุกอณู

หลับใหลเถิดความห่วงหา
ซ่อนนัยน์ตาโศกสลดยามอดสู
เย็นสายลมอ้างว้างจะพร่างพรู
เป็นความหนาวกราวกรูสะท้านใจ

ฤาจักเปลื้องห้วงเหงาอันเปล่าเปลี่ยว
ฝ่ากระแสทรามเชี่ยวมาห่มใคร่
ก่อนหุบห้วงเสน่หานิราลัย
เถอะ โอบกอดโลกละไมอุ่นชีวา

คราบหวานของน้ำผึ้งพระจันทร์
จะโลมฝันที่วาดปรารถนา
ให้เจ้าล่วงว้าเหว่โลกเอกา
อยู่ในห้วงนิทราอันภิรมย์

หลับเถิดจงหลับฝัน
สู่ห้วงนิจนิรันดร์แห่งสุขสม
ลืมเหน็บหนาวอ้างว้างที่พร่างพรม
หลับใหลจากความระทมในชีวิต

ฝันเจ้าจะข่มข้าม
สิ่งชั่วร้ายเลวทรามวิปริต
ลำนำแห่งความจริงจากมิ่งมิตร
จะบอกทิศบอกทางกระจ่างใจ

เพื่องดงามแห่งฝันในวันพรุ่ง
แสงตะวันจักจรุงชีวิตใหม่
วิถีอันทอถักจักอำไพ
ให้คนกล้าก้าวไปถึงสิ่งหวัง

โดยคำ  ลานเทวา				
3 ธันวาคม 2551 10:22 น.

น้ำตาและการจากลา ในเดือนพฤศจิกายน .... !

ลานเทวา

ไม่มีเสียงบทสวดวิงวอนใดใด
คำถามทุกลมใจหรือปรารถนา
ควันธูปเคลื่อนคลี่จางบางตา
อบอวลห้วงวิญญาณ์กำซาบซ่าน

จุดจบของความจริงแจ้งแจ่มชัด
เมื่อมัจจุราชผู้ซื่อสัตย์ก้าวล่วงผ่าน
ปลายทางเรื่องราวของวันวาร
จบทุกสิ่งโดยกาลอันกลืนกิน

เหมือนละครฉากสุดท้าย
ที่มาพร้อมความเดียวดายไม่รู้สิ้น
บางบทสนทนายังแว่วได้ยิน
บางความรู้สึกอันคุ้นชินยังหวนรู้

สิ่งบางสิ่งยังทิ้งค้าง
ไว้กับความอ้างว้างที่เป็นอยู่
ปล่อยภวังค์หม่นเศร้าให้เฝ้าดู
ภาพเรื่องราวหนึ่งผู้พรากจากลา

แลบทสวดวิงวอนบทใดเล่า
พอดับเศร้าโศกหม่นจักค้นหา
ยามพระธรรมเหน็บหนาวภาวนา
บนความธรรมดาที่น่าใจหาย

โดยคำ  ลานเทวา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลานเทวา