16 เมษายน 2556 19:20 น.
ลานเทวา
ขณะ ใบไม้ร่วง....!!!
............................
อัศจรรย์ กระนั้นภาพ
วิจิตรซาบมโน รโหฐาน
แต่ละท่วง ล่วงลับอัประมาณ
ก่อนเลือนคล้อย ในรอยกาลสงบงัน…..
ล่วงกำเนิดเกิดดับ สลับล่วง
สรรพธรรมทั้งปวง ทั้งจริงฝัน
พบผ่านความอ่อนไหว ของวัยวัน
จากสามัญสู่สามัญ เช่นนั้นแล้ว….
นับเนิ่นในนานา สภาวะ
ผ่านแต่ละขณะท่วง อันล่วงแผ่ว
สิ้นกำเนิดเกิดก่อ แต่หนอแนว
มโนภาพพร่างแพร้ว เพียงมายา….
อัศจรรย์ กระนั้นภาพ
วิจิตรซาบมโน โอ้ตัณหา
แต่ละท่วงล่วงผ่าน กาลเวลา
สบยึดวางมิสร้างซา ความเป็นไป....
ดังวิจิตรนาฏลีลา มายาภาพ
เริงระนาบระเนน เอนไหว
เคลื่อนละลิ่วพลิ้วล่อง ครรลองใจ
ล่วงระบัดกวัดไกว อัศจรรย์
ไม่สิ้นสุดผุดพราย กรายกำเนิด
ผ่านดับเกิดเกิดดับ นับจริง ฝัน
แต่ละรู้ล่วงรู้ อยู่ไหนกัน
กว่าเท่าทันสรรพสิ่ง เนิ่นดิ่งใจ
…………………..
โดยคำ ลานเทวา
30 มีนาคม 2556 17:43 น.
ลานเทวา
ทาง เช้า....!!
.............................
เหมือนสายลมผ่านล่วง ความห่วงหา
วันที่เราคุ้นตา กว่าวันไหน
งามสายแดดแผดอุ่น ละมุนไอ
ทอทาบเช้าที่เหงาใจ ใครคนนั้น…
ฝากสายลมแผ่วโบย ความโหยหา
ยามเมื่อการจากลา พาไหวหวั่น
กับช่วงเช้าที่เหงา เศร้าอีกวัน
โลกเงียบงัน ถ้อยคำ ใดนำพา…
ปล่อยความรักหลับใหล ในใจนี้
อย่าได้มีใดวาด ปรารถนา
จบทุกสิ่ง ไว้กับกาลเวลา
เลือนรอยช้ำน้ำตา อีกคราใจ…
ปล่อยเสรีเหตุผล ใครคนนั้น
อิสระความฝัน อย่าหวั่นไหว
เหมือนสายลมผ่านมา แล้วผ่านไป
ยึดติดมั่นอันใด ในสายลม…
ปลอบหัวใจผู้แพ้ ความแปรเปลี่ยน
ฝากหัวใจบทเรียน นั้นข้ามข่ม
ช่วงชีวิต สุข โศก โลกกลมกลม
ผ่านพบพรากหลากคม การครุ่นค้น…
………………………….
โดยคำ ลานเทวา
29 มีนาคม 2556 17:24 น.
ลานเทวา
บน ทาง...
........................
ด้วยงดงามความหวัง ที่ยังเหลือ
เป็นหนึ่งเชื้อโชนจิต ลิขิตฝัน
ยามทุกข์ท้อบนทาง ระหว่างวัน
หนึ่งแรงใจจักปัน เป็นแรงใจ…
แม้มิอาจรู้ได้ ในวันนี้
การเดินทางจะจบที่ หนแห่งไหน
จึงมิอาจรู้แจ้ง ทุกแหล่งนัย
สุดเส้นทางยาวไกล ใดจีรัง
ขอผู้อ่อนล้าใจ อย่าได้สิ้น
เรี่ยวแรงอันโบยบิน สู่ความหวัง
ปรารถนาดีจักเร้น เป็นพลัง
ให้เธอยังเพื่อนร่วมก้าว แม้ร้าวราน….
ไปเถิด ไปเพื่อค้นหาบางสิ่ง
ที่โลกลืมและทอดทิ้ง บนทางผ่าน
เพื่อความหมายอันงามงด ในบทกาล
เพื่อคุณค่านั้นเบ่งบาน ในชีวิต…
…………………………..
โดยคำ ลานเทวา
3 มีนาคม 2556 19:22 น.
ลานเทวา
แพ้บ้าง ช่างประไร...
...............................
แผ่วล่วงกาลผ่านแปร แต่ละภาพ
ก็เผินซาบใจซึ้ง ถึงไหนไหน
กว่ารู้ตนรู้ตัว โอ้ หัวใจ
เจ็บลึกเนิ่นเกินใคร จะรับรู้
เมื่อแต่ละภาพตำตา สภาวะ
จ่มแต่ละขณะท่วง อันล่วงสู่
เจ็บ มันถึงเจ็บไปทุกอณู
จบเนิ่นนับสดับดู อย่างผู้แพ้
เมื่อมิอาจหยัดอยู่ เยี่ยงผู้ชนะ
สิ้นจบฝันพันธะ ใดเผื่อแผ่
เฉยเมยโลกผ่านลา สองตาแล
เศร้างดงามจริงแท้ ผู้ปราชัย.
มีความเหงาเป็นเพื่อนในเรือน อก
ปลอบหัวใจสะทก สะท้านไหว
เริ่มชีวิตอีกหน ทนทนไป
เริ่มแบบไม่มีใคร จะใยดี.
เฉยเมยโลกเย็นชา ใจบ้าบิ่น
ดักดานทนคุ้นชิน ทุกถิ่นที่
เดียวดายโลกอ้างว้าง ในบางที
หลากทุกข์สุขบรรดามี ช่างประไร.
.
โดยคำ ลานเทวา
14 กุมภาพันธ์ 2556 20:04 น.
ลานเทวา
วาเลนไทน์.....
............................
เสียอะไรได้อะไร ใครต่างรู้
ยังสติดีอยู่ รู้ใช่ไหม
พรุ่งนี้เราจะได้อะไร เสียอะไร
กับวันวาเลนไทน์ ของปีนี้
ได้ความรักมาดื่มด่ำ
กลับเสียตัวถลำ ใช่หรือนี่
พ่อแม่เลี้ยงดูเรามาตั้งกี่ปี
ทำอะไรดีดี ให้ท่านรึยัง
แม้แต่เงินซื้อดอกกุหลาบ
มาแต่คราบไคลเหงื่อเจือความหวัง
จากแรงแม่แรงพ่อ ก่อพลัง
ให้ลูกยังใช้จ่าย ไม่อายคน
เสียอะไรได้อะไร ต่างใครรู้
ความอดสูจากครู่คราว เหน็บหนาวผล
วันแห่งรักวันแห่งใจ กระไรดล
ยอมเสียตัวเสียตน ให้คนรัก
ค่านิยมต่ำทราม นิยามค่า
เพรียกสาวกบอดตา มิตระหนัก
กุหลาบแดงแฝงกล สับสนนัก
สื่อชวนชัก รักเฟื่องเป็นเรื่องราว
เถอะ ก่อนจะเสียตัว เสียใจ
ถามพ่อแม่สักคำไหม เล่าหนุ่มสาว
ว่าความรักจะสุขชื่น และยืนยาว
ต้องผ่านคาวผ่านใคร่ ที่ไหนกัน
………………….
โดยคำ ลานเทวา