11 กรกฎาคม 2555 20:50 น.
ลานเทวา
ข้าฯ จึงเฝ้าถามส้นเท้า ทุกเช้าค่ำ
ยินแต่ลมผ่านพร่ำ ระโหยแผ่ว
ความสงบอันเกิดก่อ จากหน่อแนว
ช่างปิติเพริดแพร้ว ความโง่งม…
ความสงบอันเกิดก่อ จากหน่อแนว
สร้างปิติ เพริดแพร้ว ทรามโสมม……
.........โดยคำ...
21 มิถุนายน 2555 17:34 น.
ลานเทวา
รู้ พ่อรู้ และเข้าใจ
เจ้าต้องการอะไร ในเหตุผล
แต่สถานะเรานั้น มันต้องทน
เพราะช่องทางดิ้นรน เกินค้นทาง
.......................
18 พฤษภาคม 2555 20:27 น.
ลานเทวา
อักษรานุภาพ..ช่วงที่ ๒. ....
........................
รักข้ารัก ไปทุกอักขระร่าย
รักข้ารักไปทุกสาย ทางอักษร
รักข้ารักทุกลำนำ ทุกคำกลอน
รักข้ารักมิคลายคลอน ในบทคำ
ไม่สิ้นสุดบั้นปลาย จุดหมายข้า
ปรารถนาโลกปลื้ม ถ้อยดื่มด่ำ
ร่ายชีวิตจารจด เป็นบทจำ
ผ่านธารถ้อยลำนำ ฉ่ำชีวา
แต่ละท่วงบรรทัด ล้วนอัดแน่น
ด้วยความรักที่โลดแล่น ในภาษา
แต่ละถ้อยแต่ละคำ รำพันพา
เสน่ห์แห่งอักษรา ประหนึ่งมนต์
ร่ายชีวิตบรรเลง ผ่านเพลงเห่
ทุกข์สุขใจไหวเร่ หลากแห่งหน
จะอดอิ่มยิ้มร่ำ ท้อกรำทน
ดีทรามนิยามยล ด้วยหัวใจ
……………….
โดยคำ ลานเทวา
30 เมษายน 2555 19:49 น.
ลานเทวา
เค็มหยาดเหงื่อ เรื่อแดดที่แผดเผา
ตระหง่านเงาเมืองฟ้า พร่าวิถี
นิรนามความจริงฝัน บรรดามี
เร้นมุมภาพวันเดือนปี แห่งชะตา
ทุรายรนวนเวิ้ง อัปภาคย์
ทุกฝั่งฟากมืดมน การค้นหา
จากต้นเริ่มเดิมเห็น ความเป็นมา
ล้วนทุกข์ย้ำกรำพา ร้าวลำเค็ญ
นับไม่สิ้นในดิ้นรน ปรนชีวิต
จะลิขิตใดหวัง ยังไม่เห็น
ฝันเพียงฝันเก่าเก่า ผ่านเช้าเย็น
ฝันจะไป ฝันจะเป็น อยู่เช่นนั้น
กรำแรงงาน สานสร้างเป็นทางมอบ
มืดมนคือคำตอบ คำปลอบขวัญ
โอ้ ความวิไล ใต้ดวงตะวัน
อนาคตช่างเงียบงัน ความเป็นไป
สุดแรงล้า หน้าที่แห่งชีวิต
ณ ท่ามกลางความเบือนบิด ยุคสมัย
ความเจริญเดินหน้า เร็วกว่าใจ
แรงงานใคร ทนกล้ำให้ดำเนิน
…………………
โดยคำ ลานเทวา
15 เมษายน 2555 19:13 น.
ลานเทวา
เกาะกลิ้งไปบนใบหญ้า
สะท้อนแสงงามพา โลกเฉิดฉาย
ประทับชื่นเพียงครู่เช้า เพรางาย
วาดประกายดุจเพชร เก็จมณี
งดงามในช่วงเวลา สั้นสั้น
ประดับชื่นคืนฝัน ระยับสี
เฉกชีวิตผ่านลา ท่วงนาที
สุขชื่นอันดื่นมี ใช่นิรันดร์
เพียงครู่คราวหนาวร้อน สะท้อนพบ
ก็เลือนลบใจแล ในแปรผัน
เพียงครู่ครั้งดังใจ ไหวชีวัน
ก็พรากพลันไปพ้น จากหนใจ
แลทุกข์สุขอันดื่มด่ำ ดังน้ำค้าง
ประดับพร่างฤดู เพียงครู่ไหว
อันสุขชื่นดื่นเห็น โลกเป็นไป
หามั่นใดเที่ยงแท้ ความแน่นอน
ชื่นเพียงครู่คราวใจ ยามไหวผ่าน
โศกหม่นเศร้าเคล้ากาล อันไหวอ่อน
จากเศษเสี้ยวขณะฝัน ใจสัญจร
หลากหุบห้วงอาทร และร้อนเร่า
เหมือนน้ำค้างพร่างพราย กลางสายแดด
ตะวันแผดก็จางเลือน ไม่เหมือนเก่า
ที่ทอวาบประกาย กลางสายเงา
งดงามเจ้าก็ล่วงเลย ระเหยไป
………………..
โดยคำ ลานเทวา