11 มีนาคม 2552 12:58 น.
ลานเทวา
พูดคุยกับความเหงานิรนาม
เฝ้าคอยตอบคำถามที่เงียบหาย
ค้นหาบางสิ่งในความเดียวดาย
ค้นทุกพาย ปรารถนา และอารมณ์
ผ่านเรียบเรียบเงียบเห็นอยู่เช่นนั้น
เคลื่อนคืนวันคล้อยผ่านการทับถม
บางความฝันบางความจริงก็ดิ่งจม
ความอ้างว้างพร่างพรม ไร้บรรเทา
คงไม่มีจินตนาการ อธิบาย
บทสุดท้ายของกวี ช่างเงียบเหงา
ความรู้สึก อารมณ์ รูป เงา
ผ่านเคลื่อนจางบางเบา ภวังค์นั้น
แผ่วรำพึง วิปลาสปรารถนา
หวนรอยยิ้ม นัยน์ตา และความฝัน
ฟังเหงาเปลี่ยวเดียวดาย ร่ายรำพัน
ขับกล่อมโลกที่เงียบงัน อยู่เอกา
เหมือนต่างเราต่างหน คนละโลก
พรางเหงาโศกซุกไว้บนใบหน้า
แม้จะกลบเกลื่อนแล้ว นะแววตา
แต่บางสิ่งบางเวลา หรืออาจเร้น
พูดคุยกับความเหงานิรนาม
ครุ่นโดดเดี่ยวนิยามโลกที่เห็น
ค้นหัวใจไหนเล่า เหงาไม่เป็น
ยามโลกเงียบยะเยียบเย็น คงรู้ เหงา
..
โดยคำ ลานเทวา
1 มีนาคม 2552 00:36 น.
ลานเทวา
หยาดสรวงจากห้วงฟ้า
หวานนัยน์ตาจักรวาลตระการฝัน
มอบดื่มด่ำกำซาบในภาพควัน
เสน่หารำพันถึงรอยยิ้ม
วาดมโนเพียงเพ้อพิศวาส
ผ่านผิวผาดผุดผ่องขมองอิ่ม
ฝากรอยแย้มละไมประไพพิมพ์
ประดับริมขอบฟ้าขอบตาใจ
ห้วงรำพึงแห่งข้ามหาศาล
โบยบินจินตนาการจากลำไผ่
นางฟ้าเจ้าฟ้อนร่ายอยู่ภายใน
กังวานเพลงเรไรระงมห้วง
มีความรักจากช่อกัญชา
อุ่นอ้อมกอดเสน่หาอันแสนห่วง
หวานนัยน์ตาสบซึ้งไปถึงทรวง
รักทั้งปวงจะกำซาบตราบดินฟ้า
โลกหรือสิ้นอลังการวิมานนึก
แม้นล่วงดึกในหนยังค้นหา
ประหนึ่งเทพเสพกินจินตนา
โอบกอดควันมายาอันสิ้นไร้
มิอนาถวาสนาของยาจก
สวรรค์รู้อยู่ในอกหรือมิใช่
จะเร้นโลกอ้างว้างอำพรางใด
สรรพสิ่งเป็นไปเหมือนควันยา
ก่อนจะเคลื่อนเลืองลางแล้วจางหาย
การบอกเล่าความหมายและคุณค่า
ในเกิดดับลับลิบเพียงพริบตา
หรือนำพาล้อเล่นความเป็นตาย
ในท่ามกลางสายควันที่ลอยล่อง
แลผุดผ่องงามงอนเจ้าฟ้อนร่าย
อ้อยอิ่งควันเคลื่อนเงาอันเปล่าดาย
รอยยิ้มโลกแย้มพราย สุขอารมณ์
หยาดสรวงจากห้วงฟ้า
หวานนัยน์ตาทายทักมอบรักห่ม
พราวน้ำค้างพร่างชื่นดังผืนพรม
ข้าดับโลกโศกตรมในหมอกควัน
..
โดยคำ ลานเทวา
27 กุมภาพันธ์ 2552 20:38 น.
ลานเทวา
ท่ามกลางโลกอันเปล่าเปลือย
หนักและเหนื่อยกังวลจะพ้นผ่าน
หาพบเพียงผิวเผินในเนิ่นนาน
อันตรธานที่สุดสมมุติใด
ซ่อนเอย จะซ่อนเร้น
ซ่อนทุกอย่างที่เป็นไว้ตรงไหน
ซ่อนสัมพันธ์วันเก่ากับเงาใด
ฤาซ่อนใจลืมผ่านกาลเวลา
จะซ่อนโศกซ่อนตรมระทมทุกข์
หรือซ่อนสุขร้างเร่เสน่หา
ซ่อนความจริงความฝันอันลวงตา
ฤาเคยซ่อนเงามายาพ้นจากใจ
โลกมิเคยปิดบัง
แต่เจ้ายังหมายซ่อนความอ่อนไหว
ซ่อนทุกสิ่งทุกอย่างบนทางไป
ทั้งมิรู้ว่าทำไมต้องปิดบัง
หรือเจ้าหมายซ่อนชีวิต
ซ่อนทุกอย่างอันสถิตในสิ่งหวัง
ซ่อนความลวงความจริงความชิงชัง
ซ่อนชีวาอันพ่ายพังไว้กับกาล
.......................
โดยคำ ลานเทวา
24 กุมภาพันธ์ 2552 14:08 น.
ลานเทวา
เสียงอาซานสุดท้ายสิ้นปลายเสียง
ท่ามบทร่ายคัมภีร์เพียงจะปลุกปลอบ
อภิธรรมสะท้อนกล่าวในราวรอบ
ถามชีวิตเจ้าวางมอบพระเจ้าองค์ใด
รอยยิ้มอาญากรสงคราม
บริสุทธิ์นิยามโดยความใคร่
เหมือนความบ้าที่ผ่านมาแล้วผ่านไป
บนรองรอยบรรลัยซากหักพัง
เสียงขีปนาวุธแหวกอากาศ
แทนเพลงอิมเมจิ้นที่ไหววาดในความหวัง
แลก่ายกองศพซากฝากจีรัง
สันติภาพชิงชังโลกเสียแล้ว
ภูเขา และสายลมต่างร่ำไห้
ยามลมหนาวผ่านใจระโหยแผ่ว
สันติสุขแห่งวิถีไร้วี่แวว
ถนนลูกรังทอดแนวเป็นสีเลือด
เราต่างหากที่ปกป้องพระเจ้า
ด้วยความเขลาอันมิเคยแห้งเหือด
เราจึงต่างบิดเบือนต่างเฉือนเชือด
ท่ามกลางความสลบเหมือดของสันติธรรม
โลกสิ้นแล้วซึ่งศรัทธา
ต่อเหล่าสรรพชีวาผู้ต้อยต่ำ
กระสุนปืนจึงบ่งผ่านการกระทำ
บอกชั่วดีชี้นำแพ้ชนะ
โลกบันทึกสรรพสิ่งเรื่องราว
บนหน้าข่าวทีวีอิสระ
ภาพสงครามวิปโยคโลกปะทะ
สื่อโศกนาฏกรรมขณะหนาวฤดู
..
โดยคำ ลานเทวา
20 กุมภาพันธ์ 2552 12:47 น.
ลานเทวา
กระดกหมดหมื่นแก้ว..............................รำพึง
รินส่งดับคะนึง.....................................บ่งร้าว
โศกแสนจ่มใจจึง........................เมาร่ายรำพัน
ด่ำดื่มข่มใจน้าว........................ไป่พ้นระทม ฯ
รินกรอกบอกขื่นช้ำ.................................ใจทน
แลหนึ่งจักเสียคน...................................ป่านนี้
เถอะใจข่มกังวล.........................เกิดก่อภายใน
ไยเล่ารักจึงลี้...........................ห่างพ้นในทาง ฯ
ถามเหล้าเหล้าไป่รู้..................................ใดยล
ถามกู่อยู่ในตน......................................ไป่แจ้ง
เมามายแต่รักรน........................พาลเบื่อโลกแฮ
แลท่าบ่ถึงแล้ง..............................แน่แล้วชีวา ฯ
ฝนเอยจงหลั่งไล้......................................โลมกู
ชะซึ่งน้ำตาพรู...................................พร่างพร้อย
หักใจหนึ่งพธู............................นวลแจ่มเจ้าเอย
จากล่วงสิบชาติคล้อย..............อย่าได้พ้องพาน ฯ
----------------------------------------
โดยคำ ลานเทวา